ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่เคยตั้งคำถามกับป้ายเหล่านี้มาก่อน จนกระทั่งได้มาทำงานที่กรมทางหลวงจึงรู้ว่าป้ายแต่ละอันมีความหมายและวิธีการใช้ไม่เหมือนกัน แต่เนื่องจากมีป้ายจราจรต่างๆมากมาย ดังนั้นในฉบับนี้ผู้เขียนจะขอพูดถึง ป้ายจราจรประเภทป้ายบังคับเป็นหลัก ก่อนอื่นเริ่มทำความรู้จักเรื่องทั่วไปของป้ายจราจรกันเลยนะครับ
ป้ายจราจร แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ป้ายบังคับ ป้ายเตือน และป้ายแนะนำ หลักการจำง่ายๆ พิจารณาจากสีพื้นป้าย คือ ป้ายบังคับส่วนใหญ่ใช้พื้นสีขาวและสีน้ำเงิน ป้ายเตือนใช้พื้นสีเหลืองและสีส้ม และป้ายแนะนำส่วนใหญ่ใช้พื้นสีขาว สีเขียว และสีน้ำเงิน (ดูรูปที่1และ 2)
รูปที่ 1 ตัวอย่างป้ายบังคับและป้ายเตือน
รูปที่ 2 ตัวอย่างป้ายแนะนำ
ป้ายจราจรประเภทบังคับ ใช้เพื่อการบังคับหรือควบคุมการจราจร ซึ่งมีผลตามกฎหมาย ป้ายส่วนใหญ่เป็นรูปวงกลม ยกเว้น ป้ายหยุดและป้ายให้ทาง ซึ่งเป็นรูปแปดเหลี่ยมและสามเหลี่ยมตามลำดับ เดิมทีป้ายบังคับที่กรมทางหลวงใช้มาตั้งแต่ในอดีตนั้น มีจำนวน 42 ป้าย ส่วนใหญ่ใช้พื้นป้ายสีขาว ขอบป้ายสีแดง (ดูรูปที่ 3)

รูปที่ 3 ตัวอย่างป้ายบังคับ (พื้นป้ายสีขาว ขอบป้ายสีแดง)
ยกเว้น ป้ายให้ทาง ป้ายหยุด ป้ายห้ามจอดรถ และป้ายห้ามหยุดรถที่ใช้สีป้ายต่างออกไป (ดูรูปที่ 4) ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับป้ายและการติดตั้งที่ผ่านมา กรมทางหลวงปฏิบัติตามคู่มือเครื่องหมายควบคุมการจราจร ภาค 1 ฉบับปี พ.ศ. 2531

รูปที่ 4 ป้ายให้ทาง ป้ายหยุด ป้ายห้ามจอดรถ และป้ายห้ามหยุดรถ
ความเป็นมาของป้ายจราจรรูปแบบใหม่
เริ่มจากหลายหน่วยงานต้องการให้ป้ายจราจรมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ โดยอ้างอิงจาก พรบ.ทางหลวง 2535 ที่กำหนดให้ออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับป้ายจราจรและเครื่องหมายจราจร ต่อมาจึงมีร่างกฎกระทรวงกำหนดการจัดทำ ปัก ติดตั้งป้ายจราจร เครื่องหมายจราจรหรือสัญญาณจราจร สำหรับการจราจรบนทางหลวง พ.ศ. …. และได้ผ่านการพิจารณาโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะประกาศใช้ต่อไปในอนาคต (ดูรูปที่ 5)

รูปที่ 5 ป้ายบังคับ (ใหม่) จำนวน 55 ป้าย ตามร่างกฎกระทรวงฯ
ความแตกต่างระหว่างรูปแบบเก่ากับรูปแบบใหม่ ผู้เขียนขอสรุปอย่างย่อ ดังนี้
1. จำนวนป้ายเพิ่มขึ้น จากเดิมมี 42 ป้าย เปลี่ยนเป็น 55 ป้าย
2. มีป้ายสีน้ำเงินเพิ่มใหม่ ป้ายเหล่านี้เป็นป้ายประเภทคำสั่งเพื่อให้ทำตามเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่ปรากฎอยู่ในป้าย มีทั้งการเปลี่ยนสีป้ายเดิมและการเพิ่มป้ายใหม่ (ดูรูปที่ 6 – 7) เดิมป้ายบังคับส่วนใหญ่ที่กรมทางหลวงใช้ คือ พื้นป้ายสีขาว เส้นขอบป้ายสีแดง ในขณะที่รูปแบบใหม่พื้นป้ายสีน้ำเงิน เส้นขอบป้ายสีขาว มีจำนวน 18 ป้าย ซึ่งป้ายในลักษณะนี้มีใช้กันในกลุ่มประเทศยุโรป (ดูรูปที่ 8)
รูปที่ 6 ป้ายบังคับสีน้ำเงิน (ที่เปลี่ยนเฉพาะสีป้าย)

