เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนกำลังเผชิญกับอาการนอนไม่หลับ จะด้วยเพราะสาเหตุจากความเครียดเรื่องงานหรืออะไรก็ตาม ผลที่ตามมาจากการนอนไม่หลับ ก็คือสภาพร่างกายที่เกิดความอ่อนเพลียได้ง่าย ตลอดจนนำมาสู่การเกิดปัญหาสุขภาพในอีกหลายๆ ด้าน วันนี้เราจึงขอเอา 5 เคล็ดลับที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากอาการนอนไม่หลับ มาแชร์ให้สาวๆ ได้เอาไปลองปรับใช้กันดูค่ะ

1.กินอาหารที่มีวิตามินซี

อาหารที่มีวิตามินซี ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ รวมทั้งอาหารเสริมวิตามินซี จัดเป็นอาหารที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายของสาวๆ กลับมาสดชื่นได้อีกครั้ง ดังนั้นหากสาวๆ คนไหนมีปัญหานอนไม่หลับ แนะนำให้กินผลไม้รสเปรี้ยวในมื้อเช้า พร้อมทั้งกินอาหารที่มีวิตามินบี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ไข่ และขนมปังโฮลวีท ซึ่งสารอาหารทั้งสองชนิดนี้มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายของสาวๆ กลับมามีแรงและสดชื่นได้อีกครั้ง ถือเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับวันใหม่เลยก็ว่าได้

2.ดื่มน้ำให้มาก

การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่สาวๆ ไม่ควรละเลย แม้แต่การแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ การดื่มน้ำก็ช่วยแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอนั้น จะส่งผลให้ระบบการทำงานในร่างกายกลับมามีความปกติมากขึ้น หลังจากที่ระบบทำงานเกิดความผิดเพี้ยนไปเนื่องจากการนอนไม่เพียงพอ อีกทั้งการดื่มน้ำยังช่วยป้องกันไม่ให้เลือดข้นหนืด ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ส่งผลไปถึงหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานหนักต่อการสูบฉีดเลือด ที่สำคัญการดื่มน้ำยังช่วยลดอาการอ่อนเพลีย พร้อมทั้งกระตุ้นระบบเผาผลาญให้กลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิมด้วย

3.งีบช่วงกลางวัน

การงีบหลับในช่วงกลางวันเป็นเวลาสั้นๆ ประมาณ 10-30 ที จะช่วยแก้อาการอ่อนเพลียที่เกิดจากการนอนไม่หลับในช่วงกลางคืนได้ดี เนื่องจากอาการที่ตามมาจากการนอนไม่หลับในช่วงเวลากลางคืนก็คือ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียและเกิดอาการง่วงนอนในช่วงกลางวัน หากยิ่งฝืนโดยไม่พักผ่อนในช่วงกลางวัน ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียหนักกว่าเดิมได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้งีบช่วงกลางวัน จะช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียได้ แต่ไม่ควรนอนนานหลายชั่วโมง เพราะอาจส่งผลให้ร่างกายตื่นตัวในช่วงกลางคืนได้นั่นเอง

4.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน

สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหานอนไม่หลับในช่วงกลางคืน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีน เนื่องจากคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายตื่นตัว แม้จะดื่มเพื่อให้ร่างกายสดชื่นจากการนอนไม่หลับ แต่ก็เป็นการช่วยในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการนอนในตอนกลางคืน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนในช่วงบ่ายเป็นต้นไป เนื่องจากคาเฟอีนสามารถออกฤทธิ์ได้นานถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว

5.วางแผนการนอนในคืนถัดไป

การวางแผนการนอนในคืนถัดไป จะช่วยแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับได้เช่นกัน โดยถือเป็นสิ่งที่สาวๆ จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ร่างกายเผชิญกับอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง ซึ่งวิธีการวางแผนการนอนในคืนถัดไปสามารถทำได้ด้วยการตั้งเวลาในการเข้านอนและตื่นให้ชัดเจน ที่สำคัญห้ามเอาสิ่งรบกวนต่างๆ เข้ามาในห้องนอนเด็ดขาด

สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับ จนทำให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลีย แนะนำให้เอา 5 เคล็ดลับเหล่านี้ไปลองปรับใช้กันดูนะคะ เชื่อว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาอาการอ่อนเพลียของร่างกายให้ดีขึ้นได้