การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังให้ผิวพรรณสดใสอีกด้วย เพราะการออกกำลังกายช่วยเพิ่มร่างของการสูบฉีดเลือด เมื่อเลือดไหลเวียนดีขึ้น ออกซิเจนและสารอาหารก็สามารถลำเลียงผ่านไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายและผิวของเราได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผิวพรรณที่ควรจะสดใสหลังการออกกำลังกายก็อาจหมองคล้ำได้ หากเราไม่ดูแลและปกป้องผิวให้ดีพอ

ในแสงแดดมีรังสีอยู่หลายชนิด รังสีส่วนใหญ่มักโดนชั้นบรรยากาศของโลกสกัดกั้นไว้ ทำให้ไม่สามารถสัมผัสกับผิวของเราได้  แต่รังสีรังสียูวีเอและยูวีบีสามารถเล็ดรอดผ่านมาและทำลายผิวหนังของเรา แม้ว่าจะอยู่ในที่ร่มก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น รังสีทั้งสองเป็นตัวการทำให้ผิวเรามีสีคล้ำกว่าเดิม โดยรังสียูวีเอสามารถผ่านเข้าไปในชั้นหนังแท้และทำลายคอลลาเจนกับอิลาสติน  อันเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเกิดฝ้า กระ มีริ้วรอย และแก่ก่อนวัย   ส่วนยูวีบีนั้น แม้จะผ่านเข้าไปในผิวหนังได้แค่ชั้นหนังกำพร้า และส่วนบนของหนังแท้ แต่ก็เป็นตัวการที่ทำให้ผิวดำ ไหม้และลอกได้  อย่างไรก็ตาม รังสีทั้งสองนี้ ก็ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนัง ซึ่งการป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีนั้้น ทำได้โดยการทาครีมกันแดด โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี PA หรือค่าป้องกันรังสียูวีเอซึ่งมีระดับจากการปกป้องน้อยไปหามาก คือ PA+, PA++, PA+++ และควรมีค่าป้องกันรังสียูวีบี หรือ ค่า SPF ไม่ต่ำกว่า SPF 15 และยิ่งตัวเลขสูงขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งปกป้องรังสียูวีบีได้มากขึ้นเท่านั้น

การเลือกค่า SPF ว่าควรมีมากน้อยเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์จากการโดนแดด และกิจกรรมที่จะทำว่าต้องสัมผัสแดดนานแค่ไหน  เช่น ถ้าเคยตากแดดแล้วผิวไหม้แดงในเวลา 15 นาที หากทาครีมกันแดดที่มี SPF 20 เข้าไป ผิวจะไหม้ในเวลาเป็น 20 เท่า คือ 300 นาที (=15×20) หรือ 5 ชั่วโมง ซึ่งก็คือ เวลาที่ผิวสามารถทนต่อแสงแดดได้ก่อนที่จะถึงจุดที่ผิวของคุณไหม้นั่นเอง หากต้องออกแดดนานๆ ก็ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF สูงๆ และควรหมั่นทาให้บ่อยๆ

ส่วนเรื่องการติดทนนานนั้น ต้องเลือกให้เหมาะกับกิจกรรม หากต้องมีการสัมผัสน้ำมาก เช่นการว่ายนำ้ ก็ควรเลือกครีมกันแดดที่ระบุ ว่า Waterproof ซึ่งสามารถปกป้องแดดได้ 80 นาที หลังจากสัมผัสกับน้ำ ครีมประเภท Waterproof มีความเหนียวข้น ทาแล้วอาจรู้สึกเหนอะหนะ หากไม่ได้สัมผัสกับน้ำมาก เช่น เป็นคนที่เหงื่อออกมากๆ ในชีวิตประจำวัน การเล่นกีฬาทั่วไป เล่นน้ำสงกรานต์ หรือ Pool Party  ก็ควรเลือกใช้ครีมประเภท Water-resistant ที่ปกป้องผิวได้ 40 นาทีเมื่อสัมผัสน้ำ ซึ่งก็น่าจะเพียงพอแล้ว  อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่แสงแดดแรงที่สุด หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว เพื่อให้ผิวไม่สัมผัสกับรังสียูวีโดยตรง และก่อนการทาครีมกันแดดครั้งแรก ควรลองทาที่ท้องแขนก่อนเพื่อทดสอบการแพ้ เนื่องจากผิวบริเวณนั้นใกล้เคียงกับผิวหน้า ถ้าไม่แพ้ ก็ค่อยนำมาทาที่ผิวหน้าและผิวกาย

รังสียูวีมีอยู่ได้ทุกที่ และมีตลอดทั้งปี ซึ่งนอกจากการปกป้องผิวของเราให้แล้ว หากต้องออกกีฬากลางแจ้ง หรืออยู่ในยิมที่แสงแดดเข้าถึงมากๆ ควรปกป้องดวงตาโดยการสวมแว่นตากันแดดที่เคลือบสารยูวี เพื่อช่วยลดการเกิดต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมจากรังสียูวี เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและผิวของเราค่ะ.

โดยแพทย์หญิงสุพิชา ชวนิชย์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก