แรงบันดาลใจมี หนักแค่ไหน ก็เปลี่ยนแปลงได้ เธอลดน้ำหนักจาก 115 เหลือ 63 กก.
เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ที่หลายๆ คนต้องปรบมือให้น้องคนนี้ ที่เอาชนะความอ้วนที่เธอเก็บเอาไว้หลายปี จนถึง 115 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันนี้ เธอสามารถลดจนเหลือ 63 กิโลกรัมได้อย่างน่าทึ่ง ไปฟังเรื่องราวของเธอกันดีกว่าครับ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครๆ ในนี้ได้บ้าง

เอาล่ะค่ะมาเริ่มกันที่หนูเริ่มอ้วนตอนไหน ? บอกได้เลยค่ะว่า ” อ้วนแต่เด็ก ” แต่เห็นทีมาเริ่มเป็นน้องๆ ช้างน้ำก็ตอนอายุ 3-4 ขวบ เห็นจะได้ พอโตมาเรื่อยๆ ก็กินมากมายสารพัดอย่าง และที่ชอบกินมากๆ ของทอด ของมัน เพราะ ตอนเด็กจะทานไข่ทอด ทุกวัน วันละ 3-4 ฟอง ของที่เป็นขนมหวานๆ เคเอฟซี หมูกระทะ บุฟเฟ่ต์ น้ำอัดลม ที่ทานแล้วอ้วน ทุกๆอย่างมากมายที่ขวางหน้า

ที่กล่าวมาคือผ่านมาหมดทุกอย่างแล้ว ผ่านมาจนชีวิตอนุบาล น้ำหนักก็ อยู่ประมาน 40 กิโลแล้ว ประถมก็อ้วนขึ้นมาจน ม.ต้น – ม.ปลาย น้ำหนักอยู่ที่ 105 – 110 กิโล อย่างที่เห็น ตามรูปร่าง
พอขึ้นมหาลัย น้ำหนักขึ้น อยู่ที่ 115 กิโล เพราะเรียนหนัก ทำกิจกรรมมาก ดึกๆหิว ก็หาอะไรกิน กินเสร็จแล้วก็นอน แต่พอเรียนมหาลัยไปจบ ปี 1 ก็ เริ่มลดๆ ข้าวเย็น แต่ก็ไม่ได้ผล ทำมาได้แค่ช่วงอาทิตย์เดียว แล้วกลับมากินเหมือนเดิม อยู่แบบนี้มาเรื่อยๆ
หลายๆครั้ง ที่มองคนสวย หุ่นดี ก็อยากผอมแต่คิดว่าเราคงผอมไม่ได้หรอก และทุกครั้งที่มองตัวเองในกระจกเราจะคิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่า เราผอมนะ ไม่อ้วนมากเกินไป แต่ที่ความจริงแล้วเราอ้วนมาก เพราะในบรรดาพี่น้อง เราจะเป็นคนเดียวที่อ้วนมาตั้งแต่เด็กโดนเปรียบเทียบมาตลอด โดนเพื่อนล้อ ว่า ช้างน้ำ ตุ่ม หมูตอนบ้าง บางทีก็แอบน้อยใจ ว่าคนอ้วน ผิดตรงไหน
….หลายคนบอก พอขึ้นมหาลัย จะผอมเองละ หรือเป็นเพราะพอมีความรัก หรือป่าว ?? จริงเหรอ…. บอกเลยว่าไม่ใช่ค่ะ

เหตุผลที่มีแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก คือ เห็นรุ่นน้องคนหนึ่งในเฟสบุ๊ค จากที่ มี น้ำหนักมาถึง 120 กิโล แต่ผ่านไป 1 ปี กลับมาพร้อม นน. 60 กิโล ก็เลยบอกกับตัวเองว่า ขนาดน้องเค้าทำได้เราก็ต้องทำได้สิ ก็เลยทักแชทคุยกับน้องว่าทำยังไงถึงลดได้ขนาดนี้ แต่บอกก่อนเลยว่า ก่อนจะเจอน้องอยากจะลองกินยาลดน้ำหนัก แต่ทีนี้แม่ไม่อนุญาต ก็เลยตัดสินใจขอแม่เข้าฟิตเนส

ก่อนเริ่มเข้าฟิตเนส 1 อาทิตย์ ฝึกตัวเองโดยที่ไม่กินข้าวเย็น แล้วเริ่มสมัครเล่นฟิตเนสจริงจัง วันที่16 มกราคม 56 เล่นมาเดือนแรก อดทน บอกกับตัวเองว่าตั้งเป้าหมายไว้ 10 กิโลนะ ต้องทำให้ได้ พอเดือนแรกทำได้ ก็เหมือนเป็นกำลังใจการลดน้ำหนักต่อไป พอน้ำหนักเริ่มลดก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเบาขึ้น พอผ่านไป 3 เดือน นน.ลงไปเกือบ 25 กิโล
ด้วยความที่อยากผอมก็เข้าฟิตเนสทุกวัน จน 7-8 เดือน ลด น้ำหนักมาได้ 62 กิโล ก็ขึ้นๆลงๆ แล้วก็ไม่ได้ไปฟิตเนสอีกเลย เนื่องจากทำกิจกรรม

พอครบ 1 ปี ของการลดน้ำหนัก ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ในการใช้ชีวิตรู้สึกตัวเองเบากว่าเมื่อก่อน การแต่งตัวใส่เสื้อผ้าจากปกติที่เคยใส่ 2XL ไซส์พิเศษมา ตอนนี้ เป็น M,L เวลาทำอะไรไม่อึดอัด กระฉับกระเฉงมากขึ้น

กว่าจะประสบความสำเร็จมาขนาดนี้ แรกๆบอกเลยว่าอยากร้องไห้บ่อยมาก รู้สึกว่ามันท้อและถึง เหนื่อยมาก ขนาดนี้ เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายเลย แต่คิดว่า การออกกำลังกายก็เหมือนการเดินขึ้นภูเขาลูกหนึ่ง ที่เมื่อเราไปยืนบนยอดสูงสุดแล้วมองลงมาเราก็จะพบแต่สิ่งที่มีความสวยงาม แต่กว่าเราจะถึงยอดเขา ลูกนั้น อยากบอกว่ามีทั้งอุปสรรค ความเหนื่อยและท้อสุดๆ ถ้าเราอดทน เราก็จะผ่านอุปสรรคนี้มาได้ อย่างไม่กลัวอะไร

ถือว่าเป็นความสำเร็จที่เกินความคาดหมายของหนูนะค่ะ ที่สามารถบอกลาอดีตตัวเองได้ และหนูตั้งใจว่าจะฟิตหุ่นให้คงที่แบบนี้ต่อไปค่ะ แต่การลดน้ำหนักบอกได้ว่าทั้งหักโหม ลองผิดลองถูกมาเยอะ มีเป็นลม เวียนหัว แม้กระทั้งเป็นโรคกระเพาะ จนโทรมมาก แต่ทางที่ดี ควรดื่มน้ำเยอะๆ การลดน้ำหนักควรทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ จะดีที่สุดค่ะ
สุดท้ายหากเพื่อนๆคนไหนอยากปรึกษาพูดคุยเกี่ยวกับการออกกำลังกายลดน้ำหนักมาคุยกันได้ค่ะที่https://www.facebook.com/amying.mc
cr. ม.นอร์ทกรุงเทพ
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : แรงบันดาลใจมี หนักแค่ไหน ก็เปลี่ยนแปลงได้ เธอลดน้ำหนักจาก 115 เหลือ 63 กก.
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น