เชื่อว่าหนุ่มๆ คงเคยที่ยินผ่านมาหูหรือหลายคนอาจจะประสบปัญหากับการกินยารักษาผมร่วงแล้ว ทำให้รู้สึกห่อเหี่ยว ไม่มีอารมณ์ทางเพศ วันนี้ มีข้อมูลจากคุณหมอกัมปนาท เจ้าของเพจ Sarikahappymen มาฝาก

โดยสาเหตุของอาการผมบางเนี่ย มาจากการที่มีระดับเอนไซม์ 5α-reductase ที่บริเวณหนังศีรษะมากกว่าปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วเอนไซม์นี้มีหน้าที่เปลี่ยน ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนเพศชายไปเป็นฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะเล็กลง จึงทำให้เกิดอาการผมบางและหลุดร่วงตามมาครับ

ดังนั้นหลักการรักษาอาการผมบางก็คือต้องหายาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ตัวนี้ที่ทำให้ระดับฮอร์โมน DHT ที่หนังศีรษะลดลง หรือที่รู้จักกันในชื่อยา finasteride นั่นแหละครับ

โดยสรรพคุณของยานี้เขาพบว่าลดการหลุดร่วงของเส้นผมและมีส่วนช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมให้ดกดำเฟิ้มฟูมากขึ้น ซึ่งฟังแล้วดูดีเลยใช่ไหมครับ ราคาก็ไม่แพงด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้ถึงผลข้างเคียงของมันเช่นกันครับ สำหรับผลข้างเตียงที่พบได้บ่อยและสำคัญจากใช้ยาตัวนี้ก็คือได้แก่ อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลงครับ อย่างที่บอกคือยามันไปลดฮอร์โมนเพศ ดังนั้นคนไข้บางส่วนที่ใช้ยาตัวนี้ไปซักระยะก็จะมาหาหมอด้วยอาการไม่ค่อยคึก ไม่ค่อยขึ้น และพอจู๋หงอย หอยก็เฉาตามมาอีก ทีนี้เป็นปัญหาครอบครัวเลย เพราะกางก็แล้ว ถ่างก็แล้ว ทำไมสะกิดเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น ซึ่งพอไปซักประวัติดี ๆ ก็พบว่าหลายคนใช้ยาตัวนี้และมันส่งผลนี่แหละครับ

ซึ่งการรักษาจริง ๆ ก็แค่หยุดยาครับ เพราะมันเป็นแค่อาการชั่วคราว โดยส่วนใหญ่พบว่าหยุดยาซักพักมันก็กลับมาฟิตตามเดิม แต่ก็กลายเป็นพอหยุดยาซักพักผมก็ร่วงอีก สุดท้ายก็เลยต้องบอกคนไข้ให้เลือกรักษาเอาซักหัว หรือไม่ก็ไปหารักษาผมร่วงด้วยยาตัวอื่นแทนนะครับ