ปิดเมนู
หน้าแรก

เจาะมูลค่าธุรกิจดิวตี้ฟรี ขุมทรัพย์ในสนามบินที่ร้อนแรงจนใครๆ ก็อยากจับจอง

เปิดอ่าน 91 views

เจาะมูลค่าธุรกิจดิวตี้ฟรี ขุมทรัพย์ในสนามบินที่ร้อนแรงจนใครๆ ก็อยากจับจอง

Smart SME

สนับสนุนเนื้อหา

หากต้องเดินทางไปยังสนามบินต่างๆ ทั่วโลก เราจะต้องพบกับพื้นที่ขายสินค้าที่เรียกว่า ดิวตี้ฟรี (Duty Free) หรือร้านค้าปลอดภาษี ซึ่งมีสินค้าต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้ออย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เครื่องประดับ เสื้อผ้า ฯลฯ ซึ่งใครจะไปรู้ว่า ธุรกิจดิวตี้ฟรี คือหนึ่งในช่องทางหลักที่สร้างรายได้ให้กับสนามบินแต่ละแห่งเลยทีเดียว

ตามรายงานของ GlobalData ในหัวข้อ Global Duty Free Retailing, 2017-2022: Market & Category Expenditure and Forecasts, Trends, and Competitive Landscape มองว่า ธุรกิจดิวตี้ฟรียังมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2560-2564 ธุรกิจดิวตี้ฟรีทั่วโลกจะมียอดขายทะลุ 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2565 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.5% ต่อปี

 

สำหรับในประเทศไทย ผู้นำในธุรกิจดิวตี้ฟรีคงหนีไม่พ้น “คิง เพาเวอร์” ที่ล่าสุดเป็นผู้ชนะการประมูลเหนือคู่แข่งอื่นๆ คว้าสิทธิ์บริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (Duty Free) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แทนสัญญาเก่าที่จะหมดลงไปในปี 2563 นี้

>>คิง เพาเวอร์ ชนะประมูลดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิ-ทอท.แจงเสนอผลตอบแทนสูงกว่าปัจจุบัน

โดยรายละเอียดของสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิฉบับใหม่นี้ มีระยะเวลาสัมปทาน 10 ปี (ตั้งแต่ 28 ก.ย. 2563 – 31 มี.ค. 2574) มีพื้นที่ดิวตี้ฟรีในสุวรรณภูมิ 12,021 ตารางเมตร และมีค่าธรรมเนียมสัมปทานดิวตี้ฟรีอยู่ที่ 15% ซึ่งน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ที่เก็บค่าธรรมเนียมถึง 30-40%

ทั้งนี้ การยื่นประมูลสัมปทานสิทธิ์บริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (Duty Free) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีความแตกต่างจากประเทศอื่นๆ โดยผู้ได้รับสัมปทานจะมีเพียงรายเดียวเท่านั้น ไม่เหมือนกับสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้, สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ และสนามบินฮ่องกง ที่ผู้ได้รับสัมปทานจะมีมากกว่าหนี่งราย

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : เจาะมูลค่าธุรกิจดิวตี้ฟรี ขุมทรัพย์ในสนามบินที่ร้อนแรงจนใครๆ ก็อยากจับจอง