สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่านๆ พบกับพวกเรา Moneyhub อีกแล้วครับ เจอกันทีไร พวกเราก็มีบทความดีๆมีสาระมาให้เพื่อนๆเสมอครับ เพื่อนๆเคยคิดไหมครับว่า ถ้าจะพูดถึง “บัตรกดเงินสด” ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งในปัจจุบันที่มีปัจจัยต่อการดำรงชีวิตเป็นอย่างมากครับ ทำให้บริการบัตรกดเงินสด กับ สินเชื่อ นั้นมีหลากหลายบริการจากหลากหลายธนาคารด้วยครับ

ซึ่งประโยชน์ของบัตรกดเงินสดนั้น สามารถตอบโจทย์เพื่อนๆที่เดือดร้อนในเรื่องของเงินได้เป็นอย่างดีครับ ไม่ว่าจะเป็นเงินฉุกเฉิน การใช้เงินในการจับจ่ายใช้สอยต่างๆครับ เพราะทุกๆคนนั้นมีการบริหารเรื่องเงินไม่เหมือนกัน หลายๆคนอาจจะลงตัวแล้ว แต่อีกหลายคนที่มีภาระต่างๆ แบกรับไว้มากมาย ไม่ต้องเป็นกังวลไปครับ เพราะว่าวันนี้พวกเรา Moneyhub จะมาแนะนำเปรียบเทียบบัตรกดเงินสดตัวเด่นๆของ แต่ละธนาคารกันครับ

ถ้าเพื่อนๆที่กำลังมีความสนใจ ก็ไม่ควรพลาดกับบทความของพวกเราในวันนี้ครับ ดังนั้น บัตรกดเงินสดของธนาคารไหนจะดียังไงบ้าง อีกทั้งสิทธิต่างๆ รวมถึงข้อมูลอัตราดอกเบี้ย วันนี้พวกเรารวบรวมมาให้เพื่อนๆได้ศึกษากันแล้วครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ
บัตรกดเงินสด ถือได้ว่าเป็นบัตรที่เอาไว้ใช้ยามจำเป็นจริงๆครับ เพราะว่าถ้าติดขัดเรื่องเงิน สามารถกดบัตรเงินสดมาใช้ได้ครับ เพราะความสำคัญในชีวิตคือความคล่องตัวต่างๆในการใช้เงิน มีเงินหมุนเวียนได้ทันใช้ อุ่นใจทุกครั้งเมื่อมีบัตรอยู่ แต่ว่าจะสมัครบัตรของธนาคารไหนดีล่ะมีเยอะแยะมากมายเลย

เอาล่ะครับ พวกเราจะไปเริ่มต้นกันที่ 3 อันดับแรกที่มีผู้นิยมใช้บริการครับ บัตรกดเงินสดของ KTC กับ บัตรกดเงินสด KTC Pound อับดับสองคือ บัตรกดเงินสดกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ จากธนาคารกรุงศรี อันดับสามคือ บัตรกดเงินสดธนชาต Flash-Plus จาก ธนาคารธนชาตครับ ข้อมูลทั้ง 3 บัตรนี้จะมีรายละเอียด ข้อดีที่แตกต่าง อะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

ตารางแสดงข้อมูล-สิทธิ-คุณสมบัติ-อัตราดอกเบี้ย-ของบัตรกดเงินสด KTC Pound,บัตรกดเงินสดกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์,บัตรกดเงินสดธนชาต Flash-Plus

