ตำแหน่งเกียร์ออโต้แปลกๆ อย่าง 2, 1 และ L มีไว้ทำอะไร?
ตำแหน่งเกียร์ออโต้แปลกๆ อย่าง 2, 1 และ L มีไว้ทำอะไร? คนใช้รถเกียร์อัตโนมัติจะทราบถึงการทำงานที่แตกต่างกันระหว่างเกียร์ P, R, N และ D
รถยนต์สมัยใหม่ถูกติดตั้งเทคโนโลยีมากมายเพื่อให้ประหยัดน้ำมันขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่มีความจุลดลงแล้วพ่วงเทอร์โบเข้าไป หรือระบบควบคุมลิ้นปีกผีเสื้อที่ช่วยให้ขับรถได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น แต่หากผู้ขับขี่ยังคงใจร้อน ขับรถเร็ว ก็ยากที่รถของคุณจะประหยัดน้ำมันได้
จริงอยู่ที่การสลับเกียร์ระหว่าง D และ N บ่อยๆ จะทำให้เกียร์เกิดความสึกหรอมากขึ้น แต่ให้ลองประเมินดูว่าถ้าต้องหยุดรถนานกว่า 1 นาทีขึ้นไป ก็สลับมาเกียร์ N ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมันลงได้ราว 20-30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
รถคันไหนที่ติดตั้งระบบ Start/Stop ที่ช่วยดับเครื่องยนต์ให้อัตโนมัติขณะเหยียบเบรกค้างไว้ ถ้าสภาพการจราจรเอื้ออำนวยพอก็เปิดใช้งานไปเถอะครับ ช่วยประหยัดน้ำมันขึ้นแน่นอน แต่หากจังหวะที่ต้องเคลื่อนที่สลับหยุดนิ่งบ่อยๆ หรือกำลังหาที่จอดรถ การปิดระบบไว้ก็จะช่วยยืดอายุไดสตาร์ทได้เหมือนกัน
คนส่วนใหญ่จะใช้วิธีเลี้ยงความเร็วมาเรื่อยๆ แล้วกดเบรกเพื่อให้รถหยุดต่อท้ายคันหน้าพอดี คราวนี้ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีปล่อยคันเร่งเพื่อให้รถไหลเข้าไฟแดงดูบ้าง ก็จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะอย่างไรก็ต้องไปจอดติดไฟแดงกับเขาอยู่แล้ว หากปล่อยคันเร่งเพื่อตัดการจ่ายน้ำมันให้เร็วขึ้น ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันขึ้นได้
หากถนนเส้นไหนที่รถวิ่งไม่เร็วนัก ให้ลองออกตัวช้าๆดูบ้าง โดยประคองไม่ให้รอบเครื่องยนต์เกิน 2,500 รอบต่อนาที ก็จะช่วยลดการจ่ายน้ำมันได้ เพราะจังหวะออกตัวจากจุดหยุดนิ่งเป็นช่วงที่รถกินน้ำมันมากที่สุด
หากสามารถใช้ความเร็วได้ ควรเลี้ยงความเร็วให้อยู่ในระดับที่พอดีเสมอ ไม่เร่งหรือชะลอโดยไม่จำเป็น ก็จะช่วยลดการบริโภคน้ำมันลงได้เช่นกัน
ลองมาเริ่มต้นเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่เสียแต่วันนี้ ฝึกให้กลายเป็นนิสัย รับรองว่าจ่ายค่าน้ำมันถูกลงกว่าเดิมแน่นอนครับ
credit: Auto.sanook.com
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 5 เทคนิคเด็ดขับ ‘เกียร์ออโต้’ ในเมืองให้ประหยัด
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น