ผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่มาสักพัก ใครที่ยังยึดติดอยู่กับเรื่องเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก หน้าที่การงาน การศึกษา ชีวิตก็จะจมปลักอยู่แต่เรื่องนั้นๆ ไม่ก้าวหน้าไปไหน ในขณะที่ใครต่อใครพุ่งตรงสู่เส้นชัยกันหมดแล้ว หากต้องการหลุดออกมาจากกรอบที่ขังเราไว้ข้างใน เพื่อที่จะก้าวให้ทันคนอื่น ก็ต้องดูว่าเรามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือไม่ ถ้ามีก็ควรเลิกทำ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในวันข้างหน้า

1.รักความสบาย

คนประเภทนี้สามารถพบเจอได้ง่ายในสังคม เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบคิดอะไร ทำทุกอย่างแบบลวกๆ แค่พอให้เสร็จแล้วก็จบๆ ไป ผลตอบแทนได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น หรือถ้าได้มากกว่าผลงานที่ทำก็จะดี เมื่อถูกติเตียนก็จะบอกปัดความรับผิดชอบหรือแสดงความไม่พอใจออกมา สุดท้ายก็จะไม่มีใครมอบความไว้วางใจให้ และก็จะจมอยู่กับที่เดิมแบบนั้นไปเรื่อยๆ หรือแย่ลงไปกว่าเดิม

2.โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง

เมื่อเกิดปัญหาหรือความผิดพลาดใดๆ ขึ้น ก็จะโทษคนอื่นก่อนเสมอ แม้กระทั่งลมฟ้าอากาศ โชคชะตาก็เอามาโทษได้หมด หากทำงานเป็นกลุ่มก็จะโทษคนในกลุ่ม หากทำงานคนเดียวก็จะโทษคนสั่งงาน ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองผิด แต่ก็ยังจะดั้นด้นเถียงไปเรื่อยๆ จนกว่าทุกคนจะยอมแพ้และเงียบกันไปเอง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว การเก็บคำติเหล่านั้นมาปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ สามารถทำได้ง่ายกว่าการโทษคนอื่นเป็นอย่างมาก

3.ชีวิตฉันดีอยู่แล้ว

เป็นอีกพฤติกรรมที่ทำให้ชีวิตไม่มีความเจริญก้าวหน้าใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นมา ก็จะเพิกเฉยไม่สนใจแก้ปัญหา คิดไปเองว่า ชีวิตฉันดีอยู่แล้ว ความรักฉันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ยังดีอยู่แบบนั้น สุดท้ายเมื่อโลกมีการพัฒนาไปก้าวไกลมากกว่าเดิม คนกลุ่มนี้ก็จะค่อยๆ ถอยหลังลงไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็จะจมปลักกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีต่อไป

4.ไม่เคยคิดอะไรเลย

หรือจะใช้คำว่าคิดเองไม่เป็นเลยก็ว่าได้ คนแบบนี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม ประเภทว่าจะทำอะไรต้องถามคนอื่นก่อนเสมอ ใครว่าดีก็ดีตาม ใครว่าแย่ก็แย่ตาม พอผิดพลาดขึ้นมาก็หันไปโทษคนอื่น ลองหยุดทบทวนตัวเองสักพัก ว่าตัวเองคิดอย่างไร ก่อนถามคนอื่นเพื่อเป็นการเช็คว่าความเห็นตรงกันหรือไม่ ยังดีกว่าพร้อมจะเชื่อคนอื่นแบบเต็มที่

และนี่คือ 4 พฤติกรรมยอดแย่ที่ใครยังทำอยู่ ก็ควรพิจารณาตัวเองและเลิกทำในปีใหม่นี้ได้แล้ว เพื่อที่คุณจะได้พัฒนาตัวเองให้เป็นคนใหม่ เป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น รวมทั้งทำให้คุณหลุดออกจากกรอบเดิมๆ ไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งใจไว้