ปิดเมนู
หน้าแรก

9 วิธีปลุกใจตัวเองให้อยากออกกำลังกาย

เปิดอ่าน 25 views

9 วิธีปลุกใจตัวเองให้อยากออกกำลังกาย

Pepperrr

สนับสนุนเนื้อหา

สำหรับคุณผู้ชายที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักเกิน อยากมีหุ่นฟิตเฟิร์ม หรืออยากมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัย แต่ไม่มีแรงใจในการสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่เลือกซื้อเป็นอย่างดีเพื่อใส่ไปออกกำลังกายใช่ไหม

เราขอแนะนำ 9 เคล็ดลับกระตุ้นแรงใจให้อยากออกกำลังกายในทุกๆวันโดยไม่รู้สึกว่า “เนี่ยฉันต้องออกกำลังกายอีกแล้วเหรอ” หรือ “อยากหุ่นดีจัง แต่ขี้เกียจออกกำลังกายจัง” ถ้าคุณได้อ่านเคล็ดลับเหล่านี้แล้วคุณจะอยากออกกำลังกายทุกวันโดยไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน

1. ให้การออกกำลังกายเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำของวัน

Dr.Jennifer Farrell ที่ปรึกษาประจำโรงเรียน และนักจิตวิทยาการกีฬาที่ Shattuck-St ได้กล่าวไว้ว่า “ในตอนเช้าของวัน ฉันมักจะออกกำลังกายเป็นสิ่งแรกเพื่อที่ว่าในระหว่างวันฉันจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการออกกำลังกายอีก” ณ โรงเรียนแมรี่ใน Faribault, Minnesota และถ้าคุณจะบอกว่าคุณไม่ใช่คนตื่นเช้าแล้วละก็ ไม่ต้องกังวลค่ะแค่คุณเตรียมทุกอย่างที่คุณต้องใช้ให้พร้อมในตอนกลางคืนเพื่อตอนเช้าจะได้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายทันที

2. อย่าออกกำลังกายคนเดียว

จงจำไว้ว่าอย่าออกกำลังกายเพียงคนเดียว Dr.Amanda J. Visek รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาตร์การออกกำลังกายและโภชนาการที่สถาบันสาธารณสุขมิลเกนของมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ได้กล่าวว่า สุนัขเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการออกกำลังกายด้วยกันซึ่งช่วยให้เขาใจจดใจจ่ออยู่กับการวิ่งของเขาได้ แต่ถ้าคุณไม่มีสุนัขก็ไม่เป็นไรค่ะ ชวนเพื่อนของคุณมาเป็นบัดดี้ในยิมหรือเพื่อนวิ่งไปด้วยกันก็ยังได้ค่ะเพราะคุณจะมีโอกาสอู้น้อยลงถ้าคุณรู้ว่ากำลังมีคนรอคุณอยู่

3. กำหนดวันเวลา

Visek กล่าวว่า เราควรใส่ตารางการออกกำลังกายลงไปในหมายกำหนดการเช่นดียวกับกิจกรรมอื่นๆ เนื่องจากว่าการมีหมายกำหนดการออกกำลังกายในปฏิทินจะทำให้โอกาสในการอู้น้อยลง

4. ไม่ชอบอะไร? อย่าทำ

“มันจะดีมากเลยถ้าคุณออกกำลังกายด้วยความอยากที่จะทำแทนที่จะทำเพียงเพราะสิ่งที่คนอื่นบอกว่าสิ่งนี้ดีสิ่งนั้นดี ต้องทำแบบนี้นะถึงจะดี” คำกล่าวจาก (แปลโดยจำใจความสำคัญ) Dr.Brandonn S. Harris รองศาสตจารย์และผู้อำนวยการของวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพและมนุษยศาสตร์ โรงเรียนสุขภาพและกายภาพ มหาวิทยาลัย Georgia Southern นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า “เพียงเพราะคนอื่นปั่นจักรยานกันเป็นกลุ่ม หรือเล่น CrossFit (เป็นการรวมเอาการทำ คาร์ดิโอ กับ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อเข้าด้วยกัน) ซึ่งมันอาจไม่ใช่สำหรับคุณ ก็ควรหาการออกกำลังกายที่ใช่และคุณสนุกกับมันจริงๆ จะดีกว่า”

