อวัยวะบนใบหน้าของเราทุกส่วนมีความสำคัญทั้งหมด เพราะทุกส่วนคือองค์ประกอบของความสวย หากส่วนหนึ่งส่วนใดมีตำหนิและมีความผิดปกติเพียงเล็กน้อยก็อาจสร้างปมในใจและทำให้เรากลายเป็นคนที่ขาดมั่นใจไปได้เลย จมูก ก็เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่สร้างปัญหาให้กับคุณสาว ๆ หลาย ๆ คน การมีจมูกที่ดูสวยไม่หนาเกินไม่บางจนหน้าเกลียด มีดั้งจมูกที่ยาวเรียว คงเป็นอะไรที่สาวๆ ทุกคนต้องการจะมี ปัจจุบันเทรนการศัลยกรรมตกแต่งจมูกจึงเป็นอะไรที่ฮอตฮิต สาว ๆ นิยมทำจมูกกันมากในปัจจุบัน ซึ่งด้วยความนิยมนี่เองจึงทำให้เกิดการพัฒนาวิธีการเสริมจมูกขึ้นมาแยกออกเป็นหลายวิธี แต่วันนี้เราจะมาแนะนำคุณสาว ๆ ให้รู้จักกันสักหนึ่งวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ว่ามาแรงจริง ๆ นั่น คือ การเสริมจมูกแบบเปิด

การเสริมจมูกมีกี่วิธี ?
“หลักๆ แล้วจะมีอยู่ 2 วิธี คือ การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) กับ การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้แตกต่างกันที่วิธีการเปิดแผลนั่นเอง”

ข้อดีข้อเสียของการเสริมจมูกแต่ละวิธีเป็นอย่างไร
“การเสริมแบบปิดนั้น เป็นรูปแบบที่ใช้กันทั่วไปและใช้กันมายาวนาน ปัจจุบันวิธีนี้ก็ยังมีใช้กันอยู่ เป็นการเปิดแผลด้านในรูจมูกจะหนึ่งข้างหรือสองข้างก็แล้วแต่จากนั้นใส่ซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนเพื่อการเสริมจมูก เช่น กระดูกอ่อนจากหลังหู หรือกระดูกอ่อนจากซี่โครง เข้าไปตรงแผลนั้น ข้อดีของวิธีนี้ก็คือ หลังผ่าตัดแล้วจะไม่เห็นรอยแผล แผลไม่บวมมาก การดูแลรักษาก็ไม่ยาก ส่วนข้อเสีย ต้องบอกว่าถ้าจะให้ทำการตกแต่งอย่างละเอียดคงจะทำได้ยากกว่า เพราะหมอไม่สามารถเห็นโครงสร้างด้านในจมูกได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเมื่อทำออกมาแล้วโอกาสที่จะจมูกจะเบี้ยวจะเอียงก็มีเหมือนกัน

ส่วน การเสริมจมูกแบบเปิดนั้น ปัจจุบันนี้นิยมกันมาก เพราะเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณสาว ๆ ในยุคปัจจุบันได้ตรงจุด หมอจะเปิดเเผลบริเวณใต้จมูก ตรงพื้นที่ระหว่างรูจมูกทั้งสองข้างแล้วเข้าไปจัดการกับรูปทรงของจมูก แม้วิธีนี้กำลังมาแรงแต่ก็มีวิธีนี้หลายคนมองว่าจะสร้างปัญหาตามมาคือจะมีแผลข้างนอก แต่จริง ๆ แล้วตรงนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะแผลไม่ได้ใหญ่มาก และตำแหน่งของแผลจะอยู่ในตำแหน่งที่ซ่อน เมื่อแผลหายแล้วก็จะมองไม่ออกเลยว่าเคยไปทำมา ข้อดีของวิธีนี้ก็คือ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถแก้ไขรูปร่างจมูกหรือตกแต่งปลายจมูกให้โด่งเชิด ทำปลายหยดน้ำได้อย่างครบถ้วน วิธีการนี้หมอสามารถปรับแต่งรูปทรงของจมูกได้ดั่งใจมากขึ้น ความสมดุลของจมูกในส่วนต่าง ๆ ก็จะดูสมดุลกันมากขึ้น เนื่องจากสามารถเห็นโครงสร้างภายในได้ดีกว่า โอกาสที่จมูกเบี้ยวและคดก็น้อยกว่ามาก เพราะเป็นวิธีที่ใช้ซิลิโคนน้อย สรุปง่าย ๆ ว่าวิธีนี้ทำแล้วจมูกจะแลดูเป็นธรรมดามากกว่า และส่งผลที่น่าพอใจนี้ไปได้ในระยะยาว ส่วนข้อเสียก็คือ การทำนั้นทำได้ยากกว่าใช้เวลานานกว่า ซึ่งคุณหมอที่จะทำต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ เท่านั้น คนไข้ต้องดมยาสลบก่อนเข้ารับการผ่าตัด จึงทำให้บางคนรู้สึกเป็นกังวล และต้องพักฟื้นนานกว่า”

จมูกแบบไหนที่ควรใช้การเสริมจมูกแบบเปิด
สิ่งแรกต้องมาปรึกษากับหมอก่อน ให้หมอได้ตรวจพิจารณาสรีระของจมูกทั้งภายนอก และภายใน ว่าแนวกระดูกอ่อนเรียงตัวอย่างไร ลักษณะจมูกโดยรวมเป็นอย่างไร ตรงนี้สำคัญคนไข้กับหมอต้องคุยกันให้เข้าใจกันตั้งแต่ต้นก่อน เพราะนิยามความสวยของจมูกที่คนไข้เข้าใจแต่เดิมนั้นเมื่อเทียบกับความเป็นจริงโดยทั่วไปแล้ว จะสวยดังที่คนไข้คิดไว้หรือไม่ คือให้หมอได้ประเมินคนไข้แบบคร่าว ๆ ก่อน ถึงจะบอกได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะใช้การเสริมจมูกแบบเปิดลักษณะส่วนใหญ่ที่หมอจะพิจารณาใช้วิธีการเสริมจมูกแบบเปิดก็คือ

1. เนื้อจมูกมีน้อย หรือ จมูกสั้น
2. กระดูกมีการคด เบี้ยว ผิดรูปเสียรูป
3. เป็นกรณีจากการผ่าตัดเสริมจมูกมาก่อนแล้วเกิดความผิดพลาด ต้องแก้ไขรูปทรงจมูกใหม่

มีอาการป่วยเรื้อรังสามารถเสริมจมูกได้ไหม
“อันนี้หมอจะดูเป็นราย ๆ ไป ถ้าบางคนเป็นมาก มีอาการไซนัสอักเสบถึงขั้นมีหนองอันนี้หมอก็ไม่แนะนำ แต่จริง ๆ แล้วทำได้ ถ้าเป็นไม่มาก แต่ไม่ว่าอย่างไรหมอก็ต้องคุยกับคนไข้ก่อน ว่าถ้าทำไปแล้ว เกิดผลเสียในภายหลังนี่ยังต้องการทำอีกไหม หมอก็ต้องคุยเป็นราย ๆ ไปในกรณีนี้”

คุณหมอฝากถึงคุณสาว ๆ ไว้ว่า หลังทำการเสริมจมูกไม่ว่าแบบไหนก็ตาม ช่วงแรกพยายามระวังการสัมผัสการกระทบกระแทกบริเวณจมูกให้มาก ๆ เพราะบางทีแผลและวัสดุที่เสริมอาจจะยังไม่เข้าที่ หากมีการสัมผัสหรือกระทบอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้ หากมีอาการจมูกบวมโตมีอาการเลือดคั่งต้องรีบกลับมาพบแพทย์โดยด่วน

นายแพทย์ธีรภัทร์ ใจประสาท
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงาม รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์