ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก?
ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก? หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ หรือเคยได้ยินว่า ถึงจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ยังเสี่ยงติดโควิด-19 ได้อยู่ จริงหรือไม่ แล้วเราจะฉีดวัคซีนกันไปทำไม อ. พญ.
หลังการติดเชื้อโควิด-19 นอกจากอาการของระบบทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยแล้ว หากมีอาการอื่นๆ เช่น ผมร่วง ผื่นแพ้ หลงลืม ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นอาการของโรคโควิด-19 ในระยะยาว หรือที่เรียกว่า ลองโควิด (Long COVID, Post-COVID conditions, Post-COVID syndromes, long-haul COVID-19)
พญ. สมรรจน์ ลิ้มมหาคุณ อายุรแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านโรคติดเชื้อ รพ. สมิติเวช สุขุมวิท ระบุว่า ภาวะลองโควิด (Long COVID) คือ ภาวะที่ผู้ป่วยยังคงมีอาการผิดปกติหลังจากหายจากโรคโควิด-19 แล้ว โดยอาการมักเกิดหลังการติดเชื้อโควิด-19 4-12 สัปดาห์ขึ้นไป และยังคงมีอาการต่อเนื่อง โดยอาการและผลกระทบจากลองโควิดไม่สามารถอธิบายหรือวินิจฉัยด้วยภาวะอื่นได้ ภาวะลองโควิดอาจพัฒนาตั้งแต่ยังมีการติดเชื้อโควิด-19 หรือหลังจากหายจากโรค และสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้
ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุของภาวะลองโควิด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากรอยโรคที่หลงเหลือจากการติดเชื้อต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานผิดปกติไป หรือจากชิ้นส่วนของเชื้อไวรัสที่ยังตกค้างอยู่ในร่างกาย แม้จะไม่แสดงอาการแต่อาจกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้เกิดการต่อต้านเชื้อ จนแสดงอาการอื่นๆ ได้
ผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด-19 ร้อยละ 10-20 อาจมีภาวะลองโควิดได้ ในบางงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยถึงครึ่งหนึ่งมีอาการของภาวะลองโควิดอย่างน้อยหนึ่งอาการ โดยผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะลองโควิดมากขึ้นได้แก่
อาการลองโควิด ที่พบได้บ่อย เช่น
อาการลองโควิด อื่นๆ ที่อาจพบได้ และอาจดูไม่สัมพันธ์กับการติดเชื้อโควิด-19
การที่เชื้อไวรัสมีผลโดยตรงต่อระบบกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการอักเสบและการทำลายกล้ามเนื้อบางส่วนจนทำให้เกิดการเหนื่อยเพลียได้ รวมไปถึงการที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมทางสังคมและการออกกำลังในช่วงการระบาดของโรค ก็เป็นสาเหตุของการเหนื่อยเพลียที่มากขึ้นได้
อาการ ผู้ป่วยถึงครึ่งหนึ่งที่หายจากโรคโควิด-19 ยังคงมีอาการเหนื่อยเพลียเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลียมากจนไม่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันตามปกติได้ หรือไม่สามารถออกแรงได้เท่าเดิม แม้การตรวจสมรรถภาพทางร่างกายจะเป็นปกติ
การดูแลรักษา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยแยกภาวะทางร่างกาย เช่น การติดเชื้อในระบบประสาทที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือรอยโรคในระบบทางเดินหายใจและหัวใจออกก่อน
ภาวะเหนื่อยเพลียยังไม่มีการรักษาโดยวิธีจำเพาะ แนะนำให้ผู้ป่วยเลือกทำกิจกรรมที่อาจใช้แรงมาก ในช่วงเวลาที่ร่างกายสดชื่นและมีกำลังที่สุดของวัน ทำกิจกรรมเท่าที่สามารถทำได้ ไม่ฝืนออกแรงมากไปและค่อยๆ ทำกิจกรรมหรือออกแรงเพิ่มขึ้นตามลำดับเพื่อให้เวลาแก่ร่างกายในการฟื้นตัวต่อโรค
