เรื่องของหัวใจ ถ้าคิดว่าเข้าใจยากมันก็ยาก แต่ถ้าคิดว่าง่าย มันก็พอมีจุดสังเกตให้ได้สงสัยอยู่ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ว่าดูแลเอาใจใส่ที่ “พิเศษ” กว่าคนอื่น ๆ นี่แหละที่ทำให้คนสงสัยว้าวุ่นจนนอนไม่หลับได้ บทความนี้ Tonkit360 จะพาชวนจับไต๋พฤติกรรมคนใกล้ชิดว่าเขาหรือเธอคิดอะไรกับเราอยู่กันแน่ ดังนั้น ใครก็ตามที่กำลังสับสนหรือสงสัยว่าเขาหรือเธอมีใจให้อยู่หรือเปล่านะ? มาอ่านนี่ ถ้าคน 2 คนใจตรงกัน คิดเหมือนกัน จะได้เริ่มต้นความสัมพันธ์นี้เลย

หาโอกาสมาเจออยู่บ่อย ๆ

เป็นสัญาณแรก ๆ เลยล่ะที่เราจะสามารถจับไต๋ได้ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เวลาตกหลุมรักใครแล้วจะรู้สึกคิดถึงเขาอยู่เสมอ อยากจะเจอหน้า ถ้าไม่สะดวกจะเจอกันก็ยังพยายามหาทางรับรู้ข่าวสารจากฝั่งนั้น ได้ยินแค่เสียงก็ยังดี (ทำยังไงได้ล่ะ ก็คนมันคิดถึงอะเนอะ) ยิ่งถ้าเวลาเจอกัน เขาหรือเธอพยายามที่จะมีส่วนร่วมในทุกโมเมนต์กับเรา เช่น ขอให้กินข้าวด้วยกัน ขอไปเดินเล่นด้วยกัน มีอะไรติดไม้ติดมือมาเสมอ ก็เพราะเขาหรือเธออยากจะอยู่กับคุณนาน ๆ ไง มาขนาดนี้ถ้าไม่สงสัยก็ให้รู้ไป

แสดงออกชัดเจนว่าพยายามแอ๊บอยู่

อาการเขาหรือเธอมันฟ้องออกขนาดนั้น เพราะฉะนั้นจับอาการไม่ยากเลย เช่น เวลาเขาหรือเธอคุยกับเราอยู่ แต่เลี่ยงไม่สบตา พูดตะกุกตะกัก เสียงสั่นนิด ๆ (เพราะพยายามควบคุมอาการ) ลนลาน หน้าแดงหูแดง เม้มปาก หายใจแรง ก็ชัดเจนเลยว่าเขาหรือเธอกำลังซ่อนความเขิน แต่ถ้าเขาหรือเธอเป็นพวกจิตแข็งที่เก็บอาการเนียนได้โล่ ก็ต้องสังเกตอาการอื่น ๆ ด้วย เพราะถ้าเขาหรือเธอแอบชอบเราอยู่ล่ะก็ มันต้องมีภาษากาย หรือปฏิกิริยาหลายอย่าง ๆ แสดงออกมาไม่มากก็น้อย ทีนี้จะรู้หรือไม่รู้ ก็อยู่ที่เซนส์คุณละล่ะ

พยายามใกล้ชิด

วิธีการเข้าหาคนที่แอบชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนตรง ๆ ดับเครื่องชน บางคนแอ๊บเนียน ๆ ไปก่อน บางคนแทบไม่แสดงอาการอะไรเป็นพิเศษ ทำทุกอย่างปกติเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง แต่ถ้าอีกฝ่ายเผลอเมื่อไร สัญชาตญาณจะพาให้ขยับเข้าไปใกล้ ๆ พอเราหันไปก็จะตกใจว่า เอ๊ะ! ใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร หรือไม่ก็พยายามจะดูอาการเราว่าหวั่นไหวกับความใกล้ชิดนี้ไหม แต่ก็ต้องพิจารณาดูดี ๆ นะว่าการเข้าใกล้นี้เขาหรือเธอยังมีเส้นแบ่งอยู่หรือเปล่า คือใกล้แต่ไม่สัมผัส ไม่เช่นนั้นมันออกแนวโรคจิต หรือคุกคามทางเพศแล้ว

รับรู้ได้ผ่านสายตา

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ต่อให้เขาหรือเธอจิตแข็งแค่ไหน มันก็ต้องมีซักแว่บล่ะที่คุมตัวเองไม่อยู่ ซึ่งมันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก ๆ ก็ได้ อยู่ที่ว่าเราจะสังเกตเห็นแววตาหวั่นไหวของเขาหรือเธอไหม เขาจะแอบมอง คอยสังเกตเราอยู่ตลอดว่า เวลาเราต้องการอะไรก็จะรู้ทันทีเหมือนรออยู่ ซึ่งถ้าเราบังเอิญเห็นเข้า จะพบว่าเขาหรือเธอรีบหลบตาแล้วตีเนียนอย่างรวดเร็ว ถ้าสายตาคู่นั้นมีเสียง เราก็ได้ยินเสียงสายตาร้องเพลง “แอบมองเธอยู่นะจ๊ะ” ไม่ก็ “เห็นเงาในตาฉันไหม เห็นเธออยู่ในนั้นไหม” หากได้ยินเพลงนี้จากสายตาเขาหรือเธอ ก็ชัวร์เลย

มีคำพูดที่ส่งสัญญาณ

คำส่งสัญญาณสุดโหลของคนแอบชอบก็คือ “ฝันดีนะ” เพราะอย่างน้อย ๆ คือเขาหรือเธอจะรู้สึกว่าเป็นคนส่งเราเข้านอน แต่บางทีนั่นอาจเป็นแค่มารยาท ฉะนั้นต้องจับสัญญาณคำอื่น ๆ ด้วย เช่น ก็แค่คิดถึง ก็แค่อยากเจอ ขยันชม ขยันทำให้เราสบายใจเวลาที่ได้อยู่กับเขาหรือเธอ ขยันหยอก ขยันกวนให้เรางอน (จากนั้นก็ง้อ) คำพูดคำจา น้ำเสียงแบบที่มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าเราไม่ใช่คนธรรมดา เชื่อใจขนาดยอมเล่านู่นเล่านี่ให้ฟัง และมีคำพูดนัย ๆ เสมอว่าเราเป็นคน ๆ เดียวสำหรับเขาหรือเธอในทุกเรื่อง ชัดเจน!

ถ้าคุณอ่านยาวมาถึงตรงนี้โดยไม่ข้ามสักตัวอักษร ก็แสดงว่าคุณกำลังสงสัยพฤติกรรมเหล่านั้นอยู่เหมือนกัน ถ้ามีครบหมดนี่ จะลองเสี่ยงถามดูก็ได้ ทีนี้อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองอย่างไร หากใจตรงกันก็ไปต่อ แต่ถ้าเขาหรือเธอไม่ใช่ก็ปฏิเสธเขาไป เพราะเราแค่อยากให้คุณเข้าใจ ว่าถ้าสัญญาณมันแรงขนาดนี้ เขาหรือเธอมีใจให้คุณอยู่แน่นอน (เป่าหูแรง ๆ)