ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก?
ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก? หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ หรือเคยได้ยินว่า ถึงจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ยังเสี่ยงติดโควิด-19 ได้อยู่ จริงหรือไม่ แล้วเราจะฉีดวัคซีนกันไปทำไม อ. พญ.
นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 และผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ที่จะได้เป็นกลุ่มแรกที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ยังมีกลุ่มผู้ป่วยอีก 6 กลุ่มโรคที่ได้รับพิจารณาให้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงในการที่จะติดเชื้อและเป็นอันตรายต่อชีวิตมากกว่ากลุ่มอื่นๆ นั่นเอง
โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะเริ่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี จันทบุรี ระยอง และตราด ฉีดคนละ 2 เข็มห่างกัน 1 เดือน
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเพื่อหยุดการระบาดของโรคในชุมชนไม่จำเป็นต้องฉีดให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ หลักการคือฉีดเพื่อให้สังคมและชุมชนมีภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาระดับหนึ่ง ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ จะลดอำนาจการแพร่กระจายเชื้อลง จนหยุดการแพร่ระบาดในชุมชนได้ แต่ในระดับบุคคลอาจพบผู้ป่วยบ้าง แต่จะไม่เกิดการระบาดในชุมชน
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระบุว่า ผลข้างเคียงของวัคซีนแต่ละชนิด อาจมีอาการทั่วไป เช่น ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง ดังนั้นเป็นข้อสังเกตได้ว่าการใช้วัคซีนในช่วงเกิดการระบาดนี้เป็นการใช้ในภาวะเร่งด่วน และได้ทำการศึกษาไปพร้อมกัน ซึ่งหากมีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก เช่น 1 ล้านโดส ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ยากในรูปแบบอื่นๆ อาจปรากฏขึ้นได้
ดังนั้นวัคซีนทุกตัวต้องเก็บข้อมูลเพื่อดูความปลอดภัยไปพร้อมกัน จะทำให้ทราบข้อมูลและระมัดระวัง เพื่อการหยุดยั้งการระบาดของโรค ลดอัตราป่วย และเสียชีวิต ส่วนการเก็บรักษาวัคซีนมีความแตกต่างกันไปบ้าง เช่น อุณหภูมิ เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาการนำวัคซีนมาใช้ในประเทศไทย
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 6 กลุ่มผู้ป่วยที่อาจได้รับวัคซีนป้องกัน “โควิด-19” ก่อนใคร
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น