หลายคนออกกำลังกายเพื่อให้ได้มาซึ่งรูปร่างที่เล็กลง และกระชับสัดส่วนให้มากขึ้น จะได้ใส่เสื้อผ้าได้สวยๆ และยังคล่องตัวกว่าเดิม แต่การออกกำลังกายเพื่อกำจัดส่วนเกินออกไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ เพราะหากออกกำลังกายไม่ถูกวิธี ไขมันส่วนเกินที่เราอยากกำจัดอาจจะยังอยู่แม้ว่าเราจะพยายามออกกำลังกายอย่างหนักมากก็ตาม

ระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเพื่อช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกายออก ต้องออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นระดับปานกลาง เราจึงจะสามารถสลายไขมันที่อยู่ชั้นใต้ผิวหนังได้

ออกกำลังกายหนักมาก อาจไม่ช่วยลดไขมันส่วนเกิน?

ข้อควรระวังคือ การออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นสูง ออกกำลังกายให้เหนื่อยสุดๆ แรงแทบจะหมด เหงื่อไหลออกเป็นจำนวนมาก อาจไม่ได้ช่วยลดไขมันใต้ผิวหนังอย่างที่คิด เพราะร่างกายจะไม่ใช้กรดไขมันในการเป็นพลังงานในการออกกำลังกายเหมือนการออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นระดับปานกลาง เมื่อเราเพิ่มความหนักในการออกกำลังกาย ร่างกายจะปรับกระบวนการสร้างพลังงานใหม่ ร่างกายจะต้องการน้ำตาลกลูโคสในเลือด และในกล้ามเนื้อมาเป็นแหล่งพลังงานหลักแทนกรดไขมันนั่นเอง

การออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นระดับปานกลาง มีอะไรบ้าง?

ความเข้มข้นของระดับการออกกำลังกายของแต่ละคนไม่เท่ากัน คนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยจะทนต่อความเข้มข้นของการออกกำลังกายได้น้อยกว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ดังนั้นสามารถออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (วิ่ง ปั่นจักรยาน แอโรบิค ว่ายน้ำ เล่นกีฬา ฯลฯ) ได้ตามปกติ เพียงแต่สังเกตอาการเหนื่อยหอบระหว่างที่เราเล่น หากขณะที่กำลังออกกำลังกาย เรารู้สึกได้ว่าเหงื่อเริ่มซึมๆ ออกมา หายใจถี่ขึ้น และสามารถพูดได้เพียงคำ หรือประโยคสั้นๆ ระดับนี้แหละเป็นการออกกำลังกายระดับความเข้มข้นปานกลาง

ออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นระดับปานกลาง นานแค่ไหน?

เราสามารถออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นระดับปานกลางอย่างต่อเนื่องราว 30-60 นาที เพื่อการสลายไขมันส่วนเกินในร่างกาย ไม่ควรออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องนานกว่า 90 นาที หากอยากได้รูปร่างสมส่วน (กล้ามเนื้อลีน) หากออกกำลังกายมาก หรือนานเกินไป อาจเป็นการ “เพาะกล้าม” มากกว่า

เคล็ดลับหลังออกกำลังกาย

หลังออกกำลังกาย หากผิว สามารถทานอาหารได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้ง และน้ำตาลเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก ควรเลือกทานโปรตีน ผัก ผลไม้ จะดีกว่า