5. ควบคุมพลังคิดบวก

Stephanie Pearl นักจิตบำบัดในเมืองนิวยอร์ก และอาจารย์ใน SoulCycle เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณกำลังพยายามที่จะพักจากกิจกรรมที่ทำคุณอาจบอกตัวเองว่าคุณควรออกไปวิ่ง หรือออกกำลังกายได้นะ อาจเป็นความคิดที่ดูแปลกสักหน่อย แต่เพียงแค่คุณบอกตัวเองว่าคุณต้องการออกกำลังกาย มันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ได้เลยละ”

นอกจากนี้เธอยังให้คำแนะนำอีกว่า ถ้าวิธีคิดด้านบนไม่ได้ผลลองหาเพลงเพราะๆ หรือเพลงโปรดสักเพลงมาฟังระหว่างคุณออกกำลังกายก็ได้

6. ยอมรับว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบเสมอไป

ยอมรับเถอะ! บางวันมันก็ยากมากที่คุณจะสามารถรวบรวมพลังทั้งหมดของคุณเพื่อออกกำลังกาย ฉะนั้นคุณต้องทำอะไรสักอย่าง หรือยอมรับมันว่าคุณไม่ได้รู้สึกดีสุดๆ และยังคงเหนื่อยกับการทำสิ่งต่างๆ และออกกำลังกายต่อไปด้วยการทำกิจกรรมเบาๆ เช่น วิ่งช้าๆแทนที่จะนอนแช่อยู่หน้าทีวี

7. กำหนดเวลา

จากงานวิจัย คุณจะเห็นถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายโดยแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนละ 10 นาที ใน 30 นาทีต่อวัน คุณอาจจะเดินเร็วรอบสวนสาธารณะสักรอบละ 10 นาที สามรอบก็ได้ หรือลองออกกำลังกายเบาๆ 20 นาทีในตอนเช้า และออกกำลังกายแบบหนักอีก 10 นาทีในตอนเย็น Farrell ได้กล่าวว่า “ทำทีละเล็กทีละน้อย แทนที่จะบอกว่าฉันไม่มีเวลามากถึงครึ่งชั่วโมงเพราะฉะนั้นฉันจะไม่ทำมัน” แต่พยายามที่จะมองว่า “ได้ออกกำลังกายสัก 10 หรือ 15 นาทีก็ยังดีกว่านั่งอยู่เฉยๆละน่า”

8. กำหนดเป้าหมายของคุณ

ถ้ามีคนมาถามคุณว่าทำไมต้องการที่จะออกกำลังกาย “คำตอบของคุณไม่ควรที่จะเป็น “เพราะฉันเชื่อว่า” หรือ “เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกที่จะทำมัน” คุณควรมีความต้องการตริงๆ และรู้จริงๆว่าทำไมคุณถึงต้องการออกกำลังกาย คุณควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและดีกว่าที่เป็นอยู่” ทั้งหมดนี้คือคำแนะนำจาก Pearl

นอกจากนี้ Farrell ยังได้แนะนำว่าควรเขียนลงไปในสมุดบันทึกหรือกระดาษจดว่าทำไมคุณถึงต้องการออกกำลังกายและคุณหวังความสำเร็จอะไรจากการออกกำลังกายนี้ เช่น ต้องการยกเวทให้ได้น้ำหนักมากขึ้น หรือต้องการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น

9. ให้ความสำคัญกับเป้าหมาย และทำให้สำเร็จ

แน่นอนว่าคุณจะรู้สึกเหนื่อยแทบตาย เมื่อนาฬิกาปลุกดังในตอนเช้าบ่งบอกว่าคุณต้องตื่นไปออกกำลังกาย แต่จงเตือนตัวเองไว้เสมอว่ามันดีอย่างไร และคุณจะรู้สึกถึงพลังที่กลับมาในภายหลังที่คุณได้ออกกำลังกาย – Harris ได้กล่าวไว้ และจงจำไว้ว่าเมื่อคุณใกล้ถึงเป้าหมายร่างกายคุณจะรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยและนั้นคือสัญญาณเตือนว่าร่างกายคุณกำลังแข็งแกร่งขึ้น กล้ามเนื้อของคุณกำลังถูกสร้างขึ้นจากการออกกำลังกายของคุณ

เมื่ออ่าน 9 วิธีปลุกความอยากออกกำลังกายในตัวจบแล้ว เราก็ออกไปวิ่งกันเถอะ แต่อย่าลืมกำหนดเป้าหมายของตัวคุณเองด้วยนะคะว่าคุณต้องการอะไรในการออกกำลังกายครั้งนี้ แล้วพบกับ cutterlily กันใหม่

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 9 วิธีปลุกใจตัวเองให้อยากออกกำลังกาย