1. ค่ากาแฟ 

การซื้อกาแฟกลายเป็นอีกหนึ่งรายจ่ายอันดับต้นๆ สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศแทบทุกคน ลองคิดดูว่าคุณจ่ายเงินไปกับกาแฟเดือนละเท่าไหร่ คุณอาจจะตกใจกับตัวเลขโดยรวมของค่ากาแฟในแต่ละเดือน นอกจากจะไม่ส่งผลดีกับกระเป๋าสตางค์ของคุณแล้ว ผลข้างเคียงของกาแฟยังส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณอีกด้วย เช่น ทำให้นอนไม่หลับ เกิดความดันโลหิตสูง และอาจเป็นโรคอ้วนจากน้ำตาลจำนวนมากในกาแฟแบบเย็นหรือแบบปั่น อย่างไรก็ตามถ้าคุณเลิกดื่มกาแฟไม่ได้จริงๆ ให้เลือกร้านกาแฟที่มีราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไปเพียงเพราะค่าการตลาด

2. ค่าโทรศัพท์

ถ้าคุณต้องเสียค่าอินเทอร์เน็ตรายเดือนอยู่แล้ว การใช้แอปพลิเคชั่นในมือถือ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำหรับการสนทนาหรือโทรแบบออนไลน์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการประหยัดค่าโทรศัพท์ หรือถ้ามีความจำเป็นก็ควรเลือกโปรโมชั่นที่ตรงกับรูปแบบการใช้งานของคุณและคุ้มค่าเงินมากที่สุด

3. ค่าน้ำ-ค่าไฟ

ตัวคุณเองสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายประเภทนี้เพียงแค่ใส่ใจให้มากขึ้น เช่น การปิดก๊อกน้ำให้สนิทหลังใช้ การไม่ลืมปิดไฟหรือเสียบปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าทิ้งไว้ หรือการหมั่นตรวจสอบสภาพและซ่อมบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบท่อประปาเป็นประจำ ถ้าคุณรู้จักแต่ใช้อย่างเดียวแต่ไม่รู้จักวิธีการบำรุงรักษา คุณอาจต้องจ่ายเงินค่าไฟมากกว่าปกติ เช่น การไม่ทำความสะอาดตัวกรองเครื่องปรับอากาศอาจทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากขึ้น หรือการปล่อยให้ท่อประปามีรอยรั่วซึมโดยไม่ซ่อมแซม จะทำให้คุณต้องจ่ายค่าน้ำแพงขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัว

4. ค่าเดินทาง

การเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟฟ้า ที่แม้จะไม่สะดวกสบาย เท่ารถยนต์ส่วนตัว หรือการนั่งแท็กซี่ แต่การเดินทางด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณประหยัดกว่าและไม่ต้อง อารมณ์เสียกับการขับรถในวันที่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัด หรือถ้าคุณต้องพึ่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ (ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยแพงกว่าการเดินทางประเภทอื่น) บ่อยๆเพื่อรีบไปให้ทันเวลาเข้างานในตอนเช้า ลองปรับตารางชีวิตของคุณให้ตื่นเช้าขึ้น นอกจากจะไม่ต้องเร่งรีบแข่งกับคนอื่นๆในการมาทำงานแล้ว คุณยังสามารถเลือกใช้การเดินทางอื่นๆที่เสียเงินน้อยกว่าได้ ส่วนในกรณีที่ที่พักกับที่ทำงานอยู่ไกลกัน คุณอาจพิจารณาว่าการหาที่อยู่ใหม่ใกล้กับที่ทำงาน หรือการเสียทั้งเวลาในการเดินทาง และ เงินค่ารถหรือค่าน้ำมัน(สำหรับคนที่มีรถส่วนตัว) อย่างไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน

5. ค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมนอกบ้าน

ยิ่งคุณออกนอกบ้านบ่อยเท่าไหร่ คุณยิ่งต้องจ่ายเงินมากเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดินเนอร์สุดหรู ค่าป๊อปคอร์นในโรงหนังราคาแพง หรือการซื้อเสื้อผ้าหรือสินค้าฟุ่มเฟือยล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริหารเงินรายเดือนของคุณทั้งสิ้น ในทางตรงกันข้ามการทำอาหารรับประทานเอง การดูหนังที่บ้าน และการมิกซ์แอนด์แมตช์นำเสื้อผ้าที่มีอยู่เดิมมาใส่ในแบบที่ไม่ซ้ำจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในแต่ละเดือนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

6. ค่าสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน

การวางแผนซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมๆ กันในคราวเดียวจะทำให้คุณประหยัดมากกว่าการไปซื้อสินค้าทีละชิ้น เพราะนอกจากสินค้าแพ็กรวมในราคาขายส่งจะมีราคาถูกกว่าราคาแยกชิ้นแล้ว การวางแผนจดรายชื่อสินค้าที่คุณต้องการจะซื้อทุกครั้ง และการซื้อของเฉพาะที่คุณตั้งใจไว้ จะทำให้คุณไม่ใช้จ่ายเกินงบประมาณและไม่ตกเป็นเหยื่อของโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมจากการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น

7. ค่าติดตั้งสัญญาณช่องโทรทัศน์ที่ไม่จำเป็น

หากคุณต้องการรับชมเพียงแค่รายการกีฬาบางชนิด หรือซีรีย์เกาหลีแค่บางเรื่อง การต้องเสียค่าบริการแบบเหมารวมไปกับรายการอื่นๆที่คุณไม่อยากดูคงเป็นเรื่องไม่คุ้มค่า คิดให้ดีก่อนตัดสินใจใช้บริการเคเบิลทีวี เพราะคุณอาจต้องทำสัญญาผูกมัดล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งปี ซึ่งนั่นก็เป็นเงินไม่น้อย หรือถ้าคุณติดเคเบิลทีวีอยู่แล้วแต่ไม่มีเวลาดู การพิจารณายกเลิกโดยต้องเสียค่าปรับเล็กน้อยก็อาจจะประหยัดกว่าการต้องคอยจ่ายค่าบริการในทุกๆเดือนก็เป็นได้

credit: สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub