ปิดเมนู
หน้าแรก

หวั่นมะเร็งผิวหนังพุ่งเพราะอยากขาว

เปิดอ่าน 1,268 views

หวั่นมะเร็งผิวหนังพุ่งเพราะอยากขาว© Daily News หวั่นมะเร็งผิวหนังพุ่งเพราะอยากขาว

หวั่นมะเร็งผิวหนังพุ่งเพราะอยากขาว

มะเร็งผิวหนัง

โรคมะเร็งผิวหนัง แม้จะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต เพราะส่วนหนึ่งค้นหาได้ง่าย ๆ แต่ปัจจุบันยังจัดอยู่ใน 10 อันดับแรกของโรคมะเร็งที่พบได้บ่อย ๆ ซึ่ง ผศ.พญ. สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานคณะอนุ กรรมการประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย บอกว่าวันนี้อัตราการเกิดยังคงเส้นคงวา โดยเฉพาะผู้ชายอัตราการเกิดโรคอยู่ในลำดับที่ 5 ส่วนผู้หญิงอยู่ในลำดับที่ 6

ผศ.พญ.สุวิรากร อธิบายว่า ตัวโรคมะเร็งผิวหนังมีอยู่หลายชนิด เช่น

1. ชนิด แมลิกแนนท์ เมลาโนมา (Malignant melanoma) หรือมะเร็งไฝ เป็นมะเร็งผิวหนังที่พบน้อยที่สุด แต่เป็นชนิดที่แพร่กระจายได้มากที่สุด เกิดจากเซลล์เม็ดสีมีการแบ่งตัวผิดปกติอาจลุกลามไปจุดสำคัญอย่างสมองได้

“สัญญาณของมะเร็งไฝ คือ ไฝที่เคยมีสีดำเพียงสีเดียวเปลี่ยนไปมีหลายสี เช่น บางส่วนมีสีจางลงหรือน้ำตาลเข้มจนถึงดำไล่กัน ขนาดของไฝจะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ขอบไฝไม่ชัดเจน อาจมีอาการเจ็บคัน แตกเป็นแผล และมีเลือดออก”

2. ชนิด แอคทีนิค คีราโตซิส (Actinic keratosis) มักพบในคนอายุ 50-80 ปี ส่วนใหญ่เกิดในบริเวณที่ถูกแสงแดดจัด เช่น หน้าผาก ใบหน้า หู คอ หลังมือหลังแขน และศีรษะที่มีผมบาง ผู้ที่มีผิวขาว คนที่มีประวัติผิวไหม้จากแดดจะมีความเสี่ยงสูง

3. ชนิด บาซอล เซลล์ คาร์ชิโนมา (Basal cell carcinoma) มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อนูนสีเดียวกับผิวหนัง หรือ ชมพูใสผิวมัน หากขนาดใหญ่ขึ้นอาจเกิดแผลตรงกลางมีขอบยกนูน

และชนิดที่

4 คือ สแควมัส เซลล์ คาร์ชิโนมา ( Squamous cell carcinoma) มักจะเกิดบริเวณที่โดนแดดมาก หรือเคยเป็นแผลเรื้อรังพบในอัตราส่วนที่น้อยกว่าชนิดแรกมาก มีการแพร่กระจายได้ แต่ในอัตราที่ช้า ยกเว้นหากเกิดบริเวณริมฝีปาก หู หรือในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันต่ำเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ผศ.พญ.สุวิรากร บอกว่า จากสถิติการเกิดโรคในประเทศ ไทยแล้วพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพันธุ์ การได้รับสารเคมีจากการทำงานเป็นระยะเวลานาน ๆ สารหนู การรับประทานยาหม้อโดยไม่ถูกหลักการ ไฟไหม้ รวมถึงการโดนแสงแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ

ในกรณีโรคมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากแสงแดดนั้นพบได้น้อยมาก ๆ เพราะแม้ประเทศไทยจะแดดแรงแทบจะตลอดทั้งปี แต่คนไทยก็มีผิวสองสี หรือจะเรียกว่าผิวคนไทยมีเมลานินในการสร้างเม็ดสีผิวป้องกันแสงแดดเข้ามาทำลายชั้นผิว และเซลล์ผิวหนัง จนก่อเกิดเป็นมะเร็งได้ เมื่อเทียบกับฝรั่งผิวขาวแล้วคนไทยปลอดภัยกว่าเยอะ

แต่ในอนาคตข้างหน้าอาจจะพบผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้นก็ได้เนื่องจากปัจจุบันคนไทย โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ

สาว ๆ ที่นิยมผิวขาว จนไปสรรหาหลากหลายวิธีการเพื่อทำให้ตัวเองมีผิวขาวสมใจอยาก ไม่ว่าจะเป็นการลอกผิว ฉีดสารกลูต้าไธโอน ซึ่งถือว่าอันตรายทั้งกับผิวตัวเองในอนาคต แถมอาจจะเกิดปัญหาเฉียบพลันได้เพราะการฉีดสารเหล่านี้เข้าเส้นอาจจะก่อให้การแพ้ยาจนถึงแก่ชีวิต

อันที่จริงการมีผิวสุขภาพดีเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าสีผิวว่าขาวหรือไม่ขาว ซึ่งการดูแลตัวเองเพื่อให้มีผิวสุขภาพดีในสภาพอากาศเมืองไทยที่แดดแรง และร้อนอบอ้าว คือเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วง 10.00-15.00 น. แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องสวมเสื้อผ้าปกปิด สวมหมวก และทาครีมกันแดด รับประทานผัก ผลไม้ที่มีวิตามิน ดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำใจให้สงบ อย่าเครียด ห้ามสูบบุหรี่ ยาเสพติด หรือเลี่ยงไปในที่ที่มีคนสูบบุหรี่ เพราะแม้จะเป็นควันบุหรี่มือ 2 ก็ทำอันตรายกับผิวเราทั้งสิ้น

“ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้คนไทยมีค่านิยมในการมองคนเพียงแค่เปลือกนอก ความขาว ความหน้าตาดี แต่อยากให้มองกันที่ภายใน เรื่องของจิตใจที่ดี และความสามารถที่มีอยู่มากกว่า” ผศ.พญ.สุวิรากร กล่าว.

อภิวรรณ เสาเวียง

มะเร็งผิวหนัง1

уроки тенниса в киеве

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : หวั่นมะเร็งผิวหนังพุ่งเพราะอยากขาว