ปิดเมนู
หน้าแรก

EAT CLEAN! อาหารคลีนคืออะไร และทำไมจึงกลายเป็น Blooming Business

เปิดอ่าน 970 views

EAT CLEAN! อาหารคลีนคืออะไร และทำไมจึงกลายเป็น Blooming Business

EAT CLEAN กินเปลี่ยนร่าง© MIKE BLAKE/Newscom/Reuters EAT CLEAN กินเปลี่ยนร่าง

ในกรณีนี้ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่า “เอวหนา” แล้วไม่สวย แต่เพราะ “เอวย้วย” อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ การหันมาดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ จึงน่าจะเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ ของคนในยุคดิจิทัล

แน่นอนว่า หลักใหญ่ใจความของการเป็นคนสุขภาพดีล้วนมีอาหารเข้ามาเกี่ยวข้องเกินกว่าครึ่ง หลายๆ คนจึงพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และ “อาหารคลีน” ก็กำลังทำให้คนรักสุขภาพ “ฟิน” อย่างถึงที่สุด ถึงขนาดจุดประกายให้เกิดธุรกิจ “อาหารคลีนเดลิเวอรี่” ที่มีมากกว่า 20 ร้านภายในเวลาไม่กี่เดือน

อาหารคลีนคืออะไร และทำไมจึงกลายเป็น Blooming Business ได้ ไปทำความรู้จักกัน ทำไมต้องคลีน

อาหารคลีน (Clean Food) เป็นที่นิยมในต่างประเทศมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1990 แต่คนไทยเพิ่งรู้จักอาหารสะอาดที่ว่านี้ได้เพียง 2-3 ปีเศษ ซึ่งถ้าจะอธิบายง่ายๆ สั้นๆ ก็ต้องบอกว่า อาหารคลีนคืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด

อ.สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และผู้จัดการโครงการโภชนาการสมวัย สำนักงานกองทุนสับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เคยให้ข้อมูลไว้ใน www.thaihealth.or.th ว่า คลีนฟู้ด มีความหมายอยู่ 2 นัยยะ คือ อาหารที่ไม่ปนเปื้อน (ในกรณีนี้หมายถึงไม่ปนเปื้อนเชื้อโรค ไม่ปนเปื้อจากพยาธิ และไม่ปนเปื้อนจากสารเคมี) และอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ

“การตั้งคำถามว่าเราจะกินอาหารอย่างไรให้ครบ 5 หมู่ และต้องกินให้ได้สัดส่วน ปริมาณที่เพียงพอ ไม่มากน้อยจนเกินไป รวมถึงมีความหลากหลาย เลี่ยงอาหารหวานจัด เค็มจัด มันจัด สุดท้ายกินผักผลไม้ให้มาก ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงคือ การกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการในแบบที่ตรงกับคำว่า คลีนฟู้ด เพราะฉะนั้นคำว่าคลีนฟู้ดก็คือคำว่า อาหารปลอดภัย ไม่ปนเปื้อน อาหารถูกหลักโภชนาการนั่นเอง”

หากลองทำความเข้าใจตามที่ อ.สง่า บอก จะพบว่า อาหารคลีน ก็คืออาหารสะอาดจากธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง แต่สามารถปรุงสุกได้โดยใช้วิธีการต้ม นึ่ง ย่าง ลดการปรุงรส และเลือกพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ เช่น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจากข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต เผือก มัน ส่วนโปรตีนจากไข่ ปลา ไก่ งดอาหารแปรรูปทั้งหลาย สำหรับไขมันก็ต้องเลือกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ทางที่ดีคือเน้นบริโภคไขมันให้น้อยที่สุด ซึ่งการรับประทานแบบนี้จะส่งผลต่อการมีสุขภาพที่ดีในอนาคต

เพราะไม่ใช่หลักการกินที่ซับซ้อนมากมาย แค่เปลี่ยนรูปแบบของการปรุงให้สะอาดและปลอดภัยมากขึ้น อาหารคลีนจึงได้รับความนิยมเรื่อยมา ซึ่งเมื่อรับประทานควบคู่ไปพร้อมกับการออกกำลังกาย จึงจะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพอีกเท่าทวีคูณ

