ปิดเมนู
หน้าแรก

รู้จัก “บิล เดชอดุลย์” เทรนเนอร์ดาวรุ่ง ผู้ปั้นหุ่นให้กับดาราเซเลบชายไทย

เปิดอ่าน 699 views

รู้จัก “บิล เดชอดุลย์” เทรนเนอร์ดาวรุ่ง ผู้ปั้นหุ่นให้กับดาราเซเลบชายไทย

รู้จัก “บิล เดชอดุลย์” เทรนเนอร์ดาวรุ่ง ผู้ปั้นหุ่นให้กับดาราเซเลบชายไทย

S! MEN

สนับสนุนเนื้อหา

วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “บิล เดชอดุลย์ ประกอบชาติ” เทรนเนอร์ดาวรุ่งในแวดวงฟิตเนสและการออกกำลังกาย เจ้าของตำแหน่งมิสเตอร์ไทยแลนด์ ปี 2014 (MR. Thailand 2014) และอดีตนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย ที่หันมาเอาดีในอาชีพโค้ชส่วนตัวให้กับเซเลบริตี้หุ่นล่ำแถวหน้าของเมืองไทยมากมาย ถ้าพูดชื่อมาคงต้องร้องอ๋อ อาทิ 3 หนุ่มหุ่นแซ่บอย่าง เต้ นันทศัย พิศัลยบุตร, เจจินตัย อันติมานนท์ และกำปั้น กวินพนธ์ พาณิชย์พงส์

 

Q: ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยว่าทำไมต้องเป็นกีฬาเพาะกาย?

A:  จุดเริ่มต้นจริงๆ คือสมัยเด็กๆ ผมเป็นตัวเล็ก ดูผอมบาง เก้งก้างมาก พอโตขึ้นเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วนะ เราต้องหาวิธีทำให้เราดูตัวใหญ่และแข็งแรงขึ้น พอดีไปเจอรุ่นพี่ที่รู้จักกันคนหนึ่งเขาเล่นกีฬาเพาะกายอยู่ก่อนแล้วจึงขอให้เขาช่วยสอนเราเล่นดูบ้าง จากนั้นก็ติดเลยครับ (หัวเราะ) ผมเริ่มซึมซับและหลงรักกีฬาเพาะกาย เพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นกีฬาชนิดเดียวที่ไม่ต้องมียูนิฟอร์ม เวลาเดินไปไหนมาไหนคนก็ทักด้วยบุคลิกและรูปร่างของเราเอง ช่วงแรกที่เริ่มเล่นมันหนัก โหดและเหนื่อยมาก จนเริ่มท้อเพราะไม่เห็นผลสักที แต่พอเริ่มชินและรับแรงกดดันได้แล้ว มันทำให้ผมเกิดแรงฮึดและพยายามท้าทายตัวเองว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหนด้วย

 Q: เรียกว่ารุ่นพี่คนนั้นเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจให้คุณเลยหรือเปล่า?

A: ใช่แล้วครับ คนนั้นก็คือ พี่หลุน (ภาณุพงศ์ ประทีป, เจ้าของตำแหน่ง MR. Thailand 2016) โค้ชของผมเองที่ช่วยจุดประกายความฝันและชักชวนให้ผมลองเล่นกีฬาเพาะกาย เรียกได้ว่าพี่หลุนเป็นต้นแบบแทบทุกอย่างในการเล่นเพาะกายของผมก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมีวินัย ความมุ่งมั่น ความศรัทธาในตัวเอง เทคนิคต่างๆ และการใช้ชีวิตส่วนตัว พี่หลุนเหมือนพี่ชายแท้ๆ ของผมเลยครับ

 

Q: ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าช่วงเล่นเพาะกายแรกๆ มันหนักและเหนื่อยมาก แล้วทำไมยังเล่นต่อมาเรื่อยๆ?

A: ผมเชื่อในความพยายามและอาศัยแรงฮึดของตัวเองเป็นแรงผลักดันครับ เพราะผมอยากมีบุคลิกภาพที่ดี ซึ่งแน่นอนเวลาที่รู้สึกท้อหรือเหนื่อยจนเริ่มทนไม่ไหว ผมจะเปิดยูทูปเพื่อดูคลิปการออกกำลังกายของคนที่หุ่นดี แล้วบอกกับตัวเองว่าถ้าเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ คุณจะลองเอาวิธีของผมไปใช้ก็ได้นะผมไม่หวง (หัวเราะ)

Q: ตามปกติคุณมีตารางการออกกำลังกายในแต่ละวันเลยหรือไม่ แล้วเล่นตามนั้นเป๊ะๆ เลยไหม?

A: ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ปกติผมจะออกกำลังกาย 4 – 5 วันต่อสัปดาห์ ด้วยการเล่น Weight Training โดยผมจะแบ่งกล้ามเนื้อออกเป็นส่วนๆ เพื่อเล่นในแต่ละวัน เช่น วันจันทร์เล่นกล้ามอก วันอังคารเล่นส่วนหลัง วันพฤหัสบดีเน้นช่วงไหล่ วันศุกร์เป็นส่วนขา ส่วนกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ เช่น แขน ท้อง น่อง ก็จะแทรกไว้ในโปรแกรมของในแต่ละวัน และพยายาม check list muscle ให้ครบทุกส่วนในหนึ่งสัปดาห์ แต่ถ้าช่วงที่มีการแข่งขันผมก็จะฟิตซ้อมให้มากขึ้นครับ

 

 Q: พูดถึงช่วงเตรียมการแข่งขันหน่อยว่าคุณต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

A: ทุกครั้งที่ลงทำการแข่งขันเพาะกาย ผมต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน และเน้นการดูแลเรื่องโภชนาการเป็นหลัก โดยผมจะค่อยๆ กดดันตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะเทรนตัวเองหนักจริงๆ ในช่วง 4 สัปดาห์สุดท้ายก่อนลงสนามแข่งขัน สิ่งสำคัญคือต้องคุมเรื่องน้ำหนักให้ผ่านตามเกณฑ์การแข่งขันที่กำหนดและต้องมีความชัดของกล้ามเนื้อด้วย นั่นทำให้ผมต้องเข้มแข็งทั้งทางร่ายการและจิตใจในการเตรียมความพร้อมของตัวเองอย่างมาก ผมมองว่าความตั้งใจ จิตใจที่มุ่งมั่น การต่อสู้กับความเหน็ดเหนื่อยเพื่อไล่ตามความฝัน และการเอาชนะใจตัวเองนั่นสำคัญที่สุดแล้ว

Q: สิ่งนี้หรือเปล่าที่ทำให้คุณได้รับการคัดเลือกจากช่อง KIX ให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยคนแรกของการแข่งขันที่แข่งกันด้วยความอึดอย่าง R U Tough Enough? Thailand ช่วยเล่าให้เราฟังถึงการแข่งครั้งนี้หน่อย

A: R U Tough Enough? Thailand เป็นการแข่งขันที่ต้องใช้ทั้งพละกำลัง สติและจิตใจของนักสู้อย่างแท้จริง เพราะผู้เข้าแข่งขันต้องมาประลองกันด้วยสิ่งที่คุณมีอยู่ ถือเป็นการแข่งขันเพื่อวัดกำลังกายและกำลังใจที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วมพิสูจน์ขีดจำกัดตัวเอง เพราะถ้าใครยอมแพ้คุณก็แค่ตกรอบ แต่ถ้าคุณลุกขึ้นสู้คุณก็มีสิทธิชนะ

การแข่งขันครั้งนี้คุณต้องแกร่ง อดทน และศรัทธาในตัวเองเป็นอย่างมาก เพื่อเอาชนะเป้าหมายคือการเป็นแชมป์สุดยอดคนพันธุ์อึดคนแรกของประเทศไทย และคว้าเงินรางวัล 100,000 บาทกลับไปครอง แต่กว่าจะได้มาคุณต้องผ่านด่านทดสอบในรอบสุดท้ายไปให้ได้ด้วยเวลาที่เร็วที่สุด และผมเชื่อมั่นว่าคนไทยเข้มแข็ง อดทน และเอาชนะอุปสรรคได้ทุกคนครับ

 

Q: ได้ยินคุณพูดถึงความแข็งแกร่งมาหลายครั้ง อะไรคือนิยามของคำนี้ในความคิดของคุณ?

A: ผมคิดว่าความแข็งแกร่งเกิดจากการฝึกฝนทั้งทางร่างกายและจิตใจควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ใช่แค่มีร่างกายที่พร้อมแล้วจะชนะได้เสมอไป คุณต้องมีจิตใจที่พร้อมสู้ด้วยถึงจะก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ สิ่งสำคัญคือต้องศรัทธาในตัวเองและให้กำลังใจตัวเองเป็น เพราะเมื่อใจสู้ร่างกายคุณก็จะสู้ไปด้วยกันจนถึงชัยชนะ

Q: ช่วยยกตัวอย่างมาสักหนึ่งเรื่องที่คุณมองว่าเป็นความแข็งแกร่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด?

A: ผมคิดว่าคนไทยเป็นคนที่อดทน และยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้แทบทุกครั้ง นั่นทำให้เรายังยิ้มได้แม้จะมีปัญหารุมเร้า ด้วยพื้นฐานของจิตใจที่ดีงาม และความรักกันของคนไทยที่แสดงออกให้เห็นยามที่เกิดปัญหา ทำให้เราร่วมมือช่วยเหลือกันในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราครับ

 

Q: สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงคนที่สนใจการแข่งขัน R U Tough Enough? หรือกำลังหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายบ้าง?

A: ผมอยากให้คุณมาลองทำอะไรที่คุณไม่เคยลองดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย สิ่งที่คุณต้องกังวลเพียงอย่างเดียวในการแข่งขันนี้คือตัวคุณเองเท่านั้น รวมทั้งเรื่องการออกกำลังกายด้วย ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวคุณ ถ้าคุณอยากชนะคุณก็ต้องเริ่มลงมือทำครับ

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : รู้จัก “บิล เดชอดุลย์” เทรนเนอร์ดาวรุ่ง ผู้ปั้นหุ่นให้กับดาราเซเลบชายไทย