สารสกัดจากสมุนไพร ที่ช่วยให้รอยฝ้าจางลงได้จริง!
เปิดอ่าน 1,221 views
สารสกัดจากสมุนไพร ที่ช่วยให้รอยฝ้าจางลงได้จริง!
สารสกัดธรรมชาติ ลดฝ้า กระ จุดด่างดํา
- สารสกัดเปลือกรากปอสา ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase Inhibitor ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่เร่งขบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินให้ผิวคล้ำเสีย และทำให้ผิวเกิดฝ้า
- สารสกัดหัวไชเท้า มีสาร Glycossides ที่อุดมไปด้วย กรด Ascorbic Acid และ VitaminA ซึ่งผลการวิจัยออกมาตรงกันว่าช่วยลดเรื่อง ฝ้า กระ ได้อย่างเห็นผลชัดเจน
- สารสกัดแก่นมะหาด ที่เป็นที่รู้กันว่าโดดเด่นในเรื่องช่วยให้ผิวขาวใส ที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งสารสร้างเมลานินได้เป็นอย่างดี ช่วยบำรุงให้ผิวขาว ลดเลือนจุดด่างดำ และให้ผิวนุ่มและเนียนขึ้น
- กรดโคจิก (Kojic acid) เป็นสารที่สร้างจากเชื้อรา จากการใช้พบว่าปรับสีผิวได้น้อย และมีรายงานการแพ้ครีมชนิดนี้ประปราย ข้อควรระวังคือครีมตัวนี้ก่อความระคายเคืองสูง และทำให้เกิดผิวหนังอักเสบระคายเคืองจากการแพ้สัมผัส
- อาร์บูติน (Arbutin) เป็นสารสกัดธรรมชาติจากพืช Bearberry (เป็นต้นไม้พุ่มเตี้ยชนิดหนึ่ง) พบในสูตรยาโบราณของญี่ปุ่น มีประสิทธิภาพน้อยกว่าไฮโดรควิโนน (ยาทารักษาฝ้าตัวหลักที่ใช้กันแพร่หลาย) 100 เท่า จากการศึกษาพบว่าอาร์บูตินชนิดอัลฟา (Alpha-arbutin) ออกฤทธิ์ดีกว่า จึงเริ่มนิยมใช้อาร์บูตินชนิดอัลฟาในครีมทาให้ผิวขาว
- วิตามินซีและอนุพันธ์ ใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาว
- สารสกัดชะเอม (Licorice extract) ลดการเกิดผิวสีเข้มหลังได้รับรังสียูวีบี และลดอาการผิวไหม้แดด
- กรดผลไม้ (Alpha hydroxyl acid, AHA) ใช้ในครีมทาให้ผิวขาว เช่น กรดไกลคอลิก (Glycolic acid) พบมากในอ้อย กรดแล็กติก (lactic acid) พบมากในนมเปรี้ยว กรดมาลิก (malic acid) พบมากในแอปเปิ้ล กรดซิตริก (Citric acid) พบมากในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว กรดทาร์ทาริก (tartaric acid) พบมากในองุ่น
- สารสกัดจากใบหม่อน สารหลักที่ออกฤทธิ์ทำให้มีการสร้างเม็ดสีน้อยลงคือ mulberroside F
- สารสกัดจากว่านหางจระเข้ พบว่า Aloesin ซึ่งสกัดจากว่านหางจระเข้สามารถกดการสร้างเม็ดสีได้
- สารสกัดจากใบโสม (Ginseng) มีสาร P-coumaric acid ซึ่งยับยั้งการสร้างเม็ดสี
- สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko) มี Flavone glycosides ที่ส่วนใหญ่คือ Quercetin และอนุพันธ์ของ Kaempferol สารเหล่านี้ยับยั้งการสร้างเม็ดสี
- สารสกัดสมุนไพรแก่นมะหาด รักษาฝ้าได้ผลพอๆ กับยาทาไฮโดรควิโนนความเข้มข้นร้อยละ 2 นอกจากนั้น สารที่นำมาทดลองใช้รักษาฝ้าและทำให้ผิวขาวอื่นๆ เช่น สารสกัดจากรก สารสกัดจากชาเขียว และสารสกัดเมล็ดลำไย
- ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเสริมที่ใช้รักษาฝ้า เช่น สารสกัดเมล็ดองุ่น สารสกัดเปลือกสน สารสกัดทับทิม และ Tranxemic acid
- มีการกินยา Tranxemic acid เพื่อให้ฝ้าจางลง ยาตัวนี้ออกฤทธิ์ทำให้บริเวณที่มีเลือดไหลหยุดเร็วขึ้น แต่ตัวยาสามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสีได้ทำให้ฝ้าจางลง เนื่องจากต้องกินยาระยะยาว จึงต้องระวังผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ภาวะหลอดเลือดหัวใจ หรือหลอดเลือดดำอุดตัน