จากตารางข้างต้นจะสรุปได้ว่า

บัตรกดเงินสด KTC Pound ,บัตรกดเงินสดกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และ บัตรกดเงินสดธนชาต Flash-Plus สามารถกู้ได้ 100% เท่ากัน เรื่องวงเงินอนุมัติ 5 เท่าของรายได้ เท่ากัน กดเงินหรือเบิกเงินได้ที่ตู้กดเงิน ATM โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเหมือนกัน อัตราดอกเบี้ยเท่ากันทุกรายการ แต่ บัตรกดเงินสดกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ นั้นอนุมัติไวกว่าบัตรอื่นๆเพียงภายใน 30 นาทีเท่านั้นถ้าสมัครที่สาขาทำการครับ แต่บัตรอื่นต้องรออนุมัติ โดยคุณสมบัติในการสมัครคล้ายๆกันหมดครับ แต่ถ้าเป็นบัตรเฟิร์สช้อย เพื่อนๆที่เป็นเจ้าของธุรกิจรายได้หมุนเวียนเริ่มต้นเพียง 54,000 บาท ครับ สำหรับบัตรกดเงินสดทั้ง 3 ใบ เพื่อนๆถูกใจ ชอบอกชอบใจ บัตรใบไหน ก็เลือกสมัครกันได้นะครับ
เอาล่ะครับเรามาต่อกันที่ บัตรกดเงินสดอีก 3 ธนาคารที่ผู้คนให้ความนิยมใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินครับ อันดับแรกจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ธนาคารกสิกรไทยครับ เราจึงเลือกบัตรกดเงินสด K-Express Cash มาเปรียบเทียบกับ ธนาคารซิตี้แบงค์ ที่มีบัตร ซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต อีกหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ บัตรกดเงินสด Speedy Cash จาก ธนาคารไทยพาณิชย์นั่นเองครับ สำหรับทั้ง 3 ใบนี้จะดียังไง รายละเอียดต่างๆนั้นๆเชิญชมกันได้เลยครับ

ตารางแสดงข้อมูล-สิทธิ-คุณสมบัติ-อัตราดอกเบี้ย-ของบัตรกดเงินสด K-Express Cash,บัตรกดเงินสดซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต,บัตรกดเงินสด Speedy Cash

จากตารางข้างต้นจะสรุปได้ว่า

วงเงินอนุมัติของบัตรกดเงินสดกสิกรไทย กับ บัตรกดเงินของไทยพาณิชย์ ให้วงเงินสูงสุดถึง 1.5 ล้านบาทครับ ส่วนบัตรกดเงินสดซิตี้แบงค์นั้น ให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทครับ ถ้าเพื่อนๆชอบการผ่อนชำระยอดเงิน แบบเบาๆ กับ บัตรกดเงินสด Speedy Cash จะให้ชำระขั้นต่ำที่ 3 % ครับ ส่วน บัตรกดเงินสดซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต ให้ชำระขั้นต่ำที่ 4 % และ บัตรกดเงินสด K-Express Cash ให้ชำระขั้นต่ำที่ 5 % ตามลำดับเลยครับ

ซึ่งบัตรทุกใบฟรีค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าทั้งหมด ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพฟรี จะมีเพียงบัตรกดเงินสด K-Express Cash ครับ ส่วน บัตรกดเงินสดซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต จะฟรีค่าธรรมเนียมรายปีครับ ส่วน บัตรกดเงินสด Speedy Cash จะให้ฟรีค่าธรรมเนียมการทำบัตรใหม่ หรือ การขอบัตรใหม่ครับ ถ้าอยากเป็นเจ้าของบัตรทั้ง 3 ใบนี้ เพียงเพื่อนๆ มีเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท ต่อเดือนเท่านั้นเองครับ อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 28 % ต่อปีแน่นอนครับ ถูกใจบัตรไหนก็เลือกเลยได้เลยครับ
ยังไม่หมดแค่นี้ครับ สำหรับบัตรกดเงินสดทั้ง 6 ใบข้างต้นนั้น ถือได้ว่าเป็นบัตรที่ผู้คนรู้จักกันเป็นอันดับต้นๆครับ แต่อย่างเช่นธนาคารใหม่ๆ ธนาคารที่ไม่ค่อยมีสาขาเยอะเท่าไหร่ ผู้คนอาจจะไม่รู้จัก ดังนั้นแล้ววันนี้เรายังมีบัตรอีก 3ใบ ของ 3 ธนาคาร ได้แก่ บัตรกดเงินสด ทีเอ็มบี เรดดี้แคช ของธนาคารทหารไทย กับ บัตรกดเงินสดยูโอบี แคชพลัส ของธนาคารยูโอบี และสุดท้ายกับ บัตรกดเงินสดสินเชื่อบุคคล Extracash ของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ซึ่งจัดได้ว่าทั้ง 3 ค่ายนี้ก็ถือว่าการให้บริการสินเชื่อ หรือ บัตรกดเงินสด ที่น่าสนใจเลยทีเดียวครับ ถ้าอย่างนั้นแล้ว พวกเราไปดูกันเลยดีกว่าครับว่า ทั้ง 3 ค่ายนี้จะมีอะไรดีที่น่าสนใจบ้าง
ตารางแสดงข้อมูล-สิทธิ-คุณสมบัติ-อัตราดอกเบี้ย-ของบัตรกดเงินทีเอ็มบี เรดดี้แคช,บัตรกดเงินสดยูโอบี แคชพลัส,บัตรกดเงินสดสินเชื่อบุคคล Extracash

