มะเร็งลำไส้ใหญ่ใหญ่เป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงญี่ปุ่นสูงเป็นอันดับ 1 โดยผู้หญิงญี่ปุ่น 13 คน จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ 1 คน หนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งมาจากอันตรายแอบแฝงจากอาหารและเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันที่มีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตส มารู้กันว่าทำไมน้ำตาลฟรุกโตสจึงเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และวิธีการป้องกันโรคมะเร็งชนิดนี้จากอาจารย์ทาคาฮิโกะ นาคากะวะ (Takahiko Nakagawa) อาจารย์จากวิทยาศาสตร์การแพทย์มหาวิทยาลัยชิกะ (Shiga University of Medical Science) ผู้ศึกษาวิจัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างน้ำตาลฟรุกโตสและสุขภาพกัน

ทำไมน้ำตาลฟรุกโตสจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

นอกจากมีข้อมูลรายงานว่าน้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานให้แก่เซลล์มะเร็งแล้ว ก็ยังมีงานวิจัยที่รายงานว่าน้ำตาลฟรุกโตสเป็นอาหารที่สำคัญของเซลล์มะเร็งที่ดีกว่ากลูโคส โดยจากการศึกษาในหนูพบว่าเมื่อหนูรับน้ำตาลฟรุกโตสเข้าสู่ร่างกาย น้ำตาลฟรุกโตสจะถูกเปลี่ยนเป็นสารที่จำเป็นสำหรับการเจริญของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะเซลล์มะเร็งในลำไส้ใหญ่จะใช้สารอาหารจากน้ำตาลฟรุกโตสได้ดีจนก่อให้เกิดก้อนมะเร็งและเติบโตพัฒนาเป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่ขึ้นมา อีกทั้งยังมีงานวิจัยว่าการรับประทานน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณที่มากเกินไปยังก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับอ่อน ปอด และเม็ดเลือดได้ด้วย นอกจากนี้การรับประทานน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณที่มากเกินไปก็ยังก่อให้เกิดการสะสมของไตรกลีเซอไรด์ในเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอ้วนและโรคหลอดเลือดหัวใจด้วย

อันตรายแฝงของน้ำตาลฟรุกโตสในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น

น้ำตาลฟรุกโตสเป็นน้ำตาลที่มีความหวานมากกว่ากลูโคสถึงสองเท่า มีราคาถูก ไม่ตกผลึก และไม่ก่อให้เกิดการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมหวานจึงนิยมใช้น้ำตาลฟรุกโตสเป็นสารให้ความหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คิดว่าดีต่อสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มวิตามินและเกลือแร่หลากหลายชนิด เครื่องดื่มบำรุงกำลัง โคล่า ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ ขนมและของว่างต่างๆ แกงกะหรี่สำเร็จรูป ซอสมะเขือเทศ น้ำสลัด ผลไม้แห้งต่างๆ รวมถึงผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น กล้วย มะม่วง ลูกแพร์ แตงโม องุ่น และแอปเปิ้ล เป็นต้น ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่าดีต่อสุขภาพจึงนำมาดื่มและรับประทานเป็นประจำ แต่การดื่มหรือรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปก็จะกลายเป็นอันตรายแฝงที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

วิธีการดื่มและรับประทานอาหารที่มีฟรุกโตสในระดับที่ปลอดภัยต่อร่างกาย

• เลือกผลิตภัณฑ์สารให้ความหวานที่มีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสต่ำ
• แบ่งดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตสทีละน้อย ไม่ดื่มจนหมดขวดเลยทีเดียว
• รับประทานผลไม้ที่มีรสหวานเพื่อรับวิตามิน แร่ธาตุและเส้นใยอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ และหลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป

หลังจากอ่านบทความผู้อ่านคงถอนหายใจและคิดว่ายิ่งรู้ยิ่งอยู่ยากจริงๆ แม้แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายก็อาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงได้ เอาเป็นว่ารู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามค่ะ หากเราชอบก็รับประทานได้ตามปกติ แต่ต้องไม่รับประทานในปริมาณที่มากและซ้ำๆ พยายามรับประทานอาหารให้หลากหลายชนิด รวมถึงรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารมาก ก็จะช่วยป้องกันเราจากโรคมะเร็งลำไส้ได้