ผู้ชายมักจะชอบดื่มเบียร์ แต่ในบรรดาผู้ที่ชอบดื่มเบียร์นั้น มีไม่มากนักที่จะรู้จริงในเรื่องเบียร์ หากคุณเคยไปนั่งดื่มตามบาร์ คุณอาจจะสังเกตได้ว่า แก้วเบียร์นั้น มีความหลากหลาย นั่นก็เป็นเพราะเบียร์ในโลกของเรานั้นมีความหลากหลายเช่นกัน เรามาดูความแตกต่าง และวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะสมกัน

– Mugs แก้วเบียร์แบบนี้ เหมาะสำหรับเบียร์อ่อน ๆ ซึ่งคุณต้องการที่จะรักษาความเย็น ในช่วงเวลาที่ดื่ม หูจับขนาดใหญ่จะช่วยให้จับถนัดมือ และช่วยไม่ให้มืออุ่น ๆ ของคุณไปทำให้เบียร์คลายความเย็น แก้วแบบนี้จำหนัก ทำให้คุณต้องออกแรงเล็กน้อยเวลายกดื่ม

– Tankard เรียกได้ว่าเป็นแก้วเบียร์มาตรฐาน โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว แก้วแบบนี้ ช่วงก้นแก้ว จะหนา ทรงตรง อังกฤษเป็นผู้คิดค้น บางครั้งทำด้วยเงิน หรือพิวเตอร์

– Krug แก้วแบบนี้ มีรูปลักษณ์ที่ดูเป็นพิเศษ มีความโค้งมน เหมาะสำหรับการใช้กับการดื่มเบียร์คลาสสิก แถบยุโรปตอนกลาง เป็นแก้วเบียร์ที่มีสไตล์มาก บ้างใบก็ทำจากหิน บางใบก็เป็นเซรามิก ลักษณะเด่นอีกอย่างก็คือ สามารถป้องกันไม่ให้แมลงบินตกลงไป

– Pint Glasses เป็นแก้วที่เก็บง่าย วางซ้อน ๆ กันได้ มีราคาไม่แพง ในขนาดมาตรฐานของมันนั้น ถือได้ว่าเหมาะกับการใช้ดื่มเบียร์ทุกประเภท

– Shaker Aka The American แก้วแบบนี้ใช้กันมาก ทั้งในบาร์และในร้านอาหาร ทั่วสหรัฐอเมริกา แต่ทั้งนี้ มันกลับกลายเป็นแก้วที่ใช้เสริฟเบียร์ได้ไม่ดี เพราะความแบนบางของแก้ว เบียร์จะเสียความเย็นไปอย่างเร็ว เมื่อถูกมืออุ่น ๆ ไปจับ แต่ที่ได้รับความนิยมนั้น ก็เพราะราคาถูก และจัดเก็บได้ง่าย

– Imperial Aka The Irish เป็นแก้วรูปแบบเก่า มีความโค้งช่วงกลางถึงขอบแก้ว ใช้กันมากตามพับของอังกฤษ และไอริช เหมาะสำหรับเบียร์ Stouts, Porters, Bitters, และ Mild Ales

– Nonic Aka The British แก้วแบบนี้ มีรูปทรงตรง เรียว แต่มีความโค้งในช่วงประมาณ 2 นิ้วก่อนถึงปากแก้ว ใช้กันค่อนข้างมากในพับของอังกฤษ เก็บง่าย จับถนัดมือ มักจะใช้กับเบียร์ English Ales ขึ้นไป

– Pilsner Glasses : Weizenbier เป็นแก้วเบียร์สไตล์เยอรมัน เหมาะสำหรับดื่มเบียร์ Wheat เป็นทรงโค้ง และด้านบนกว้าง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับฟองเบียร์

– Pilsner Glasses : Pilsner เป็นแก้วทรงสูงโปร่ง ด้านข้างตรง เหมาะสำหรับไลท์เบียร์ บางครั้งจะดูคล้าย ๆ กับ Weizenbier ทำให้สับสน แต่จุดต่างคือไม่มีความโค้ง ตัวแก้ว เน้นให้เห็นสีของความใสของเบียร์เป็นสำคัญ เคยมีการสั่งห้ามใช้ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปพักหนึ่ง แต่หลังจากนั้นความนิยมก็ค่อย ๆ กลับเข้ามาใหม่

– Pilsner Glasses: Tulip เป็นถ้วยขนาดใหญ่ ด้านข้างโค้ง มีขอบใหญ่ ช่วยทำให้ได้กลิ่นของเบียร์ได้ดีขึ้น

– Pilsner Glasses : Chalice เป็นแก้วที่มีน้ำหนักมาก มีความโค้งในช่วงกลางถึงขอบแก้ว ใช้ได้กับเบียร์สด และ ไลท์เบียร์ และหากเป็นเบียร์ที่มี ABV จะเหมาะมากสำหรับแก้วแบบนี้

– Specialty Glasses : Beer Boot เป็นแบบที่ได้รับความนิยมตามบาร์ในเยอรมัน เพราะมันดูจะเป็นแก้วที่ท้าทายนักดื่ม เพราะมีฟองอากาศ ใครเห็นก็อยากจะลอง

– Specialty Glasses : Yard Of Ale เป็นแก้วที่มีลักษณะพิเศษจริง ๆ ทั้งรูปร่างและความสูง หากจะดื่ม ต้องยืนดื่ม อีกทั้งยังเป็นของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวด้วย