ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ประเทศที่มีอิทธิพลกับเราในหลากหลายด้านเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ ประเทศจีน เนื่องจากในอดีตได้มีประชาชนชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่ได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากอยู่ในประเทศไทย จึงทำให้วัฒนธรรมประเพณีของเรามีความเป็นจีนผสมผสานอยู่ด้วยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสไตล์อาคารสิ่งก่อสร้าง อาหารเครื่องดื่ม แฟชั่นการแต่งกาย ฮวงจุ้ย รวมทั้งเรื่องของมงคล พิธีกรรมและความเชื่อค่ะ แน่นอนว่าพอพูดถึงเรื่องความเชื่อแล้ว สายมู (เตลู) ทั้งหลาย ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลยจ้า

ปลา มั่งคั่ง ร่ำรวย

ปลา ในภาษาจีนคือ “หยู” ซึ่งพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่าความอุดมสมบูรณ์ และปลายังถือเป็นสัตว์มงคล เป็นสัญลักษณ์แทนความมั่งคั่งของชาวจีนอีกด้วย โดยชาวจีนมักนิยมเลี้ยงปลาเงิน ปลาทอง ปลาคาร์ฟ และปลามังกร ซึ่งแต่ละชนิดก็จะเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. ปลาเงิน ปลาทอง เป็นสัญลักษณ์ของการมีเงินทองมากมายล้นหลาม เงินทองไหลมาเทมา ธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรือง
2. ปลาคาร์ฟ เป็นสัญลักษณ์ของผลประโยชน์หรือผลกำไรจากการทำธุรกิจ ซึ่งเคล็ดลับเสริมฮวงจุ้ยของการเลี้ยงปลาคาร์ฟคือ ต้องเลี้ยง 9 ตัว หรือหากใครไม่สะดวกเลี้ยงปลาคาร์ฟ ก็สามารถใช้เป็นรูปภาพปลาคาร์ฟ 9 ตัว มาแขวนประดับไว้ที่บ้านก็ได้นะคะ
3. ปลามังกร เป็นสัญลักษณ์แทนเรื่องโชคลาภ ความก้าวหน้า และช่วยเสริมดวง เสริมบารมี

จุดประทัดให้ดังในวันตรุษจีน

ในสมัยโบราณของประเทศจีนเคยมีเรื่องเล่ากันมาว่า “เหนียน” เป็นปีศาจที่มีความดุร้าย อาศัยอยู่ในทะเลลึก ทุกๆ วันสิ้นปีจะขึ้นฝั่งมาทำร้ายผู้คนและสัตว์เลี้ยง ดังนั้นเมื่อถึงวันสิ้นปี ชาวบ้านทุกคนก็จะพากันหนีไปหลบซ่อนตัวตามที่ต่างๆ แต่มีอยู่ปีหนึ่ง ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการหลบหนีและซ่อนตัวจากเหนียงกันนั้น ได้มีชายแก่ขอทานคนหนึ่งที่มาจากต่างถิ่นพยายามเข้ามาขออาหารจากชาวบ้าน แต่ไม่มีใครคนไหนสนใจเขาเลย ทุกคนต่างก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการหลบซ่อนกัน แต่อยู่ๆ ได้มีหญิงชราใจดีคนหนึ่งที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือให้อาหารและที่หลบซ่อนแก่เขา เขาจึงสัญญาว่าเขาจะขับไล่ปีศาจเหนียนให้ เมื่อถึงเที่ยงคืนเหนียนได้ตรงดิ่งมายังหมู่บ้าน แต่อยู่ๆ ก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อเห็นกระดาษสีแดงที่ติดอยู่ตามประตูบ้าน ซึ่งทำให้เหนียนกลัวจนตัวสั่น มากไปกว่านั้นเมื่อมีเสียงประทัดดังขึ้นมา ยิ่งทำให้เหนียนกลัวหนักมากกว่าเดิม จนสั่นไปทั้งร่างและส่งเสียงร้องออกมา จากนั้นก็ได้วิ่งหนีไปเลย

ต่อมาเมื่อผู้คนทราบว่าเหนียนกลัวสีแดงและเสียงดังของประทัด ก็ต่างพากันดีใจและเฉลิมฉลองกัน จากนั้นก็ได้เริ่มปฏิบัติกันมาจนกลายเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวจีน อย่างไรก็ตามมีความเชื่อว่าการไล่เหนียนไปได้นั้นจะช่วยขจัดโรคภัยไข้เจ็บได้ และการจุดประทัดก็เปรียบได้กับการเรียกโชคลาภ หรือเป็นการจุดเพื่อให้เทพเจ้าได้ยิน ท่านจะได้มาช่วยปกป้องคุ้มครองมนุษย์