รูปที่ 7 ป้ายบังคับสีน้ำเงิน (เพิ่มใหม่)

รูปที่ 8 ตัวอย่างป้ายบังคับ ของ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนี
3. มีการเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ในป้าย เนื่องจากบางป้ายมีการปรับสัญลักษณ์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลทั่วไป เช่น ป้ายห้ามเข้า เป็นต้น มีจำนวน 15ป้าย (ดูรูปที่ 9)
รูปที่ 9 ป้ายบังคับที่มีการเปลี่ยนสัญลักษณ์ในป้าย
4. มีการเพิ่มป้ายใหม่ เนื่องจากสภาพการจราจรหรือกายภาพของถนนที่เปลี่ยนไป ป้ายเหล่านี้ไม่มีในคู่มือป้ายจราจรของกรมทางหลวงมาก่อน มีจำนวน 9 ป้าย (ดูรูปที่ 10)
รูปที่ 10 ป้ายบังคับที่เพิ่มใหม่
5. ป้ายเดิมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ป้ายเหล่านี้คงรูปแบบเดิมทั้งหมด มีจำนวน 13 ป้าย (ดูรูปที่ 11)
รูปที่ 11 ป้ายบังคับที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง (เดิม)
โดยภาพรวมแล้ว ขอสรุปว่า ป้ายบังคับสีน้ำเงินมาจากรูปแบบป้ายใหม่ที่มีใช้กันในกลุ่มประเทศยุโรปและจะมีการประกาศใช้ในอนาคต ซึ่งรูปแบบป้ายใหม่นี้มีการผสมผสานกันระหว่างป้ายเดิมที่เคยใช้กันมา หรือมีการปรับปรุงสัญลักษณ์ในป้าย หรือมีการนำป้ายจากต่างประเทศมาปรับใช้ ขณะเดียวกันป้ายบางส่วนได้มีการนำมาใช้แล้วบนถนนของกรมทางหลวง ซึ่งพบว่าสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้ทาง หรือผู้ปฏิบัติบ้างพอสมควรทั้งขนาดป้ายหรือสีป้าย
ดังนั้นเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดและเพื่อให้สามารถนำไปใช้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง สำนักมาตรฐานและประเมินผลจึงได้ว่าจ้างที่ปรึกษาให้ปรับปรุงคู่มือป้ายจราจร และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ซึ่งต่อไปสามารถนำมาใช้แทนที่คู่มือป้ายจราจรเดิมได้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาและหาอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับป้ายทั้งหมดได้ในอนาคตอันใกล้นี้
เนื้อหาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้กล่าวมานี้มิใช่คำเฉลยของชื่อเรื่องนี้ แต่เป็นการจุดประกายและปรับความเข้าใจเบื้องต้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ปฏิบัติ ผู้ใช้ทาง และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆด้วยสามารถมองภาพรวมของป้ายจราจรรูปแบบใหม่ที่จะประกาศใช้ในอนาคต และหากมีเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดที่บกพร่องหรือผิดพลาดไป ผู้เขียนต้องขอโทษและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สนับสนุนบทความโดย วารสารทางหลวง รวมใจก้าวไปเป็นหนึ่งเดียว
รับอบรมการผลิตสูตรน้ำยาคาร์แคร์แบบครบวงจร

รับพัฒนาสูตรน้ำยาคาร์แคร์ คุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เป็นมิตรต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
เปิดอบรมหลักสูตรน้ำยาคาร์แคร์ (5 สูตร)
จากปกติ 15,500 บาท ลดเหลือ 12,000 บาท
โดยทีมงานมืออาชีพ
ด้วยนโยบายคุณภาพและมาตรฐานสากล บริการนำการขาย ใส่ใจคุณภาพ

1.สูตรการผลิตแชมพูโฟมล้างรถยนต์ผสมสารเคลือบเงา ( Car Wash Shampoo Foam)
ประโยชน์และคุณสมบัติ:
แชมพูโฟมล้างรถยนต์ผสมสารเคลือบเงา เป็นแชมพูโฟมล้างรถผสมซิลิโคน สูตรเข้มข้น ที่ให้ฟองมากใช้ล้างรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ สามารถขจัดคราบสกปรกบนพื้นผิวรถได้ดีเยี่ยมและช่วยรักษาสีรถให้ดูใหม่ สดใสเงางามอยู่เสมอ สามารถใช้ได้กับรถทุกประเภท
สุดยอดผลิตภัณฑ์แชมพูโฟมล้างรถและเคลือบสีรถได้ในขั้นตอนเดียว ดัวยกลิ่นหอมละมุนและฟองแชมพูที่นวลนุ่ม จะทำให้คุณหลงใหลและเพลิดเพลินไปกับการล้างรถของคุณ ประดุจได้ใช้ครีมอาบน้ำสุดโปรด ทำความสะอาดคราบสกปรกฝังแน่นได้สะอาด พร้อมให้สีรถดูสดใส ไม่ทิ้งคราบน้ำ ให้ความเงาสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วิธีใช้: เจือจาง แชมพูโฟม 1 ส่วนต่อน้ำ 10 ส่วน ใช้ฟองน้ำหรือผ้าเนื้อนุ่มเช็ดถูพื้นผิวรถยนต์ ล้างด้วยน้ำสะอาด และปล่อยให้แห้งโดยไม่ต้องเช็ดหรือใช้ผ้าชามัวส์เช็ด
2. สูตรน้ำยาเคลือบเงายางรถยนต์ สูตรซิลิโคน 100% (Tire Black Shine)
ประโยชน์และคุณสมบัติ:
น้ำยาเคลือบเงายางรถยนต์ สูตรเข้มข้น ช่วยเคลือบเงายางบำรุงรักษารถยนต์ เช่น คิ้วยางรถ ยางกันชน ยางขอบกระจก เป็นต้น ให้เงางาม และยืดอายุเนื้อยางรถยนต์ให้มากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ดูแลยางรถยนต์ เทคโนโลยีดูแลยางรถยนต์ล่าสุดของโลก ผสานคุณค่าจากสารกลุ่มซิลิโคนธรรมชาติที่ช่วยทำให้ยางที่เก่าและแข็งกระด้าง กลับมาดำเงางามเหมือนใหม่ พร้อมปกป้องหน้ายางจากแสงยูวี ด้วยสารป้องกันแสงแดดและป้องกันน้ำและคราบสกปรกไม่ให้ฝังแน่นในเนื้อยาง ช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น
วิธีใช้: ให้ทำความสะอาดและรอให้ยางรถยนต์แห้ง เทผลิตภัณฑ์ ลงในผ้าหรือฟองน้ำที่เตรียมมา เช็ดทำความสะอาดอย่างทั่วถึง แล้วรอเวลาอย่างน้อย 15 นาที
3. สูตรน้ำยาเคลือบเบาะและภายในรถยนต์ (Interior Leather & Vinyl Polish)
ประโยชน์และคุณสมบัติ:
น้ำยาเคลือบเงาภายในคอนโซล เบาะหนัง ไวนิลหรือพลาสติก ช่วยป้องกันฝุ่นเกาะและบำรุงรักษาพื้นผิววัสดุให้ดูใหม่สดใสเป็นเงางาม ใช้ได้ทั้งหนังแท้ หนังเทียม ไวนิล ไฟเบอร์ แผงประตู คิ้วยาง แผงคอนโซล รถยนต์ ป้องกันการแตกร้าว ซีดจางจากแสงแดดและช่วยป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้เกาะพื้นผิววัสดุ
ผลิตภัณฑ์เคลือบคอนโชล เบาะหนัง ไวนิลทุกชนิด ช่วยคืนความนุ่มนวล เงางามให้กับหนังแท้ทุกชนิด ด้วยส่วนผสมสารสกัดจากแตงกวา ว่านหางจระเข้ ให้ความชุ่มชื้นเป็นธรรมชาติและปกป้องแสงแดดในเวลาเดียวกัน มีส่วนผสมสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยให้ปลอดภัยต่อผิวคุณและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วิธีใช้ : ทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อย จากนั้นเท ลงบนโฟม ทาผลิตภัณฑ์ลงบนพื้นหนัง แผงคอนโซล ปล่อยไว้ให้แห้ง
