สูตรลดน้ำหนัก แบบเร่งด่วนใน 3 วัน
รีดไขมันแบบฮาร์ดคอร์


สูตรลดน้ำหนัก สำหรับใครที่ใจร้อน อยาก ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก แบบรวดเร็ว เร่งด่วน ภายในระยะเวลา 3 วัน วิธีลดน้ำหนักนี้ ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
วันที่ 1
มื้อเช้า
ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ส้มโอ 1/2 ผล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ถั่วเหลืองในซอสมะเขือเทศ

ชาเขียว ก็คือ ชา (Camellia sinensis) ที่ไม่ผ่านการหมัก เตรียมได้โดยการนำใบชาสดมาผ่านความร้อนเพื่อทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว ความร้อนจะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทำให้ไม่เกิดการสลายตัว ทำให้ได้ใบชาที่แห้งแต่ยังสดอยู่และยังมีสีที่ค่อนข้างเขียวจึงเรียกว่า ชาเขียว สารสำคัญที่พบได้ในชาเขียวได้แก่ กรดอะมิโน วิตามิน B, C, E สารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (xanthine alkaloids) คือ คาเฟอีน (caffeine) และธิโอฟิลลีน (theophylline) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางส่งผลให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่เรียกว่า แคททีชิน (catechins) แคททีชินที่พบมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate) ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารต่างๆ ที่พบในชาเขียวมีผลในการยับยั้งภาวะโรคต่างๆ โดยมีงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่าการดื่มชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายได้แก่ ชาเขียวมีฤทธิ์ในการลดความอ้วน มีงานวิจัยระบุว่าสารแคททีชินที่พบได้มากในชาเขียวนั้น มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมันจึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักของร่างกาย การดื่มชาเขียวยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด และมีงานวิจัยทางคลินิคพบว่าชาเขียวมีฤทธิ์ต่อต้านการเกิดโรคของหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการดื่มชาเขียวมีผลช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันการทดลองและสรุปผลว่าชาเขียวสามารถรักษาโรคมะเร็งได้

มื้อกลางวัน
ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ปลาทูน่า 4 ออนซ์ (ประมาณ 115 กรัม) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
มื้อเย็น
แฮม 2 แผ่น ถั่วฝักยาวต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์


วันที่ 2
มื้อเช้า
ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง กล้วยหอม 1/2 ผล
มื้อกลางวัน
ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Coltage Cheese (คล้ายโยเกิร์ต) 120 กรัม
มื้อเย็น
แฮม 2 แผ่น บร็อคคอลรี่ต้ม 4 ออนซ์ แครอทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ กล้วยหอม 1/2 ผล

สารพัดประโยชน์ ในบร็อคโคลี่ ผักดี ๆ ที่หาทานได้ไม่ยาก บร็อคโคลี่ ชื่อภาษาอังกฤษ Broccoli หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica oleracea var. italica จัดอยู่ในตระกูล Cruciferae ซึ่งมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทางตอนใต้ของยุโรป แถว ๆ ประเทศอิตาลี และภายหลังได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย โดยแหล่งที่ปลูกบร็อคโคลี่มากที่สุดในบ้านเราก็คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ กาญจนบุรี และกรุงเทพ
ประโยชน์ของบร็อคโคลี่
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง ช่วยชะลอผิวพรรณไม่ให้เหี่ยวย่น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ตลอดเวลา (ซีลีเนียม)
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน เรื่องจากบร็อคโคลี่เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยสามารถ
- ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์และทำลาย DNA ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ผักในตระกูลกะหล่ำ มีความสัมพันธ์กับการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมองได้ (Strokes)
- ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรงยิ่งขึ้น

วันที่ 3
มื้อเช้า
ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Cheddar Cheese 1 แผ่น แอ๊ปเปิ้ล 1 ผล