จากตารางข้างต้นสรุปได้ว่า

วงเงินของบัตรกดเงินสดทีเอ็มบี เรดดี้แคช กับ บัตรกดเงินสดยูโอบี แคชพลัส อนุมัติที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ บัตรกดเงินสดสินเชื่อบุคคล Extracash .ให้วงเงินสูงสุดถึง 1.5 ล้านบาทเลยครับ เรื่องการชำระขั้นต่ำ อยู่ที่ 5 % เท่ากันทั้ง 3 ค่ายเลยครับ พร้อมทั้ง อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี เท่ากันด้วยครับ

ถ้าเพื่อนๆอยากเป็นเจ้าของบัตรกดเงินสด ของ บัตรใดบัตรหนึ่ง เพียงเพื่อนๆที่เป็นพนักงานประจำ เงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท ต่อเดือน หรือ เจ้าของธุรกิจ เงินรายได้อย่างต่ำ 20,000และ 25,000 บาท ต่อเดือนเท่านั้นเองครับ เลือกบัตรไหนดี? ทีเอ็มบี ยูโอบี หรือ ซีไอเอ็มบี อันนี้ก็เลือกเอาที่ถูกใจ ใช้ประโยชน์คุ้มค่าเหมาะสมกับเพื่อนๆแล้วล่ะครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆสำหรับ บัตรกดเงินสดตัวเด่นๆของแต่ละธนาคาร ซึ่งทั้งหมด มี 9 ใบที่น่าสนใจ เป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมากครับ คงถูกอกถูกใจเพื่อนๆไปไม่น้อยใช่ไหมล่ะครับ สำหรับเรื่องเงินติดขัด ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพียงเพื่อนๆสมัครบัตรกดเงินสดเอาไว้ใช้ยามจำเป็นจริงๆ ก็ไม่ลำบากในเรื่องเงิน ไม่เดือดร้อนคนอื่นๆด้วยครับ

สุดท้ายนี้พวกเราขอให้เพื่อนๆพิจารณาวางแผนกันให้ดีครับสำหรับการบริหารเงิน ควรมีการยับยั้งชั่งใจ ดูกำลังในการใช้จ่ายของตัวเองด้วยครับ สุดท้ายนี้พวกเราหวังว่าข้อมูลของพวกเราจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเพื่อนๆที่กำลังมองหาบัตรกดเงินสดประเภทต่างๆ เพื่อตัดสินใจจะทำ ถ้าเพื่อนๆคนไหน หรือ ท่านผู้อ่านท่านใด อยากจะแชร์บทความของเราสามารถ แชร์ กันได้ตามสะดวกเลยนะครับ สำหรับในครั้งหน้าพวกเรา Moneyhub จะนำบทความดีๆมาให้ติดตามกันอีกแน่นอนครับ แต่จะเป็นบทความอะไร ต้องติดตามกันคราวหน้านะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub