ครั้งหนึ่ง Mathilde Broberg สาวน้อยจากเมือง Aarhus ประเทศเดนมาร์ก เคยถูกจัด อยู่ในกลุ่มคนอ้วนเกินพิกัดด้วยน้ำหนักตัวกว่า 120 กิโลกรัม แต่มาวันนี้ เธอกลายเป็น เทรนเนอร์ออกกำลังกายและนางแบบชุดกีฬาหลังทำให้น้ำหนักตัวหายไปครึ่งหนึ่ง

Broberg ซึ่งตอนนี้อายุ 22 ปี เล่าถึงประสบการณ์ที่เจ็บปวดและน่าอายของตัวเองที่ อ้วนตั้งแต่จำความได้ จนเธอกลัวการออกไปเข้าสังคมหรือแม้กระทั่งออกไปเล่นที่สวน กับเพื่อน และสิ่งที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายให้เธอเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจังก็คือ ภาพถ่ายการแสดงงานโรงเรียนซึ่ง Broberg บอกว่าทันทีที่เห็นภาพนั้น เธอก็สาบาน กับตัวเองว่าจะไม่ยอมเข้ามหาวิทยาลัยในสภาพแบบนั้นเด็ดขาด

แต่มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่ชินกับการกินช็อกโกแลตกับขนมปังทาเนยเป็นอาหารเช้า แซนวิชชีสชิ้นโตกับสลัดผักราดเดรสซิ่งน้ำข้นเป็นอาหารกลางวัน และสปาเก็ตตี้ โบโลญญ่าเพิ่มชีสกับนมในมื้อเย็น แถมระหว่างวันยังมีมันฝรั่งทอด ช็อกโกแลต แล้วก็เค้ก รวมๆ แล้วเธอกินวันละประมาณ 3,500 แคลอรีทีเดียว!!

Broberg กินเค้กของโปรดชิ้นสุดท้ายเมื่อปี 2555 ก่อนจะเริ่มปฏิวัติการกินใหม่ทั้งหมด ตอนนั้นเธออายุ 16 หนัก 268 ปอนด์หรือประมาณ 120 กก. เธอหันหลังให้กับขนมขบเคี้ยว ช็อกโกแลต หันมาทานผัก ผลไม้มากขึ้น และที่สำคัญ เธอใช้วิธี “teaspoon diet ” หรือการใช้ช้อนชาตักอาหารทาน รวมถึงออกกำลังกายสัปดาห์ละ 6 ครั้ง

4 ปีผ่านไปด้วยความมุ่งมั่น Broberg ลดน้ำหนักได้กว่า 60 กก. เหลือ 138 ปอนด์หรือ ประมาณ 62 กก. แม้จะได้ผลเกินคาด แต่ด้วยความสูง 176 ซม. ทำให้เธอดูผอมเกินไป เธอจึงหันมาปรับการกินและการออกกำลังกายอีกครั้ง และตอนนี้เธอก็พอใจรูปร่างของ ตัวเองกับน้ำหนักตัว 68 กก.

Broberg ซึ่งตอนนี้เป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกายส่วนตัวและนางแบบชุดกีฬา เปิดเผย เรื่องราวของตัวเองผ่านอินสตราแกรม พร้อมกับให้กำลังใจคนที่อยากลดน้ำหนักว่า “ถ้าฉันทำได้ คุณก็ทำได้! ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าคุณอยากให้มันเป็น อย่าหยุดเชื่อมั่น ในตัวเอง อย่าเสียเวลารอคอยว่าเมื่อไหร่เวลาแห่งการลดน้ำหนักจะมาถึง เพราะมัน ไม่มีเวลาแบบนั้น ถ้าอยากลด ก็ทำเลย ไม่ต้องรอ!”