กินแอปเปิ้ลอย่างไรให้ได้ประโยชน์
ในแง่โภชนาการ แอปเปิ้ลไม่ใช่ผลไม้ที่มีวิตามินหรือแร่ธาตุในปริมาณสูงมากนัก เมื่อเทียบกับกล้วย ฝรั่งหรือส้ม แต่หากทานแอปเปิ้ลวันละ 2-4 ลูก โดยไม่ปอกเปลือกก็จะได้รับเส้นใยอาหารและสารอาหารต่าง ๆ ในปริมาณที่พอเหมาะ ในปัจจุบันมีการกล่าวอ้างสรรพคุณของแอปเปิ้ลมากมาย เช่น บำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และฆ่าเชื้อไวรัส ซึ่งหากต้องการจะรับประทานแอปเปิ้ลสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมน้ำหนักแล้ว ก็ควรต้องทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และผักผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
คุณค่าทางอาหารของเเอ๊ปเปิ้ลเขียว 100 กรัม |
พลังงาน |
52 kcal |
น้ำ |
87 g |
น้ำตาล |
8 g(1.6 tb.) |
ใยอาหาร |
2.2 g |
เบต้าเเคโรทีน |
31 mcg |
วิตมินซี |
2 mg |
โปเเตสเซี่ยม |
127 mg |
คุณค่าทางอาหารของในเเอ๊ปเปิ้ลแดงวอชิงตัน 100 กรัม |
พลังงาน |
60 kcal |
น้ำ |
85 g |
น้ำตาล |
11 g(2.2 tb.) |
ใยอาหาร |
2.1 g |
เบต้าเเคโรทีน |
36 mcg |
วิตมินซี |
1 mg |
โปเเตสเซี่ยม |
98 mg |
คุณค่าทางอาหารของในเเอ๊ปเปิ้ลแดงฟูจิ 120 กรัม |
พลังงาน |
60 kcal |
น้ำ |
104 g |
น้ำตาล |
11 g(2.2 tb.) |
ใยอาหาร |
1.8 g |
เบต้าเเคโรทีน |
40 mcg |
วิตมินซี |
1 mg |
โปเเตสเซี่ยม |
127 mg |
มื้อกลางวัน
ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง
มื้อเย็น
ปลาทูน่า 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ ดอกกระหล่ำต้ม 4 ออนซ์ แคนตาลูป 1/2 ผล

หมายเหตุ
- ขนมปังปิ้งต้องปิ้งจนแห้ง ห้ามทาเนยหรือมาการีน
- แคร๊กเกอร์ต้องเป็นรสเค็ม
- ปลาทูน่าและถั่วฝักยาวสามารถแช่แข็งได้
- อาหารชุดนี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีซึ่งกันและกัน และพิสูจน์ได้

ข้อห้าม
- ห้ามเปลี่ยนแปลงหรือทดแทนอาหารอื่น ห้ามใช้เครื่องปรุงอื่น นอกจากเกลือและพริกไทย
- รายการใดที่ไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน ให้ใช้วิจารณญาณตามความเหมาะสม
สูตรอาหารนี้ให้ใช้ติดต่อกัน 3 วัน ภายใน 3 วัน ควรลดน้ำหนักได้ 10 ปอนด์ หรือประมาณ 4.5 กิโลกรัม หลังจาก 3 วัน สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติค่ะ
* เมนูลดน้ำหนัก จะได้ผลสูงสุด ควรงดและละเว้นอาหารประเภทของหวาน กะทิ ขนมต่างๆ เครื่องในสัตว์ น้ำอัดลม ไขมัน ของทอดของมันทุกอย่าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดด้วย

ลดน้ำหนักเร่งด่วน 3 วัน 5 กิโลกรัม
รีดไขมันแบบฮาร์ดคอร์ ดีจริงหรือ ?
วิธีลดน้ำหนัก 3 วัน 5 กิโลกรัม ที่หลายคนสนใจ เพราะลดน้ำหนักลงได้เยอะ แถมใช้เวลานิดเดียวเอง แต่ลองชั่งใจดูสักนิดว่า สูตรนี้ดีต่อสุขภาพ และช่วยลดน้ำหนักได้ขนาดไหน
วิธีลดน้ำหนักแบบต่าง ๆ เป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ ที่กำลังฟิตหุ่น ลดความอ้วน ยิ่งเป็นสูตรลดน้ำหนักที่ใช้เวลาน้อย แต่ลดน้ำหนักลงได้มาก ๆ ยิ่งถูกใจสาว ๆ นักเชียว หลายคนก็นำไปลองทำตามดูด้วย โดยเฉพาะสูตรลดน้ำหนักสุดโหด 3 วัน ลดได้ 4-5 กิโลกรัม ที่มีหลายคนแชร์กันอยู่ แต่สูตรนี้จะดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่
สูตรลดน้ำหนัก 3 วัน 5 กิโลกรัม กินอะไรบ้าง?
สำหรับสูตรลดน้ำหนัก 3 วัน 4-5 กิโลกรัมนี้ คิดค้นโดย คุณตุ๊ก กชพรรณ อนันต์ชล แม่บ้านลูกสาม ที่ทดลองใช้สูตรลดน้ำหนักตามธรรมชาติมาแล้วได้ผล ได้นำเสนอสูตรลดน้ำหนัก 3 วัน โดยทานอาหารดังนี้
สูตรลดน้ำหนัก วันที่ 1
อาหารเช้า : เริ่มที่ น้ำส้ม (หรือชา/กาแฟ ไม่ใส่น้ำตาลสำหรับคนที่ชอบทานตอนเช้า) ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ หรือ ส้มตำผักล้วน ผลไม้ 1 อย่าง
อาหารกลางวัน : น้ำส้ม หรือ ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ปลานึ่ง หรือ ย่าง ห้ามใช้น้ำมัน และผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ หรือ ส้มตำผักล้วน
อาหารเย็น : น้ำส้ม ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ หรือ ส้มตำผักล้วน เนื้อไม่ติดมัน ย่างหรือนึ่ง ห้ามใช้น้ำมัน
สูตรลดน้ำหนัก วันที่ 2
อาหารเช้า : น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 ซีซี) ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่นไข่ต้ม 1 ฟอง ผลไม้
อาหารกลางวัน : น้ำส้ม ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ผัก ต้มจิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ หรือ ส้มตำผักล้วน ผลไม้
อาหารเย็น : น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 ซีซี) ปลานึ่ง หรือ ย่าง ห้ามใช้น้ำมัน ผัก ต้มจิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ หรือ ส้มตำผักล้วน
สูตรลดน้ำหนัก วันที่ 3
อาหารเช้า : น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 ซีซี) ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ผลไม้ โยเกิร์ต ส่วน
อาหารกลางวัน : น้ำส้ม ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟองผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ หรือ ส้มตำผักล้วน
อาหารเย็น : น้ำส้ม นมสด 1 แก้วเล็ก (200 ซีซี) ปลา/เนื้อนึ่ง หรือ ย่าง ห้ามใช้น้ำมัน ผัก จิ้มน้ำพริก หรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ หรือ ส้มตำผักล้วน

สูตรลดน้ำหนัก 3 วัน 5 กิโลกรัม ใช่ว่าดีต่อสุขภาพจริง !
จะเห็นได้ว่าสูตรลดน้ำหนักดังกล่าว เน้นทานอาหารหลัก ๆ คือ น้ำส้ม นมสด ขนมปัง ไข่หรือปลา ผัก และมีผลไม้บางมื้อเท่านั้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาระบุว่า หากมองตามชนิดอาหารที่นำมาวางแผนการลดน้ำหนักแล้วนับว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รวมทั้งการเน้นปรุงอาหารด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง แทนการทอดทั้งหมด และงดเติมน้ำตาลในเครื่องดื่ม ก็ถือเป็นแนวทางการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้มีสุขภาพดีเสมอไป !!
นั่นเพราะเมื่อดูปริมาณอาหารตามสูตรที่ลดน้ำหนักแล้ว จะเห็นว่าพลังงานจากอาหารที่ได้ในแต่ละมื้อน้อยมาก ๆ หากนำมาคิดเป็นพลังงานเฉลี่ยต่อวันได้เพียง 962 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าปริมาณอาหารที่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนักมาก เพราะโดยปกติแล้วใน 1 วัน สำหรับผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนักจะต้องได้รับพลังงานไม่น้อยกว่า 1,200 กิโลแคลอรี ส่วนผู้ชายควรรับพลังงานไม่น้อยกว่า 1,600 กิโลแคลอรี
ดังนั้น หากต้องการลดน้ำหนักลงอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม วิธีง่าย ๆ คือ ให้ลดพลังงานที่ได้จากอาหารวันละ 500 กิโลแคลอรี จะทำให้น้ำหนักลดลงได้สัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม โดยไม่ต้องอด

