ปิดเมนู
หน้าแรก

5 เรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่า “ชีวิต complete”

เปิดอ่าน 18 views

5 เรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่า “ชีวิต complete”

Tonkit360

สนับสนุนเนื้อหา

คนที่มีความสุขที่สุด พวกเขาจะไม่ต้องการอะไรมาเติมเต็มชีวิตอีก เพราะพวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดสิ่งนั้นจนถึงขั้นที่จะต้องหามาอุดช่องว่างเพื่อให้รู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์จากการถูกเติมเต็ม แต่ชีวิตประจำวันแบบปุถุชนคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ล้วนยังมีความต้องการอีกสารพัดอย่าง มีช่องว่างมากมายที่รู้สึกได้ว่าต้องได้อะไรมาครอบครองเพื่อเติมเต็มและสนองความต้องการทางใจ

แต่รู้ไหมว่าใจเราที่ยังมีช่องว่างอยู่นั้น บางทีเราอาจจะไม่ได้ต้องการอะไรใหญ่โตเพื่อทำให้เรารู้สึกว่าได้เติมเต็มเลยสักนิด บางทีมันอาจะเป็นแค่อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราเคยขาดไปสมัยยังเด็กก็ได้ ดังนั้น แค่ได้รับการเติมเต็มจากเรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมสมบูรณ์ใจได้ก็เพียงพอแล้ว เพราะใจจะคอมพลีทหรือไม่คอมพลีทนั้น ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราเองว่าตั้งเป้าหมายต่าง ๆ และความสำเร็จไว้ที่ตรงไหน นี่คือ 5 เรื่องเล็ก ๆ ที่อาจทำให้เรารู้สึกว่า “ชีวิต complete”

ได้มีช่วงเวลากับไอดอลที่ชื่นชมและชื่นชอบ

ที่หลายคนเรียกว่า “ชีวิตติ่งคอมพลีท” นั่นเอง แม้ว่าจะมีคนที่เข้าใจว่าการเป็นติ่งหรือการนิยมชมชอบใครสักคนให้เป็นไอดอลคือเรื่องไร้สาระ แต่จริง ๆ แล้วหลายคนมากเลยนะที่ได้ดิบได้ดีจากการมีไอดอลเป็นต้นแบบ เอาดีในสิ่งที่ตัวเองรักได้จริง ๆ เพราะมันไม่ใช่แค่การที่ตามเชียร์คนหล่อคนสวยเท่านั้น แต่การรักใครสักคน เราย่อมอยากที่จะเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม อยากประสบความสำเร็จแบบนั้นบ้าง จนมันจะกลายเป็นแรงผลักดัน และแรงบันดาลใจได้อย่าคาดไม่ถึง ดังนั้น หลายคนจึงอยากที่จะมีช่วงเวลาร่วมกับไอดอลที่ตัวเองชื่นชมและชื่นชอบบ้างให้ได้ดูสักครั้ง

มื้ออาหารที่ประทับใจ

เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่เสมอไม่ว่าจะสถานการณ์ใด บางคนยกให้การกินของอร่อย ๆ เป็นวิธีที่จะเยียวยาให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นหลังจากเจอเรื่องเครียด ๆ เลยด้วยซ้ำไป แต่สำหรับใครหลายคนมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะได้มีมื้ออาหารที่จะพูดได้เต็มปากว่า “ดี ๆ” ด้วยอาหารหลักแต่ละมื้อไม่ใช่อาหารดี ๆ แต่เน้นกินง่ายและเร็ว บางคนเวลากินข้าวยังไม่ได้นั่งกินข้าวแบบเป็นสุขเลย ต้องทำนั่นทำนี่ไปด้วยตลอดเพราะจำเป็นต้องทำ ดังนั้น บางคนแค่ได้กินข้าวตรงเวลา ไม่ต้องมีเรื่องยุ่งยากชวนปวดหัวมาทำให้ต้องเลื่อนเวลากินข้าวออกไป เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ก็รู้สึกว่าคอมพลีทได้เหมือนกัน

การมีของขวัญให้ตัวเอง

ของขวัญจากคนอื่น จะมีอยู่มากน้อยแค่ไหนกันที่จะถูกใจเรา เพราะบางคนก็ให้ตามวาระและโอกาส บางคนก็ให้ตามมารยาท ส่วนเราก็รับมาตามมารยาทเช่นกัน ถูกใจหรือใช้งานได้จริงไหมนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที ในทางกลับกัน การที่เราอยากได้อะไรที่มันพิเศษพอที่จะเป็นของขวัญให้ตัวเองต่างหากที่ใช้งานได้จริงแน่ ๆ ด้วยมาจากความปรารถนาของตัวเราเอง ในเมื่อเป็นคนอยากได้และเป็นคนที่ขวนขวายให้ได้มาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของเราเอง ต้องใช้เวลา ใช้ความอดทน ใช้ความสามารถเพื่อหามา มันจึงเป็นอะไรที่เติมเต็มใจและอิ่มเอมได้พิเศษมากเลยทีเดียว

เก็บสะสมของได้ครบ collection

การเก็บสะสมสิ่งของที่ชอบ เชื่อว่าหลายคนมีปมตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้แต่ไม่มีเงินที่จะซื้อได้ ก็เป็นเด็กอะเนอะไม่มีเงิน ของพ่อแม่ก็ไม่ให้แถมโดนดุว่าไร้สาระอีก จึงรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ค้าง ๆ คา ๆ มาตลอด พอเติบโตขึ้นมาทำงานหาเงินเอง มีเงินใช้โดยไม่ต้องขอใคร และใจยังรักยังชอบสิ่งนั้นอยู่ หรือรู้สึกว่าอยากมีไว้เป็น collection เพื่อให้ได้ระลึกถึง ก็จะใช้เงินที่หามาเองนี่แหละตามหาซื้อมาครอบครอง แต่ของบางสิ่งบางอย่างแค่มีเงินอย่างเดียวก็ไม่อาจได้มาง่าย ๆ เพราะของมันหายากมากแล้ว แต่ถ้าหาได้ยังไงก็ยอมจ่ายเพื่อเติมเต็มช่องว่างในจิตใจที่โหว่ไป

ได้ไปที่ที่อยากไป

“ไปที่ชอบ ๆ” ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครอวยพรส่ง หรือรอให้สิ้นลมหายใจก่อนแล้วค่อยคิดที่จะไป เพราะจะได้ไปจริงไหมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นมีใครกลับมารีวิวให้ฟังด้วยซ้ำ ดังนั้น ชีวิตนี้อยากจะไปที่ไหนหรือชอบตัวเองเวลาอยู่ที่ไหนก็หาไปตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นี่แหละ ไปตอนที่ยังรู้สึกตัวเอง ยังสัมผัสได้ด้วยใจตัวเองว่าเรากำลังมีความสุข เริ่มจากลองลิสต์ ๆ ดูไว้เลยว่าชีวิตนี้อยากจะไปที่ไหนให้ได้สักครั้งแล้วก็หาโอกาสจัดสักทริป รับรองเลยว่าเราจะรู้สึกได้ถึงความปลาบปลื้ม ความอิ่มอกอิ่มใจ ความตื้นตันแบบที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้บ่อย ๆ แน่ มันดีต่อใจมากจริง ๆ นะ

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 5 เรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่า “ชีวิต complete”