การต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในหอผู้ป่วยวิกฤต ไม่ได้ติดต่อกับสังคมหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย หรือเกิดภาวะความเครียดจากการผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (Post-traumatic stress disorder) ซึ่งส่งผลต่อความคิด ความจำ และมีอาการหลงลืมเพิ่มมากขึ้นได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
อาการ ผู้ป่วยอาจมีปัญหาด้านความคิด ความจำ คิดได้ช้า รู้สึกเหมือนสมองตื้อ อาการหลงลืม ขาดสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่เคยทำได้นานๆ อาจมีปัญหาด้านการนอน เช่น การนอนไม่หลับ
การดูแลรักษา ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณารักษาร่วมกับจิตแพทย์และนักจิตบำบัด ในต่างประเทศพบว่าผู้ป่วยบางรายมีอาการดีขึ้นหลังการใช้การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นไฟฟ้าอย่างอ่อน
อาการ มีผมร่วงโดยจะร่วงทั่วบริเวณศีรษะ โดยไม่มีแผลเป็น โดยจะร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน ในผู้ป่วยบางรายอาจร่วงมากถึง 1,000 เส้นต่อวัน
การดูแลรักษา ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดูแลสุขภาพ ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ อาจปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้การรักษา เช่น ยาไมน็อกซิดิล (Minoxidil)
การดูแลรักษา ควรรักษาความสะอาด ล้างมือบ่อยๆ ทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแยกโรคทางระบบประสาทและผิวหนัง รวมถึงผลข้างเคียงของโรคประจำตัวอื่นๆ เช่นเบาหวาน หรือเมื่อมีอาการหายใจไม่อิ่ม แน่นหน้าอก ร่วมด้วย
อาการลองโควิด สามารถพบได้ในเด็กและวัยรุ่น แม้จะเกิดได้น้อยกว่าในวัยผู้ใหญ่ โดยอาการที่พบได้บ่อยคือเหนื่อยเพลีย ปวดศีรษะ ปัญหาด้านการนอน ไม่มีสมาธิ ปวดกล้ามเนื้อและปวดตามข้อ ไอ ในเด็กอาจเกิดภาวะ Multisystem Inflammatory Syndrome in Children Associated with COVID-19 (MIS-C) ซึ่งทำให้มีการอักเสบทั่วร่างกาย อาจมีอาการคล้ายไข้คาวาซากิ ซึ่งมีอาการไข้สูง ผื่นตามร่างกาย ตาแดง ปากแดง อีกภาวะหนึ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษคือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เด็กหรือวัยรุ่นที่เป็นนักกีฬาควรได้รับการตรวจอย่างละเอียดหลังหายจากการติดเชื้อโควิด-19 ก่อนกลับไปเล่นกีฬาอย่างหนัก
อัตราและระยะเวลาการหายจากภาวะลองโควิดยังอยู่ในระหว่างการศึกษา เนื่องจากผู้ป่วยหลายรายที่มีอาการไม่ได้ปรึกษาแพทย์ อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้นและหายได้ในช่วง 4-6 เดือน
การรักษาภาวะลองโควิดยังไม่มีการรักษาแบบจำเพาะ แพทย์จะให้การรักษาตามอาการร่วมกับการปรึกษาสหสาขาวิชาชีพ เช่น นักกายภาพบำบัด นักอาชีวบำบัด นักจิตบำบัด รวมถึงการวินิจฉัยหาโรคหรือภาวะอื่นที่อาจเป็นสาเหตุ ในบางงานวิจัยพบว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้ป่วยที่มีภาวะลองโควิดทำให้อาการของลองโควิดลดลงได้
วิธีการป้องกันภาวะลองโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดคือการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยการฉีดวัคซีนป้องกัน สวมใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง เลี่ยงบริเวณแออัด รวมถึงดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
หากเคยติดเชื้อโควิด-19 แล้วยังมีอาการดังกล่าวที่สงสัยว่าจะเป็นภาวะลองโควิด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ให้การวินิจฉัย และรักษา บรรเทาอาการได้
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 4 อาการลองโควิด (Long COVID) ที่อาจคาดไม่ถึงว่าเกิดขึ้นได้
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น