ลดน้ำหนักแบบไหน ถึงดีต่อสุขภาพจริง ๆ
วิธีลดน้ำหนักแบบใช้วันน้อย ๆ แต่ลดน้ำหนักลงได้มาก ๆ ออกจะดูฮาร์ดคอร์ไปนิดนึง และร่างกายบางคนอาจปรับสภาพไม่ทัน ทำให้ป่วยเจ็บขึ้นมาก็ได้ ดังนั้น ลองมาดูสูตรลดน้ำหนักที่ได้ผลดีต่อสุขภาพจากคำแนะนำของกรมอนามัยกันหน่อย ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
โดยสูตรลดน้ำหนักทำได้ง่ายที่กรมอนามัยแนะนำนี้ คือการบริโภคอาหารตามหลัก food plate model หรือที่รู้จักกันคือ เมนู 211 โดยแบ่งส่วนของจานอาหารออกเป็น 4 ส่วน ครึ่งหนึ่งของจานเป็นส่วนของผักสามารถเลือกได้ทั้งผักสด ผักสุก รูปแบบการปรุงเลือกได้ตามใจ แต่ต้องคำนึงถึงน้ำมันและน้ำตาลด้วย
อีก 1 ส่วน เป็นกลุ่มข้าวแป้ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องกินได้แค่ขนมปังแผ่นเดียวตามสูตรสุดโหด แต่สามารถกินได้ 2 ทัพพีต่อมื้อ คืออาจเลือกเป็นข้าว 2 ทัพพี หรือขนมปัง 2 แผ่น ถ้าหากกินอย่างอื่นด้วย เช่น ธัญพืชต่าง ๆ รวมทั้งนมและโยเกิร์ต ก็ควรลดปริมาณข้าวในมื้อนั้น ๆ ลงอีก
และ 1 ส่วนที่เหลือสุดท้ายเป็นเนื้อสัตว์ ต้องเลือกที่ชนิดไม่ติดหนัง ไม่ติดมัน ปรุงด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง เพื่อลดพลังงานจากน้ำมัน และเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอต้องมีผลไม้อีก 1 จานเล็กร่วมด้วยทุกมื้อ นอกจากนี้ใน 1 วันควรดื่มนมพร่องมันเนยอีก 1 แก้ว ดื่มน้ำเปล่าวันละ 6-8 แก้ว
โดยปกติแล้วการลดน้ำหนักที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อสุขภาพ ควรลดประมาณครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่ได้ลดทีละมาก ๆ เพราะการลดทีละน้อย ๆ และลดอย่างต่อเนื่องกลับเป็นผลดีในเรื่องการคงสภาพร่างกาย จะทำให้ร่างกายสามารถปรับสภาพและรักษาสมดุลได้ ทั้งอัตราการเผาผลาญพลังงาน สมรรถภาพทางกาย รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานต่าง ๆ ด้วย และเน้นการปรับพฤติกรรมการกินที่ดีให้กับตัวเอง
รู้ไหมว่า การลดน้ำหนักลงเร็ว ๆ ไม่ว่าจะมาจากการใช้ยาลดความอ้วน หรืออดอาหาร จะทำให้ร่างกายสูญเสียมวลไขมันไปด้วย โดยน้ำหนักตัวที่ลดลงทุก ๆ 4 กิโลกรัม จะสูญเสียมวลไขมันถึง 3 กิโลกรัม และมวลกล้ามเนื้อ 1 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อเลิกควบคุมน้ำหนักแล้วน้ำหนักจะกลับมาเท่าเดิมอีกครั้งอยู่ดี แต่น้ำหนักที่เพิ่มกลับขึ้นมานี้ จะเป็นมวลไขมันล้วน ๆ อย่างที่เรียกว่า “โยโย่ เอฟเฟกต์”
ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก ก็คือการควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30-60 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อให้กล้ามเนื้อคงอยู่และรักษาอัตราการเผาผลาญพลังงานให้คงที่และดีต่อสุขภาพนั่นเอง
Cr. health.kapook.com
кулич пасхальный формы
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : สูตรลดน้ำหนัก แบบเร่งด่วนใน 3 วัน รีดไขมันแบบฮาร์ดคอร์
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น