- Shea Butter เป็นสารสกัดธรรมชาติที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและทำให้เซลผิวหนังกลับมายืดหยุ่นดังเดิม และเมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอเซลล์ผิวจะปล่อยให้ความชื้นซึมผ่านเซลล์เข้ามาใน ขณะเดียวกันก็จะรักษาความชื้นให้คงอยู่ได้ดีขึ้น โดยการซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวของสารตัวนี้จะทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวนุ่มและเนียนขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนอะหนะ นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการคัน ผดผื่นแดง ผิวแห้งแตก และป้องกันอันตรายจากการถูกแดดเผา มีส่วนช่วยในการลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- Cucumber Extract หรือสารสกัดจากแตงกวา มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวหนังสดชื่น เพิ่มความยืดหยุ่น ลดการ บวมแดง สมานผิว ซึ่งแตงกวาถือว่าเป็นสมุนไพรเก่าแก่ชนิดหนึ่งซึ่งสาวทั่วโลกใช้เป็นเครื่องสำอางมาอย่างยาวนาน ในแตงกวาประกอบไปด้วยสารกลูซิด (Glucids) กรดอะมิโน และเกลือแร่ต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างสารเพิ่มความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ คงความเยาว์วัยแก่ผิว
- Centella Asiatica Extract หรือสารสกัดจากใบบัวบก หนึ่งในสุดยอดสารสกัดที่ช่วยในการฟื้นฟูและป้องกันรอยแผลเป็นด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยโครงสร้างแบบร่างแห ทำให้ให้ผิวแน่นกระชับ เต่งตึง มีความยืดหยุ่น เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว และยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีส่วนช่วยในการลดฝ้า กระ จุดด่างดำได้
- สารสกัดจากดอก Comfrey สมุนไพรที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดเลือนริ้วรอย หลุมสิวให้หายรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เสริมกระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมต่อต้านอาการอักเสบ ลดการระคายเคือง แก้ปัญหาจุดด่างดำได้อย่างดีเยี่ยม
การทาครีมปกปิดรอยฝ้า
การทาครีมปกปิดรอยฝ้าคือการใช้ครีม และ/หรือแป้งเพื่อปกปิดความผิดปกติของสี หรือโครงรูปของใบหน้าหรือร่างกาย ใช้ทาปกปิดไฝและปาน เช่น ปานดำที่ใบหน้า ด่างขาว แผลเป็น รอยสัก และฝ้า ในมุมของการรักษาฝ้าเนื่องจากสตรีเอเชียส่วนใหญ่นิยมมีผิวขาว จึงอาจใช้สารเคลือบคลุมผิวทา เนื่องจากเป็นสารที่ทำให้ทึบแสง มีสีขาว หรือขาวหม่น จึงทำให้ใบหน้าและผิวหนังแลดูขาวขึ้น ตัวอย่างของสารเคลือบคลุมผิว เช่น Titanium dioxide, Zinc oxide, Talcum, Kaolin และ Bismuth pigments สารพวกนี้มีคุณสมบัติกันแสงแดดจึงมีส่วนป้องกันการเกิดฝ้าได้ด้วย นับว่าการทาครีมปกปิดรอยฝ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการแก้ปัญหาฝ้าวิธีหนึ่ง
5 วิธีที่ควรทำควบคู่กับการใช้สารสกัดเหล่านี้ เพื่อทำให้ฝ้าจางลงอย่างเห็นผล!
วิธีที่ 1 :
ดื่มน้ำสะอาดให้มาก เชื่อเถอะว่าการดื่มน้ำในอุณหภูมิปกติ และดื่มน้ำแบบจิบๆตลอดวันให้ได้วันละ 8-10 แก้ว ก็จะช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ชุ่มชื้น ช่วยกับถ่ายสารพิษและของเสียในร่างกาย จึงทำให้การรักษาฝ้าเห็นผลดีขึ้น
วิธีที่ 2 :
ล้างหน้าให้สะอาดเพียงวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพราะการล้างหน้าเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกและเคมีจากเครื่องสำอาง ทำให้ผิวสะอาดใส รับสารบำรุงจากชุดรักษาฝ้าได้ดียิ่งขึ้น
วิธีที่ 3 :
ใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะครีมบำรุงจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น โดยเฉพาะครีมบำรุงผิวที่มีสารสกัดจากแก่นมะหาด รากปอสา และหัวไชเท้า จะช่วยให้รอยฝ้าจางลงได้ดี
วิธีที่ 4 :
ห้ามลืมทาครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดจะช่วยป้องกันผิวจาก UV ไม่ทำให้ฝ้าเกิดซ้ำหรือรอยเข้มขึ้นได้ ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดกทุกวันเพื่อป้องกันฝ้า
วิธีที่ 5:
ทานอาหารรสอ่อนและเน้นผัก-ผลไม้ อาหารเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารบำรุงจากภายในร่างกาย เมื่อร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ผิวพรรณก็จะสดใส เปล่งปลั่ง รอยฝ้าที่มีก็จะจางลงได้ดี
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : สารสกัดจากสมุนไพร ที่ช่วยให้รอยฝ้าจางลงได้จริง!
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น