สาวร่างเล็กอย่าง หล่าน – อมรรัตน์ ธรรมบูรณวิทย์ Media Supervisor บริษัท อินเด็กซ์ คลีเอทีฟ วิลเลจ บอกว่า ก่อนหน้านี้เธอออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพเท่าที่ควร เพราะยังรับประทานอาหารตามใจปาก กระทั่งวันหนึ่งได้รับคำแนะนำจากเพื่อนที่เป็นแพทย์ถึงหลักการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง หล่านจึงรู้จักอาหารคลีนตั้งแต่วันนั้น

“เขาไม่ได้บอกว่านี่คืออาหารคลีนนะ เขาแค่บอกให้เปลี่ยนการกิน จากปกติกินข้าวขาวให้กินข้าวกล้อง ลดขนม ของหวาน ชา กาแฟ จริงๆ ขนมหวานทานได้ แต่เลือกที่เป็นโฮลวีต แล้วเนื้อสัตว์ก็ให้กินอกไก่กับปลา พอเราไปเล่าให้แฟนฟัง ซึ่งแฟนเรียนด้านฟู้ดไซน์มา เขาก็บอกว่า นี่มันคืออาหารคลีน จากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลมาเรื่อยๆ”

เพราะทำอาหารไม่เป็น หล่านจึงต้องใช้วิธีเลือกทานอาหาร เช่น ต้ม นึ่ง ย่าง และพยายามให้คลีนมากที่สุด จากข้อมูลสุขภาพที่เคยมีคอเลสเตอรอลเกิน 200 ก็ลดลงมาเหลือ 160 ภายในไม่กี่เดือน

“เราเป็นคนมีพุง ก็โทษสรีระ โทษตัวเองหมด ไม่เคยคิดโทษสิ่งที่กินเข้าไปเลย แต่พอเรามากินอาหารแบบนี้น้ำหนักลดจาก 44 เหลือ 42 แค่อาทิตย์เดียว มันมหัศจรรย์มากนะ ต่อให้ออกกำลังกายแค่ไหน แต่ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน มันก็ไม่ช่วยอะไร แล้วสิ่งที่เปลี่ยนอีกอย่างคือ เรารับรู้รสชาติของธรรมชาติได้มากขึ้น เมื่อก่อนติดรสหวาน ติดรสปรุงแต่ง กินคลีนแรกๆ ก็ว่าจืด แต่พอเรากินแบบนี้ตลอด เรารับรู้รสชาติของธรรมชาติได้ดี เมื่อก่อนกาแฟเย็นจะติดมาก หวานมาก พอเราเปลี่ยน ปุ่มรับรสเราก็เปลี่ยน กลายเป็นว่าพอไปกิน เรากินได้ไงหวานขนาดนี้ คือลิ้นเราปรับสมดุลตามพฤติกรรมการกินของเรา”

หลังเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจนเป็นสาวสวยสุขภาพดี ก็มีเพื่อนๆ มาถามไถ่ถึงการดูแลตัวเองมากขึ้น ณ วันนี้หล่านจึงกลายเป็นกูรูด้านการดูแลสุขภาพไปโดยปริยาย กินอร่อยคอยไม่นาน

EAT CLEAN กินเปลี่ยนร่าง© สนับสนุนโดย BangkokBizNews EAT CLEAN กินเปลี่ยนร่าง

กระแสการรับประทานอาหารคลีนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่มักจะเร่งรีบ และไม่มีเวลามาพิถีพิถันกับการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ ธุรกิจอาหารคลีนเดลิเวอรี่จึงเกิดขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพกลุ่มนั้น

หากลองใช้เสิร์ซเอนจิ้นค้นหาคำว่า “อาหารคลีน เดลิเวอรี่” จะพบว่ามีผู้ประกอบการด้านนี้มากกว่า 20 รายในกรุงเทพฯ และในเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศอีกมากมาย

“Diamondgrains” เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการอาหารคลีนเดลิเวอรี่ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดกิจการในเดือนสิงหาคม 2557 จนถึงวันนี้มียอดสั่งเฉลี่ยวันละ 2,000 กล่องเลยทีเดียว

“พอดีเราเห็นน้องสาวทานซีเรียลทุกวัน เราก็เห็นว่ามันดี คนกรุงเทพฯ เองก็ยุ่งมาก ทำกับข้าวเช้าไม่ไหว จะออกไปกินในร้านเลยก็หนักไป อาศัยดูตัวเองเป็นหลัก เพราะเราก็เป็นแบบนั้น แล้วหลายๆ คนก็กินมื้อเช้าไม่หนักหรอก ก็เลยลองทำเป็นกราโนล่าขึ้นมา” อูน – ชนิสรา โททอง เจ้าของธุรกิจกราโนล่าเดลิเวอรี่ แบรนด์ Diamondgrains บอก

สำหรับกราโนล่า (Granola) เป็นอาหารเช้าประเภทซีเรียลที่ได้รับความนิยมมากในแถบตะวันตก แต่ส่วนมากจะมีแคลอรี่สูง เพราะมีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลเข้ามา อูนจึงคิดผลิตอาหารกราโนล่าแบบไร้แป้งไร้น้ำตาล และเป็นอาหารคลีนที่กินได้แบบไม่อ้วน

“ลองนึกเล่นๆ ว่าคนคนหนึ่งจะกินอาหารคลีนใน 1 วัน เขาต้องใช้เวลาเท่าไรเพื่อให้ได้อาหาร 1 มื้อ สมมติจะกินคุกกี้คลีน ก็ต้องไปซื้อข้าวโอ๊ตมาปั่นให้เป็นแป้งอะไรแบบนี้ ชั่งตวงวัตถุดิบทีละอย่าง คำนวณแคลอรี่ คือต้องมี 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เราก็เลยมองว่า ทุกคนคงไม่มีเวลามากขนาดนั้น เราเลยทำให้ พกไป 1 กล่อง เติมนมหรือโยเกิร์ตก็ได้แล้ว และในกล่องเราบอกหมดว่ามีพลังงานเท่าไร น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต โปรตีนเท่าไร แล้วถ้าเติมนม โยเกิร์ตจะมีแคลอรี่เท่าไร เราให้รายละเอียดทางโภชนาการไว้หมด เพื่อให้ผู้บริโภคได้ข้อมูลครบถ้วน”

อย่างที่บอกว่าผู้ประกอบการมีมากมาย แต่ใครจะอยู่ได้ อยู่นาน ขึ้นอยู่กับ “ความจริงใจ” ต่อผู้บริโภค

“เราทำอย่างรู้จักผู้บริโภค วัตถุดิบทุกอย่างคลีน 100 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญเรามี อย.รับรอง และโจทย์ของเรา 1. อร่อย 2. ดีต่อสุขภาพไม่อ้วน และ 3. สะดวก” อูน บอก

เช่นเดียวกับ ข้าวหอม – กฤษณา อัญญะโพธิ์ เจ้าของปิ่นโตอาหารคลีน “ข้ามหอมปิ่นโต” ที่บอกว่า จะประกอบธุรกิจนี้ต้องคิดถึงผู้บริโภคเป็นหลัก และเธอเองก็รับประกันคุณภาพด้วยการรับประทานแบบเดียวกับลูกค้าของตัวเอง

“เราเลือกวัตถุดิบจากแหล่งที่เรามั่นใจได้ เพราะเรากินด้วย กินเหมือนกันกับลูกค้า เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกให้มีปนเปื้อนน้อยที่สุด”

ข้าวหอมปิ่นโต เติบโตขึ้นและเป็นที่รู้จักของนักกินคลีน เพราะเธอมีเมนูอาหารไทยที่ถูกปากคนไทยด้วยกัน โดยอาหารของเธอนั้นมีให้เลือกกันแบบไม่ซ้ำเมนูเลยทีเดียว

