ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid)
เอสยูวีซูเปอร์คาร์รักษ์โลก

เมื่อเร็วๆนี้ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม “Porsche Cayenne S E-Hybrid Driving Experience 2015”  เชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะอย่างไร้ขีดจำกัดของ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด รถ Plug-in Hybrid คันแรกของโลกในคลาสรถสปอร์ตอเนกประสงค์ เอสยูวี  ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์

คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด โด่ดเด่น สะดุดตาด้วย เบรกคาลิปเปอร์คำว่า “Porsche” และเข็มหน้าปัดรถต่างๆ ที่มาพร้อมด้วยสีเขียว Acid ภายนอกได้รับการออกแบบที่ยังคงเส้นสายอันแข็งแกร่งแต่ที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ ไฟหน้า Bi-Xenon แบบ      Floating four-point LED daytime running lights ไฟท้ายแบบ 4 ชิ้นส่วน Four Part design ด้านข้างจะพบกับไฟเลี้ยวติดกระจกมองข้าง พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ด้านหลังมาพร้อมไฟท้าย LED สีเข้ม ส่วนภายในห้องโดยสารยังจัดเต็มความหรูหราและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบเครื่อง เปลี่ยนลุกเพิ่มความสปอร์ตเข้ามาตั้งแต่เบาะหนังและคอนโซลหุ้มหนัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อม Paddle Shift ดีไซน์เดียวกันกับรุ่น ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) มาตรวัดแบบวงกลม 5 วง พร้อมจอแสดงผลข้อมูล

ภายในงาน เอเอเอส ได้เตรียมสถานีทดสอบถึง 4 สถานีประกอบด้วย สถานี Accelerate พิสูจน์สมรรถนะการทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง, ต่อด้วยสถานี Coasting Function สัมผัสฟังก์ชันที่ช่วยในการประหยัดน้ำมันและพลังงาน , สถานี Braking ทดสอบประสิทธิภาพการเบรกของรถยนต์ปอร์เช่ พร้อมวิธีการเบรกที่ถูกต้อง และ สถานี Handling สมรรถนะของการทรงตัวและการควบคุมรถยนต์ปอร์เช่เพื่อการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ให้สมรรถนะการขับขี่ไม่แตกต่างซูเปอร์คาร์ชั้นเยี่ยม  เครื่องยนต์มาในรูปแบบ Parallel full hybrid พร้อมด้วยเทคโนโลยีแบบ Plug-in, Supercharged ขนาดเครื่องยนต์ 3 ลิตร V6 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า  ผลิตพละกำลังเครื่องยนต์โดยรวมสูงสุดที่ 416 แรงม้า (306 กิโลวัตต์); ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic S ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive;   แม้จะเป็นรถไฮบริด แต่ก็ให้อัตราเร่งแซงไม่แตกต่างจากซูเปอร์คาร์ทั่วไป อัตราเร่งจาก  0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 5.9 วินาทีเท่านั้น ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 243 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งความเร็วสูงสุดหากขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 125 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ความที่  ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด เป็นรถที่ใช้พลังงานจลน์ที่ไม่จำเป็น ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ เก็บไว้ใช้ยามจำเป็น ทำให้ผู้ขับขี่อย่างผมต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่โดยอัตโนมัติ จากที่เคยกดคันเร่งอย่างเดียว ก็เปลี่ยนมาเป็นกดคันเร่งอย่างนิ่มนวล เมื่อต้องชะลอความเร็ว ก็ค่อยๆถอนคันเร่งช้าๆ ค่อยๆกดแป้นเบรก เพื่อให้เครื่องยนต์มีการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เก็บไว้ ยิ่งใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนมากเท่าไร ก็ยิ่งประหยัดมากเท่านั้น โดยปอร์เช่เคลมว่า รถเอสยูวีหรูคันนี้   มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 29.4 กิโลเมตร/ลิตร และที่สำคัญอย่างยิ่ง มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 79 กรัม/กิโลเมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 18-36 กิโลเมตร

โดยภาพรวมแล้ว การทดลองขับปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด มีเวลาสัมผัสสมรรถนะค่อนข้างน้อยมาก สิ่งที่พอรู้สึกได้คือ เอสยูวีซูเปอร์คาร์คันนี้ แม้เป็นรถพลังไฮบริด แต่ก็ให้สมรรถนะดุดัน หรูหราเช่นเดิม พร้อมๆกันนี้ ยังช่วยลดการปล่อยไอเสีย ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงจากทั่วโลก   ส่วนราคาน่าสนใจมาก เพราะได้ส่วนลดจากภาษีสรรพสามิต  ทำให้จำหน่ายได้ในราคาแค่ 7.99 ล้านบาทเท่านั้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,027  วันที่  15 – 18  กุมถาพันธ์  พ.ศ. 255

ภาพจาก ASTV Online, Internet

sexy dessus