กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณทางยา พืชสมุนไพรไทย
เปิดอ่าน 1,155 views
กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณทางยา พืชสมุนไพรไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Hibiscus sabdariffa Linn. |
วงศ์ | MALVACEAE |
ชื่ออื่น ๆ | แขว้งเคีย (ตาก) มะแว้งเถา (กรุงเทพฯ) |
ลักษณะของพืช | กระเจี๊ยบแดงเป็นพืชล้มลุกปีเดียว ลำต้นสูง 1–2 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดงใบออกสลับกัน ก้านใบยาวประมาณ 5 ซม. ตัวใบรีแหลมอาจมีรอยเว้าลึกแบ่งตัวใบ ออกเป็น 3 แฉก ดอกสีชมพูอมแดง หลังจากดอกแก่เต็มที่แล้ว กลีบเลี้ยงจะติดกันสีแดงอมม่วง เนื้อหนากรอบหักง่ายห่อหุ้มเมล็ดสีดำเมล็ดมีจำนวนมากกระเจี๊ยบแดงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกมีตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ประเทศเยอรมัน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น |
ส่วนที่ใช้เป็นยา | กลีบเลี้ยงและกลีบรองดอก |
สรรพคุณและวิธีใช้ | แก้อาการขัดเบา ใช้กลีบเลี้ยงหรือกลีบรองดอกสีม่วงแดง ตากแห้งและบดเป็นผง ใช้ครั้งละ 1 ช้อนชา (หนัก 3 กรัม) ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร) ทิ้งไว้ 5–10 นาทีรินเฉพาะน้ำสีแดงใสดื่มวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันทุกวันจนกว่าอาการขัดเบาจะหายไป |
การขยายพันธุ์ | ใช้เมล็ด |
สภาพดินฟ้าอากาศ | โดยเตรียมดินและพรวนดินให้ร่วน และใช้เมล็ดพันธุ์หยอดหลุมละ 3–5 เมล็ด ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 70 ซม. ระหว่างแถวห่าง 120–150 ซม. เมื่อกระเจี๊ยบแดงอายุได้ 3–4 สัปดาห์ ให้เลือกถอนต้นที่ไม่แข็งแรงออกเหลือไว้เพียง 1–2 ต้น |
การปลูก | ปรับดินให้เรียบ กำจัดวัชพืชออกให้หมด หยอดเมล็ดลงในดินให้ลึก 2–3 ซม. กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม |
การบำรุงรักษา | กระเจี๊ยบแดง ต้องการน้ำในช่วง 1 เดือนแรกเท่านั้น ต่อจากนั้นจะทนความ แห้งแล้งได้เป็นอย่างดี |
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณทางยา พืชสมุนไพรไทย
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น