“จุดเด่นคือเราเป็นอาหารคลีนสไตล์ไทย เมนูเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางทีมีขนมจีน ก็ต้องไปหาขนมจีนข้าวกล้อง ใช้กะทิธัญพืช ใช้รสชาติจากธรรมชาติ เค็มจากเกลือ หวานจากผัก กุ้ง ปลา น้ำผึ้ง เพราะอาหารไทยต้องทำให้ถูกจริต ไม่อย่างนั้นก็ไม่ใช่อาหารไทย พอเราทำอาหารแบบนี้ คุณยายบอก เหมือนคนโบราณทำเลย เพราะเมื่อก่อนก็ไม่มีเครื่องปรุงรสอะไร เมนูเราเยอะจนน้องบางคนบอก เมนูพี่ชนะเลิศมาก เหมือนกินอาหารปกติเลย คืออาหารเราเป็นอาหารที่กินในภาวะปกติ ครบ 5 หมู่ เน้นสุขภาพดีมาก่อน ผอมลงคือผลพลอยได้ อย่างเราเองกินไป 3 เดือน น้ำหนักหายไป 10 กิโลเลย”

เจ้าของอาหารคลีนแบรนด์ “ข้าวหอมปิ่นโต” บอกว่า ลูกค้าส่วนมากเป็นพนักงานบริษัทที่ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหาร เธอจึงคิดเมนูและทำตารางอาหารให้เป็นรายสัปดาห์

“อาหารเราจะเซ็ตเมนูไว้ วันละ 3 มื้อ สัปดาห์ละ 15 มื้อ ลูกค้าจะกินเหมือนกัน ผู้หญิงผู้ชาย แต่ก็มีแบบที่สั่งเป็นมื้อๆ รวมกันมากับเพื่อนๆ ก็มี ส่งตรงเวลาทุกมื้อ คือเราเริ่มทำมาตั้งแต่กันยายน 2557 ถึงปัจจุบัน ยังไม่เห็นว่าเทรนด์จะลดลงนะ มีแต่เพิ่มขึ้น ส่วนมากเป็นลูกค้าที่อยากผอมมี 90 เปอร์เซ็นต์ และไม่หายไปไหน ยังอยู่ เราเห็นพัฒนาการความผอมของเขา แล้วตอนนี้ก็เริ่มมีลูกค้าที่ไม่สบาย เป็นเบาหวาน โรคไต ที่ต้องดูแลอาหารเข้ามาด้วย เพราะอาหารคลีนควบคุมโภชนาการอยู่แล้ว” ข้าวหอม อธิบาย เผาผลาญดีมีซิกแพ็ค

ผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหารคลีนล้วนมี Inspiration ในการเริ่มต้นดำเนินกิจการแตกต่างกัน สำหรับ พีท – นิธิ พรหมหิต เจ้าของธรุกิจ “Fit Meal” บอกว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีการกินอยู่ของชาวอาทิตย์อุทัย

“ผมไปดูงานและไปอยู่กับเพื่อนที่ญี่ปุ่น แล้วก็เห็นว่าชีวิตของคนญี่ปุ่นไม่เหมือนคนไทยเลยเรื่องการกิน คนญี่ปุ่นกินดิบ ไม่มีเครื่องเทศ ซึ่งเขากินมาตั้งนานแล้ว แล้วเขาไม่ต้องการหมอเหมือนบ้านเรา เวลาเจ็บป่วยเขาจะกินอาหารเป็นยา ถ้าไปโรงพยาบาลคือแย่จริงๆ เราก็เลยคิดว่าน่าจะลองทำอะไรแบบนี้ ตอนนั้นก็มาลองทำร้านอาหาร แต่เนเจอร์ของคนไทยไม่ใช่แบบนั้น เลยเปิดเป็นร้านอาหารปกติไป แต่ให้แม่ครัวทำอาหารคลีนให้เรากิน ผมก็กินแล้วออกกำลังกายไปด้วยรู้สึกดี เพื่อนก็บอกทำไมไม่ทำขาย”

