5 วิธีลดความอ้วน ที่ได้ผลจริง

1. หยุดทานอาหารแปรรูป

อาหารแปรรูปมักมีโซเดียมมากเกินไป รวมถึงส่วนผสมอื่น ๆ ที่อาจไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การบริโภคโซเดียมมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อหัวใจและนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในอนาคตได้ โดยปกติแล้ว เด็กอายุเกิน 2 ขวบ ควรบริโภคโซเดียมประมาณ 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน แม้ว่าสิ่งนี้อาจดูเยอะมาก แต่การตรวจสอบฉลากโภชนาการของอาหารที่คุณเลือกรับประทาน จะเผยให้เห็นว่าปริมาณเกินขีดจำกัด หรือไม่ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงปริมาณโซเดียมเพื่อรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี

2. เริ่มกำหนดแผนที่ชัดเจน

การสร้างแผนการลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล รวมถึงปริมาณและประเภทของอาหารที่จะบริโภค พร้อมด้วยคำแนะนำในการออกกำลังกาย ถือเป็นความพยายามที่เป็นประโยชน์ ทำหน้าที่เป็นเป้าหมายในการมุ่งมั่น เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก การพิจารณาการบริโภคอาหารในแต่ละวัน สิ่งสำคัญคือต้องจัดประเภทอาหารให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง นอกจากนี้ การพัฒนาแผนการลดน้ำหนัก ยังช่วยให้สามารถระบุจุดอ่อนและจุดอ่อนของตนเองได้อีกด้วย

3. งดการดื่มเครื่องดื่มแอกฮอล์

ไม่เพียงแต่เบียร์เท่านั้น แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่ อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากมีปริมาณแคลอรี่สูงในเครื่องดื่มแต่ละแก้ว แคลอรี่เหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นและกลายเป็นไขมันในร่างกาย หากคุณต้องการกำจัดไขมันออกจากร่าง สิ่งสำคัญคือต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ หรือเลี่ยงการดื่มไปเลยจะดีที่สุด

4. ปรับชีวิตให้สมดุลมากขึ้น

เมื่อปรับนิสัยการกินและออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันหน้าท้อง การจัดรูปแบบการใช้ชีวิตก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การนอนหลับที่เพียงพอเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการพักผ่อนและเติมพลัง การนอนดึกไม่ควรเกินตี 4 เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเร่งการเผาผลาญไขมัน การนอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน หลายคนอาจไม่ทราบว่าความเครียด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบเผาผลาญบกพร่อง เมื่อประสบกับความเครียด การหายใจจะถี่และตื้นขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้ออกซิเจนหล่อเลี้ยงร่างกายน้อยลงไปด้วย

5. ทำ IF ร่วมด้วย

การอดอาหารเป็นระยะ หรือการทำ IF เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในการลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในหมู่พนักงานออฟฟิศ หลักการของวิธีนี้ คือ การควบคุมปริมาณแคลอรี่และจำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร การฝึก IF มีหลายช่วงเวลาให้เลือก แต่ช่วงที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ 8/16 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจำกัดการบริโภคอาหารเป็นเวลา 8 ชั่วโมง และการอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมง ด้วยวิธี 8/16 บุคคลจะรับประทานอาหารภายในกรอบเวลา 8 ชั่วโมง และอดอาหารในช่วง 16 ชั่วโมงที่เหลือ โดยทั่วไปจะทานอาหาร 2 มื้อต่อวัน โดยไม่ต้องทานอาหารว่าง ดื่มน้ำเปล่า กาแฟดำ หรือชาไม่หวานที่ไม่มีแคลอรี่

หากคุณพยายามลดน้ำหนักแล้ว แต่ยังไม่เห็นผลใด ๆ อาจถึงเวลาต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก การทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ คุณไม่เพียงสามารถบรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนักได้ แต่ยังทำให้สุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้นอีกด้วย

5. ทำ IF ร่วมด้วย

การอดอาหารเป็นระยะ หรือการทำ IF เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในการลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในหมู่พนักงานออฟฟิศ หลักการของวิธีนี้ คือ การควบคุมปริมาณแคลอรี่และจำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร การฝึก IF มีหลายช่วงเวลาให้เลือก แต่ช่วงที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ 8/16 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจำกัดการบริโภคอาหารเป็นเวลา 8 ชั่วโมง และการอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมง ด้วยวิธี 8/16 บุคคลจะรับประทานอาหารภายในกรอบเวลา 8 ชั่วโมง และอดอาหารในช่วง 16 ชั่วโมงที่เหลือ โดยทั่วไปจะทานอาหาร 2 มื้อต่อวัน โดยไม่ต้องทานอาหารว่าง ดื่มน้ำเปล่า กาแฟดำ หรือชาไม่หวานที่ไม่มีแคลอรี่

Credit:Men Sanook!