4.สูตรสเปรย์เคลือบเงาสีรถ (Spray Silicone Wax)
ประโยชน์และคุณสมบัติ:
สเปรย์เคลือบสีรถยนต์ เป็นผลิตภัณฑ์เคลือบเงาสีรถยนต์ ใช้ทำความสะอาดและขจัดคราบสกปรกที่ฝังลึกภายในเนื้อสีพร้อมทั้งรักษาสีรถยนต์ให้เงางาม และป้องกันรังสี UV ทำให้รถของท่าน ดูใหม่อยู่เสมอ
ผลิตภัณฑ์ดูแลสีรถยนต์ให้เงางามในขั้นตอนเดียวง่ายๆเพียงฉีดผลิตภัณฑ์หลังล้างรถหมาดให้ทั่วทั้งคัน แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง สีรถของคุณก็จะกลับมาเงางามเหมือนใหม่ในทันที ด้วยเทคโนโลยี OBAs ช่วยป้องกันรังสียูวี ความร้อนและทำให้รถคุณเงางามเป็นประกายอยู่เสมอ ทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะป้องกันเหนือชั้นผิวเว๊กซ์ คืนสีใหม่ให้กับรถยนต์ บำรุงรักษาหลังการเคลือบแก้ว
วิธีใช้ : ล้างรถยนต์ให้สะอาด เขย่าขวดสเปรย์ให้เข้ากันก่อนใช้ แล้วสเปรย์ลงบนผิวรถยนต์ที่ต้องการ จากนั้นเช็ดให้เงาในเวลาเดียวกัน ด้วยผ้าที่สะอาดหรือไมโครไฟเบอร์
5.สูตรน้ำยาสลายคราบฝังลึก ล้างห้องเครื่อง (Deep Cleanser for Engine Room)
ประโยชน์และคุณสมบัติ:
สเปรย์เคลือบสีรถยนต์ เป็นผลิตภัณฑ์เคลือบเงาสีรถยนต์ ใช้ทำความสะอาดและขจัดคราบสกปรกที่ฝังลึกภายในเนื้อสีพร้อมทั้งรักษาสีรถยนต์ให้เงางาม และป้องกันรังสี UV ทำให้รถของท่าน ดูใหม่อยู่เสมอ
ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบฝังลึกสูตรเข้มข้นในขั้นตอนเดียว ทำความสะอาดได้โดยไม่ต้องใช้แชมพู ใช้น้ำน้อย ประหยัดเวลา เพียงฉีดลงบนพื้นผิวรถยนต์ที่มีคราบสกปรกต่างๆ จะสามารถสลายออกได้อย่างง่ายดาย ให้ความลื่นและลดแรงเสียดทาน ทำให้ผิวรถถูกปกป้องและเงางามในเวลาเดียวกัน
วิธีใช้ : ผสม กับน้ำสะอาดอัตราส่วน 1: 20 เท่า แล้วฉีดพ่นบนผิวรถยนต์ที่มีคราบสกปรก รอให้คราบสลายสักครู่ เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ชุบด้วยน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดตามด้วยผ้าแห้ง ควรทำความสะอาดรถเป็นส่วนๆไปและเช็ดคราบสกปรกด้วยผ้าสะอาดไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ควรถูวนเป็นวงกลม
ประกาศ: ผู้ที่สนใจเรียน หลักสูตรการผลิตน้ำยาชนิดต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่สนใจเรียน พร้อมหลักการตลาดเบื้องต้นเพื่อลูกค้าต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามที่
Brand Manager
Tel: 083-007-8589
Line ID: careandliving

пхукет обучение дайвингу
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ทำไมป้ายจราจร จึงมีสีน้ำเงิน?
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น