นอกจากดูแลเรื่องใบหน้าและความสะอาดของร่างกาย จุดหนึ่งที่หนุ่มๆ ไม่ควรละเลย คือ การดูแลน้องชายของเราให้สะอาด แห้ง ไม่เปียก อับ ชื้น ซึ่งอาจจะเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ ได้

นพ.กัมปนาท พรยศไกร ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ เจ้าของเพจให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเพศชาย ได้โพสต์ข้อความเรื่องนี่ว่า เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เพื่อนๆ หลายคนคงได้หยุดกลับบ้านไปไหว้พระ ขอพร เล่นน้ำกันสนุกสนานกันนะครับ ตอนนี้ก็เตรียมกลับมาทำงานกันแล้ว หลายวันที่ผ่านมาก็คงผ่านประสบการ์เปียก อับ ชื้นมากันไม่มากก็น้อย วันนี้เราก็เลยเอาวิธีดูแลปืนฉีดน้ำมาฝากกันครับ

1.เลือกใช้สบู่อ่อนๆ

ควรเลือกใช้สบู่อ่อนๆ นะครับ จู๋ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้ว ผิวมันบาง ไม่ต้องรุนแรงมาก จะใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์กับแอนตี้แบคทีเรียหรือไม่ก็ได้ หรือถ้าหาไม่ได้ก็สบู่เด็กพอครับ อย่าไปเอาไฮเตอร์มานะ

2.เช็กปืนฉีดน้ำว่าสกปรกหรือไม่

เวลาอาบน้ำทุกครั้ง ควรดูให้แน่ใจว่ามีสิ่งสกปรกใด ๆ ที่น้องเราหรือไม่ สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ยังมีหมวกคลุม ก็ต้องเช็กว่ามีขี้เปียกหมักหมมใต้หมวกหรือไม่ เพราะหากมี จะทำให้น้องชายมีกลิ่นเหม็นและมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งจู๋ด้วยครับ ถ้าเปิดหมวกได้ไม่ดีหรืออักเสบบ่อย ก็ไปให้คุณหมอขริบให้ ยอมเจ็บซักนิดเพื่อสุขอนามัยที่ดีของเราและคนที่เรารักครับ

3.ทำให้แห้งอยู่เสมอ

เนื่องจากความชื้น มันจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีครับ ฉะนั้นควรดูแลบริเวณสำคัญให้แห้งอยู่เสมอ หลังอาบน้ำควรใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ หรือจะผ้านาโนไรก็ได้เช็ดน้องชายให้แห้งสนิทก่อนสวมชั้นใน อย่าใช้ผ้าสักหลาดเพราะเดี๋ยวเกิดไฟฟ้าสถิตย์ เช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นสะสม ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ครับ

4.เล็มขนรอบๆ น้องชายบ้าง

การเล็มขนที่อยู่บริเวณนั้นให้สั้น จะช่วยลดกลิ่นเหม็นและอาการระคายเคืองได้ เพราะขนบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งสะสมของเหงื่อ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่าโกนอย่างเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวผีผลัก และเนื่องจากอาจทำให้คันและมีขนคุดอักเสบได้ครับ

5.ให้น้องชายได้สูดอากาศบ้าง

เนื่องจากปกติปืนฉีดน้ำเราอยู่ในกางเกงชั้นในและกางเกงชั้นนอกตลอดทั้งวัน นอกจากจะมีเหงื่อสะสมแล้ว ยังก่อให้เกิดเชื้อราบริเวณโดยรอบได้ ถ้าเป็นไปได้ควรปล่อยน้องชายเป็นอิสระอย่างน้อยวันละ 2-3 ชั่วโมงขณะอยู่บ้าน(แค่ใส่บ๊อกเซอร์นะ ไม่ใช่แก้ผ้า)​ เพื่อระบายความอับชื้นนั่นเอง ไม่ก็นอนโดยไม่ใส่ชั้นในก็ได้ครับ แต่อาจจะต้องมัดมือคนข้างๆ ไว้ ไม่งั้นเขาอาจมารบกวนเวลาพักของเราได้

6.เลือกใส่กางเกงในบาง ๆ

การเลือกใส่ชั้นในที่ทำจากผ้าเนื้อบาง จะช่วยระบายความร้อนและลดเหงื่อได้ดีกว่าการใส่ชั้นในหนา ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการระคายเคืองที่ง่ามขาครับ อย่าเลือกพวกที่ทำมาจากผ้ายีนส์หรือลูกฟูกนะ เดี๋ยวจะตุงเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภคเค้า

7.ใส่แล้วก็ซักด้วย

กางเกงชั้นในเป็นสิ่งที่ห่อหุ้มน้องเราตลอดทั้งวัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิ่งสกปรกสะสม ดังนั้นควรเปลี่ยนกางเกงในทุกวัน ไม่ใส่ซ้ำ หรือกลับนอกกลับใน และควรซักกางเกงชั้นในให้สะอาดอยู่เสมอครับ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาจมีเชื้อราได้

ก็เป็นสาระที่เอามาฝากกันนะครับ ผ่านสงกรานต์ที่เปียกอับชื้นมาแล้ว ใครที่รู้สึกตะหงิดๆ ว่าน้องชายไม่สะอาดเท่าที่ควร ก็นำวิธีเหล่านี้ไปชำระล้างน้องชายกันเลย เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตัวคุณเองยังไงล่ะครับ