ปิดเมนู
หน้าแรก

ผักดิบ VS ผักสุก แบบไหนปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่ากัน?

เปิดอ่าน 47 views

ผักดิบ VS ผักสุก แบบไหนปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่ากัน?

แบ่งปันเกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพทั้งโรคภัยไข้เจ็บ วิธีออกกำลังกาย เคล็ดลับลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อยู่กินของอร่อยไปได้อีกนาน ๆ

ผักที่เราทานกันอยู่ทุกๆ วันมีหลากหลายชนิด บางชนิดก็เห็นแม่ค้าลวกผ่านน้ำร้อน หรือต้มสุกไปกับน้ำซุป บางชนิดแม่ค้าก็วางไว้ให้คีบทานกันสดๆ โดยเฉพาะผักสลัดส่วนใหญ่จะสด ไม่ผ่านความร้อน จริงๆ แล้วผักทุกชนิดไม่ได้ทานสดแล้วดีเสมอไป เช่นเดียวกับผักบางชนิดที่ควรทานสดถึงจะดีที่สุด

 

ผักที่ควรปรุงให้สุกก่อนทาน

  1. ถั่วงอก

เริ่มต้นกันที่ผักที่มีการทานทั้งดิบ และสดมากพอๆ กัน ถั่วงอกมีคุณค่าทางสารอาหารมาก เพราะมีทั้งโปรตีน วิตามินซี วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และเลซิติน แต่ทางที่ดีควรทานถั่วงอกสุก เพราะหากทานถั่วงอกดิบมากเกินไป อาจเข้าไปขัดขวางกระบวนการดูดซึมของสารอาหารบางชนิดได้

 

  1. กะหล่ำ

ผักตระกูลกะหล่ำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี หรือกะหล่ำดอก จะมีสารกอยโตรเจนที่เข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้ไอโอดีนถูกร่างกายดึงไปใช้ได้น้อยลง หากทานกะหล่ำดิบมากเกินไป อาจทำให้ท้องอืด เพราะอาหารไม่ย่อย ส่วนในระยะยาวอาจส่งผลให้เป็นสาเหตุของโรคคอพอกได้ นอกจากนี้ผักตระกูลกระหล่ำยังมีสารออกซาเลต ที่หากมีอยู่ในร่างกายปริมาณมาก มันจะไปจับกับแคลเซียมที่กรวยไต ทำให้เสี่ยงเป็นโรคนิ่วในไตได้ ดังนั้นนอกจากจะต้องทานกะหล่ำสุกแล้ว อาจจะต้องระมัดระวังไม่ทานมากเกินไปด้วย

 

  1. ถั่วฝักยาว

ถั่วฝักยาวก็เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่มีการทานดิบ และสุกใบปริมาณใกล้เคียงกัน ถั่วฝักยาวมีใยอาหารสูง และยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี โปรตีน และธาตุเหล็ก แต่หากทานถั่วฝักยาวดิบมากๆ อาจมีโทษต่อร่างกาย เพราะถั่วผักยาวดิบถือว่าเป็นผักที่มีวารตกค้างจากสารเคมีในยาฆ่าแมลงค่อนข้างมาก หากไม่ทำความสะอาดให้ดี หรือไม่ผ่านการปรุงสุกด้วยน้ำร้อนๆ อาจทำให้ร่างกายได้รับสารเคมีจากยาฆ่าแมลงได้ ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียได้ นอกจากนี้ถั่วฝักยาวดิบยังมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการย่อยเมล็ด และเปลือกของถั่วฝักยาวโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ หากทานมากเกินไปจึงอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน

 

  1. หน่อไม้

หน่อไม้มีใยอาหารสูง แต่กระทรวงสาธารณสุขเคยรายงานว่า ในหน่อไม้สดมีไซยาโนจินิกไกลโคไซด์ ซึ่งหากได้รับในปริมาณมากมันจะไปจับตัวกับฮีโมโกลบิน จนอาจส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย มึนงง หมดสติ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นทำให้หัวใจหยุดเต้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นหากอยากทานหน่อไม้ให้ปลอดภัยกับร่างกาย ต้องนำไปต้มในน้ำเดือดก่อนทาน หรือก่อนนำไปดอง

>> ผักดิบ ทานมากเกินไปก็อันตรายต่อร่างกาย 

 

ผักที่ควรทานดิบ ทานสดๆ

  1. หัวหอม

    เคยได้ยินว่า หัวหอมช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัดไหมคะ นอกจากกลิ่นฉุนๆ ของหัวหอมจะทำให้ลดอาการคัดจมูกแล้ว ยังเต็มไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งวิตามินบี วิตามินซี สารเคอร์ซีทิน โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ดังนั้นหากหัวหอมโดนความร้อนมากๆ วิตามินที่โดนทนความร้อนไม่ได้มากอย่างวิตามินซีก็จะหายไปหมด ดังนั้นหากเป็นไปได้ ควรฝานบางๆ แล้วทานทันที หรือผ่านความร้อนให้น้อยที่สุด

  2. พริกหวาน และพริกต่างๆ

    เช่นเดียวกับหัวหอม เพราะพริกเองก็มีวิตามินมากมายที่เมื่อเจอกับความร้อนก็จะหายไปเกือบหมด ดังนั้นถึงแม้ว่าการทานพริกปรุงสุกจะไม่ได้ก่อให้เกิดโทษอะไรกับร่างกาย แต่หากทานแบบสดๆ ดิบๆ จะได้รับคุณค่าทางสารอาหารอย่างเต็มที่มากกว่า

  3. บีทรูท

บีทรูทมีเบทานินสูง ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก และมะเร็ง นอกจากนี้บีทรูทยังมีโฟเลตสูง แต่การปรุงให้สุกด้วยความร้อน อาจทำให้โฟเลตหายไปจากบีทรูทมากถึง 25% ดังนั้นกานทานบีทรูทสดๆ จะทำให้ได้สารอาหารที่ดีต่อร่างกายมากกว่า

นอกจากผักเหล่านี้ ยังมีผักอีกหลายชนิดที่สามารถทานสดได้ เพียงแต่ต้องระมัดระวังสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช และล้างผักให้สะอาดเพื่อลดการติดเชื้ออีโคไลที่มากับมูลสัตว์จากปุ๋ย ที่อาจทำให้ดกอดอาการท้องร่วงได้

 

ข้อน่ารู้ : มะเขือเทศ สามารถทานได้ทั้งทานสด และปรุงสุก โดยทานแบบสดจะได้วิตามินซีสูง เหมาะกับผู้หญิงที่อยากทานเพื่อบำรุงผิว หรือเพื่อป้องกันโรคหวัด หากทานแบบปรุงสุกจะได้ไลโคปีน ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก จึงทำให้เหมาะกับคุณผู้ชายมากกว่า

>> มะเขือเทศสด VS น้ำมะเขือเทศกล่อง อันไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ผักดิบ VS ผักสุก แบบไหนปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่ากัน?