หลายคนอาจจะหยุดวิ่งก่อนเวลาที่ตั้งใจไว้ เพียงเพราะมีอาการจุกท้องเข้ามาเสียดื้อๆ ซึ่งอาการนี้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาของนักวิ่งหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ ดังนั้นใครที่ชอบเจออาการจุกท้องในขณะวิ่ง วันนี้เราขอนำทริควิ่งไม่ให้จุกท้องมาให้ได้ลองทำตามกันดูค่ะ

1.กินน้อยก่อนวิ่ง

วันไหนที่มีแพลนวิ่ง แนะนำให้กินอาหารก่อนวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมง และไม่ควรกินในปริมาณที่มากจนเกินไป รวมทั้งควรเลือกกินอาหารที่สามารถย่อยได้ง่าย พยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูงและอาหารที่มีไขมันสูงจะดีที่สุด

2.วอร์มอัพก่อนวิ่ง

ไม่เฉพาะแค่เพียงการวิ่งเท่านั้น แต่รวมถึงการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ก็ควรวอร์มอัพก่อนวิ่งเสมอ เพื่อเป็นการเตรียมกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้พร้อมสำหรับออกกำลังกาย อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยยืดเส้นและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อในทุกส่วนให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

3.หายใจให้ถูกวิธี

การหายใจในขณะวิ่งให้ถูกวิธีจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาจุกท้องได้ ซึ่งการหายใจที่ถูกต้องควรหายใจเข้าทางจมูกและปล่อยลมหายใจออกพร้อมกันทั้งทางจมูกและปาก และควรปล่อยให้เป็นไปอย่างสบาย พร้อมทั้งพยายามหายใจด้วยท้อง ที่สำคัญควรสูดหายใจเข้าปอดจนท้องขยายและบังคับปล่อยลมออกมาด้วยการแขม่วท้อง

4.ปรับท่าวิ่งให้ถูกต้อง

เริ่มแรกก่อนจะใช้วิธีนี้ สาวๆ ต้องสังเกตท่าวิ่งของตัวเองก่อน ดูว่าเอนลำตัวช่วงบนไปด้านหน้ามากเกินไปหรือเปล่า เนื่องจากท่าวิ่งดังกล่าวเป็นต้นเหตุของอาการจุกท้องในขณะวิ่งนั่นเอง ดังนั้นจึงแนะนำให้ปรับท่าวิ่งให้ถูกต้อง โดยควรวิ่งหลังตรงและให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ในส่วนศีรษะให้วางตรง ส่วนตามองไปข้างหน้า รวมทั้งส่วนต่างๆ เริ่มตั้งแต่ศีรษะลงมาที่ไหล่ สะโพก จนถึงพื้นควรให้เป็นเส้นตรง ไม่ควรโน้มไปด้านหน้าหรือเอนไปด้านหลัง

5.ฟิตเฟิร์มช่วงลำตัว

ในส่วนของกล้ามเนื้อส่วนลำตัว เช่น กล้ามเนื้อท้อง หลัง และสะโพก เป็นส่วนที่ถูกใช้ในขณะวิ่งค่อนข้างหนักไม่แพ้ช่วงล่างเลย ดังนั้นจึงต้องสร้างความแข็งแรงในส่วนลำตัวให้มากกว่าเดิมจะช่วยแก้ปัญหาจุกท้องได้ดี

6.ใช้รัดเอวช่วย

สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาจุกท้องในขณะวิ่งอยู่บ่อยๆ แนะนำให้ใช้วิธีรัดเอวช่วย ซึ่งทำได้ด้วยการใช้ผ้ารัดไว้ที่บริเวณเอว วิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายขยับส่วนนี้ได้น้อยลงในขณะที่กำลังวิ่ง ส่งผลให้อาการจุกท้องลดน้อยลงไปด้วย

7.ลดระดับความเร็ว

หากมีอาการจุกท้องในขณะวิ่ง และพยายามใช้หลากหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่เกิดผล ให้ลองใช้วิธีลดระดับความเร็วในการวิ่งดูค่ะ หลังจากลดระดับความเร็วแล้ว ให้พยายามผ่อนคลายลมหายใจออกทุกครั้งที่เท้าข้างที่ท้องไม่จุกแตะพื้น ตามด้วยสูดลมหายใจเข้าเมื่อเท้าข้างที่ปวดแตะพื้น สลับทำอย่างนี้เรื่อยๆ จะช่วยแก้อาการจุกท้องได้ดี

นอกจาก 7 ทริควิ่งอย่างไรไม่ให้จุกท้องที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้วนั้น ยังมีวิธีการพักและยืดเส้น รวมทั้งการหมั่นวิ่งบ่อยๆ ก็ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาจุกท้องได้ดีเช่นกัน ยังไงก็อย่าลืมหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ออกกำลังกายกันให้ดีด้วยนะคะ ทั้งนี้เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีนั่นเอง