สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปเผยว่ารถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมจากชาวยุโรปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รถดีเซลกลับมียอดขายตกลงถึง 17 เปอร์เซ็นต์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2018 ที่ผ่านมา

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (European Automobile Manufacturers’ Association) ระบุว่าความนิยมของรถดีเซลในตลาดยุโรปกำลังถดถอยลงเรื่อยๆ โดยช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2018 ที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรถดีเซลลดลงถึงกว่าร้อยละ 17 หรือคิดเป็นตัวเลข 322,622 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในทางกลับกันรถยนต์เบนซินกลับมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14.6 ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากจากชาวยุโรปเช่นกัน โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicles) มียอดจำหน่ายในยุโรปอยู่ที่ 32,566 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่รถปลั๊กอินไฮบริดมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.2 ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุด มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 37,332 คัน ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน

นอกจากนี้ รถยนต์พลังงานทางเลือก NGV, LPG และ E85 มีแนวโน้มที่สดใสด้วยเช่นกัน โดยมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12 ซึ่งตลาดใหญ่ของรถประเภทนี้ยังคงเป็นอิตาลีที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในยุโรป