ผื่นคันบนใบหน้า เกิดมาจากการแพ้เครื่องสำอาง สภาพอากาศ เหงื่อไคล แพ้ฝุ่นละออง หรือสารเคมีต่างๆ ทำให้เกิดผื่นคันหรือบวมแดงขึ้นมาได้ บางคนที่ผิวบางจะแพ้ได้ง่ายกว่าคนผิวปกติ ผื่นคันเหล่านี้จะทำให้ผิวหน้ารู้สึกคัน แสบร้อน บวมแดง ในบทความนี้จะบอกถึงสมุนไพรธรรมชาติ 5 ชนิดที่ช่วยรักษาผื่นคันเหล่านั้นได้ดี โดยที่เราแทบไม่ต้องเสียเงินในการรักษาแพงๆ เพราะสมุนไพรเหล่านี้หาได้ง่ายตามครัวเรือนทั่วไป เช่น

1. ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้ เป็นสมุนไพรเย็นที่มีกันแทบทุกบ้าน อีกทั้งสมุนไพรตัวนี้ นิยมนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำเครื่องสำอางต่างๆ เพียงแค่นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก จากนั้นล้างยางออกให้สะอาด เหลือแต่วุ้นใสๆ เอาวุ้นที่ได้มาบดแล้วทาบริเวณที่เป็นผื่นทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก ทำซ้ำทุกเช้า เย็น จะทำให้ผื่นหายเร็วขึ้น เพราะวุ้นในว่านหางจระเข้ มีฤทธิต้านการอักเสบ บวมแดงและการแพ้ต่างๆ

2. แตงกวา

สมุนไพรพื้นบ้าน หาง่าย ราคาถูก ที่นิยมนำมาเป็นอาหารและเครื่องสำอาง แค่นำแตงกวาหั่นเป็นแว่นบางๆแล้วนำมาแปะที่บริเวณผืนสัก 15-20 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยลดผดผื่นอีกทั้งยังทำให้ผิวหน้ามีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

3. ขมิ้น

ขมิ้นจะเป็นสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคทางผิวหนังได้ดี เพียงแค่ใช้ขมิ้นมาผสมกับดินสอพอง และนม คนให้เข้ากัน นำมาพอกบริเวณที่เป็นผื่นทั้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยให้ผื่นคันยุบลงอย่างรวดเร็ว

4. เปลือกกล้วย

เปลือกกล้วยก็มีสรรพคุณช่วยลดผดผื่นและอาการแพ้ต่างๆบรรเทาอาการแสบร้อน เพียงแค่ใช้เปลือกกล้วยด้านในมาประคบตรงบริเวณฯที่มีผื่นทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วเอาออกทำซ้ำทุกเช้าเย็นผื่นจะค่อยๆลดลง

5. มะนาว

มะนาวเป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ทางด้านความงามหลายด้าน นอกจากช่วยลดความมันบนใบหน้า ยังช่วยให้หน้าขาวกระจ่างใส อีกทั้งยังช่วยลดผื่นคัน ลดการระคายเคือง  การแสบร้อน บวมแดง แค่นำน้ำมะนาวมาทาให้ทั่วบริเวณที่เป็นผื่นทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด หรืออาจจำผสมมะนาวกับดินสอพองช่วยบรรเทาอาหารคันให้ลดลงไปได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้หน้าเนียน สว่างใสขึ้นอีกด้วย

การกำจัดอาการแพ้ หรือผื่นคันแบบสมุนไพรพื้นบ้านเป็นการรักษาแบบธรรมชาติไม่ส่งผลเสียต่อผิวหน้า ซึ่งอาจจะใช้เวลาในการรักษา แต่สมุนไพรเหล่านี้จะช่วยปกป้องและให้คุณประโยชน์ด้านอื่นๆด้วย การใช้ยาบางทีอาจเกิดสารพิษตกค้าง ส่งผลเสียต่อผิวหน้าในระยะยาวได้ อีกทั้งในบางคนผิวบาง การใช้ยาอาจต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือเกิดอันตรายต่างๆ