กลอนคู่ เครื่องรางป้องกันวิญญาณร้าย

หากลองสังเกตกันดูเราจะเห็นว่าคนจีนจะมีเอกลักษณ์ในการตกแต่งบ้าน และที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดจะเป็น การแขวนกลอนคู่ไว้ที่หน้าประตู เพราะมีความเชื่อว่าการแขวนกลอนคู่ไว้ที่หน้าประตูบ้านจะสามารถขับไล่เหนียนออกไปได้ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อกันว่ากลอนคู่เป็นสัญลักษณ์ของเทพพิทักษ์สององค์ที่ถูกเง็กเซียนฮ่องเต้สั่งให้ลงมาเฝ้าต้นท้อและคอยจัดการปราบเหล่าปีศาจร้ายด้วยการจับไปให้เสือกิน จึงทำให้บรรดาปีศาจต่างพากันกลัวเทพสองค์นี้มากๆ

ทั้งนี้ เมื่อเวลาผ่านไป ยุคสมัยเปลี่ยน รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใน ทำให้บางคนที่ไม่สะดวกใช้กลอนคู่ ได้หันมาใช้แผ่นป้ายที่เขียนสัญลักษณ์ / รูปภาพที่มีสัญลักษณ์ขององค์เทพทั้งสองมาแขวนหรือแปะไว้ที่หน้าบ้าน เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าบ้านหลังนี้มีเทพปกป้องดูแลอยู่ ปีศาจและสิ่งชั่วร้ายจะไม่สามารถเข้ามาได้นั่นเอง

ปลูกต้นไผ่ไว้ในบ้าน

ต้นไผ่เป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามเหนือธรรมชาติ และยังเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับคนจีนมาอย่างยาวนาน มีความเชื่อกันว่าหากปลูกไว้ในบ้านจะเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่อยู่อาศัย ทำให้มีสติปัญญา มีคุณธรรมและความซื่อสัตย์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำสิ่งต่างๆ มีความโอบอ้อมอารี กตัญญูรู้คุณ และมีความแข็งแกร่งดุจดั่งลำต้นของไผ่ที่มีความเหยียดตรงและแข็งแรง สามารถต้านทานแรงจากลมพายุหรือฝนได้ นอกจากนี้ในลัทธิเต๋า ต้นไผ่ยังถูกนำมาใช้เพื่อเปรียบเปรยในการสอนให้ผู้คนเข้าใจถึงแก่นหลักของศาสนาอีกด้วย

ต่อมามีการนำต้นไผ่มาใช้ทำเป็นเครื่องรางในการขับไล่สิ่งเลวร้ายหรือสิ่งไม่ดีต่างๆ ซึ่งจำนวนก้านของต้นไผ่ก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป แต่จะมีข้อห้ามคือห้ามใช้ต้นไผ่ 4 ก้าน มาทำเครื่องราง เพราะในภาษาจีนจะมีเสียงพ้องใกล้เคียงกับคำที่มีความหมายว่าความตาย อย่างไรก็ตามหากใครที่ไม่สะดวกปลูกต้นไผ่ไว้ที่บ้านหรือพกเครื่องรางติดตัว สามารถใช้เป็นรูปภาพหรือภาพวาดต้นไผ่มาแขวนประดับไว้แทนก็จะช่วยเสริมดวงและความเป็นสิริมงคลได้เช่นกันค่ะ

สัญลักษณ์  “อู่ฝู”

เป็นสัญลักษณ์แทนความร่ำรวย ความสุข หรือบุญวาสนา 5 ประการ ซึ่งประกอบไปด้วย

1. ร่ำรวยอายุ อายุมั่นขวัญยืน อายุยืนยาว
2. ร่ำรวยเงินทอง เพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์ มั่งมีศรีสุข มั่งคั่งร่ำรวย
3. ความไม่มีโรคทางกาย มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
4. ความไม่มีโรคทางใจ อยู่เย็นเป็นสุข จิตใจสงบ ไม่มีเรื่องราวใดๆ เข้ามาทำให้จิตใจสับสนวุ่นวายเป็นทุกข์
5. ละสังขารด้วยความสงบ จากโลกนี้ไปด้วยอาการสงบและเป็นสุข

โดยอู่ฝูสามารถหาซื้อได้ทั่วไปไม่ยากตามวัดหรือศาลเจ้าจีน จะซื้อมาสวมใส่เป็นเครื่องรางหรือเครื่องประดับก็ได้ เช่น กำไลข้อมือ จี้สร้อยคอ หรือพวงกุญแจ อย่างไรก็ตามหากใครที่ไม่อยากดูเป็นสายมูเตลู ดูงมงาย หรือพกเครื่องรางติดตัว แนะนำให้หาเป็นรูปวาดนำมาไว้ที่บ้านก็ไม่แย่นะคะ นอกจากจะดูดี มีความสวยงามแล้ว ยังจะช่วยให้ชีวิตเรามีแต่ความสุขความเจริญด้วยนะคะ