กำไรเพียบ!!ปลูก ‘ดอกขจร’ ขายรายได้ไม่ธรรมดา
กำไรเพียบ!!ปลูก ‘ดอกขจร’ ขายรายได้ไม่ธรรมดา
แนะปลูก ‘ดอกขจร’ พืชนอกสายตา แต่ราคาไม่ธรรมดา ดังไกลถึงฝั่งลาว
วันนี้ คอลัมน์ 108 อาชีพ ได้มีโอกาส สัมภาษณ์ พูดคุยกับ คุณแม่คำตา โสนะชัย อายุ 62 ปี ชาวร้อยเอ็ด เจ้าของสวนมีสุข ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการปลูกและเพาะพันธุ์ดอกขจรมากว่า 10 ปี
คุณแม่คำตาเล่าว่า เริ่มแรกคิดว่าดอกขจร หรือผักขิก เป็นไม้ป่าทั่วไป ในตอนแรกยังไม่รู้สนใจจะปลูกเท่าไหร่ จึงปลูกพืชผักทั่วไปขายเรื่อยๆ ต่อมานึกอยากหาผักที่ปลูกได้ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ เลยลองปลูกดอกขจร มีขึ้นทั่วไปตามป่าตามสวนดู
หลังจากปลูกมาได้สักระยะ ประมาณ 2-3 เดือน เริ่มเห็นว่าออกดอก พอถึงประมาณเดือนที่ 6 จึงเก็บผลผลิตและนำออกไปขายที่ตลาด จนเริ่มมีคนสนใจ เพราะผลผลิตที่ได้ดอกใหญ่ มีกลิ่นหอม หลังจากนั้นจึงเริ่มพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆ มีหน่วยงานขอเข้ามาดูงานที่สวน จนกระทั่งมีแนวคิดเพาะพันธุ์ดอกขจรขายให้กับผู้ที่สนใจปลูกดอกขจร
ในส่วนของรายได้ ทางสวนเริ่มแรกนำไปขายเองบ้าง และมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อบ้าง ราคาจะตกอยู่ที่ประมาณ กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งดอกขจรนั้นจะเก็บผลผลิตได้ 10 – 20 กก.ต่อวัน ต่อมาได้มีคนสนใจซื้อกิ่งไปปลูกต่อ จึงได้เพาะพันธุ์ดอกขจรขายด้วย พร้อมทั้งแนะนำการตลาด และช่วยขายให้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในแถบอีสาน ไปจนถึงประเทศลาว ที่ข้ามฝั่งมารับซื้อกิ่งพันธุ์ดอกขจรถึงหน้าสวนกันเลยทีเดียว
ขันตอนการปลูกดอกขจรให้ ผลผลิตงาม
- เตรียมพื้นที่ปลูก ด้วยการวัดความเป็นกรดหรือด่างของดิน ซึ่งดอกขจรจะชอบดินที่เป็นกรดเล็กน้อย จากนั้นไถกลบดิน 2 ครั้ง และตากแดทิ้งไว้ ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วค่อยหว่านปูนขาวปรับสภาพดินด้วยก็ได้
- จำเป็นต้องเลือกชนิดพันธุ์ดอกขจรที่จะปลูกให้เหมาะสม ซึ่งมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ขจรพันธุ์พื้นเมืองและขจรพันธุ์ดอก ซึ่งดอกขจรพันธุ์ได้มาจากการปรับปรุงสายพันธุ์ของดอกขจรพันธุ์พื้นเมืองทำให้ได้ขจรที่มีดอกที่ใหญ่และดกมากขึ้น
- ขุดหลุมระยะห่างกัน 2 คูณ 2 เมตร เพราะฉนั้นใน 1 ไร่ จะปลูกดอกขจรได้จำนวน 400 ต้น รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหลุมละครึ่งกิโลกรัม พรวนดินผสมกันกับปุ๋ยให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วนำต้นดอกขจรมาลงหลุมแล้วนำฟางมาคลุมไว้ เพื่อรักษาความชื้นให้กับต้นขจรและป้องกันหญ้าขึ้นได้อีกด้วย
- การให้น้ำดอกขจร ถึงแม้ขจรจะไม่ชอบน้ำแต่ก็ไม่สามารถขาดน้ำได้เลย ควรรดน้ำวันละครั้งเพื่อให้ดอกมีที่โตและไม่เหี่ยวเฉา
- ควรใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมกับต้นดอกขจร ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยสูตร 25-7-7 โดยใส่สลับกันทุก 15 วัน
- ควรป้องกันศัตรูของดอกขจร โดยเฉพาะ เพลี้ยไฟ ด้วยวิธีการป้องกันที่เหมาะสม
- ควรทำค้างดอกขจรที่เหมาะสม ดอกขจรจะได้รับแสงแดดและออกดอกที่ดี
ดอกขจร หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า ดอกสลิด หรือ ดอกผักขิก ไม่เพียงแค่เป็นพืชไม้เลื้อยทั่วไป หรือผักต้ม ที่นำมาบริโภคให้ท้องอิ่มเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางยามากมาย อาทิ
ยอดอ่อน ดอก ลูกอ่อน บำรุงธาตุ บำรุงตับ ปอด แก้เสมหะเป็นพิษ ราก ก็สามารถถอนพิษเบื่อเมา ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมและกลายเป็นพืชเกษตรที่มีราคาดี เนื่องจากบางช่วงสามารถจำหน่ายได้ถึงกิโลกรัมละ 200 บาทเลยทีเดียว
สำหรับผู้สนใจ อยากลองนำกิ่งพันธุ์ดอกขจรไปปลูก สามารถสอบถามวิธีการปลูกอย่างละเอียด และช่องทางการจำหน่ายได้ที่ สวนมีสุข รับรองว่าได้ความรู้ในการปลูกดอกขจรอย่างครบถ้วน แน่นอนค่ะ
ทีมข่าว MThai News ขอขอบพระคุณ คุณแม่คำตา โสนะชัย ที่อนุญาตให้นำภาพ ดอกขจร สวนมีสุข จ.ร้อยเอ็ด มาใช้ประกอบข่าว ไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
พรรทิภา ชูปรีชา ทีมข่าว MThai News รายงาน
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : กำไรเพียบ!!ปลูก ‘ดอกขจร’ ขายรายได้ไม่ธรรมดา
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น