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของอาหารคลีนเดลิเวอรี่ที่ชื่อ “Fit Meal” โดยเริ่มจากอาหารนานาชาติ แล้วค่อยๆ ปรับเป็นอาหารที่ถูกปากคนไทย จนปัจจุบันมีเมนูให้เลือกมากถึง 31 เมนู

“เราให้ลูกค้าสั่งเป็นรายสัปดาห์ เลือกได้ตามเมนูที่อยากทาน ซึ่งทาร์เก็ตของเราเป็นลูกค้าวัย 30-35 กลุ่มไฮเอนด์ แต่จริงๆ อาหารเราไม่แพง พอคำนวณทุกอย่างแล้วก็ตกกล่องละ 100 ต่อมื้อเท่านั้น”

ยอดไลค์แฟนเพจ “Fit Meal” เกือบ 50,000 ไลค์ ช่วยการันตีคุณภาพของอาหารคลีนรายนี้ได้ เพราะนอกจากให้บริการอาหารคลีนที่สะอาด สดใหม่ทุกวันแล้ว หลักโภชนาการต้องรู้ก็เป็นข้อมูลที่พีทนำเสนอให้ลูกค้าได้ศึกษาอยู่บ่อยๆ

“เรามีพี่ชายเป็นนักโภชนาการอยู่แล้ว ก็ให้พี่ชายช่วยเรื่องข้อมูลโภชนาการอาหาร การคำนวณแคลอรี่ด้วย”

จุดเด่นอีกอย่างของ Fit Meal คือสโลแกน “Sexy made in our kitchen” ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องขอลอง

“ปี 2015 เรารีดีไซน์ เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้โตขึ้น แล้วเราก็ใช้สโลแกนนี้ “ความเซ็กซี่ของคุณเกิดจากครัวของเรา” เพราะฉะนั้นสั่งเราสิ(หัวเราะ) หรือบางทีเรามีกิมมิกน่ารักๆ อย่างเขียนการ์ด เขียนข้อความติดไปกับกล่องอาหาร คือมีลูกค้ารีเควสมา ก็เลยทำให้ ถ้าลูกค้าอยากได้อะไร เราทำได้เราก็จะทำ” พีท บอก

นี่เป็นการทำการตลาดที่เข้าถึงลูกค้าได้ดีอีกอย่างหนึ่ง และก็ทำให้ Fit Meal ได้ลูกค้าเพิ่มมาขึ้นจากการบอกเล่าปากต่อปาก

จะว่าไป จุดเริ่มต้นของกระแสการรับประทานอาหารคลีนในประเทศไทยส่วนหนึ่งมาจากคนรักสุขภาพที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือต้องการเพิ่ม six pack ด้วย อย่างเช่น ดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า ก็เริ่มธุรกิจอาหารคลีนเดลิเวอรี่ “DJPoomMenu” ภายใต้สโลแกน “Six Pack made in our kitchen” เพราะได้ทดลองกับตัวเองมาแล้ว หรือแก๊งดาราเพื่อนสนิทที่คิดทำ “MusclemealThailand” อย่าง เต้ – นันทศัย พิศัลยบุตร ,และเจจินตัย อันติมานนท์ ก็กลายเป็นคนกล้ามโตเพราะกินคลีน

สำหรับ เอก – เอกชัย เพชรเทวี นักโฆษณา บริษัท โอกิลวี่ฯ ไม่ใช่ผู้ดำเนินธุรกิจอาหารคลีน แต่เป็นขาประจำที่ผูกมื้อเที่ยงไว้กับร้าน “ข้าวหอมปิ่นโต” บอกว่า อาหารคลีนช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้ชัดเจนขึ้นได้จริงๆ

“ผมเป็นคนออกกำลังกาย เล่นเวทอยู่แล้ว ซึ่งการเล่นเวทมันก็จะมีกฎเรื่องการกินอยู่ว่า ต้องโลว์โซเดียม โลว์ชูการ์ เพื่อจะให้มีกล้ามเนื้อ ผมเลยมองว่าอาหารคลีนน่าจะเข้าข่ายอาหารที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ เลยสั่งอาหารคลีนของพี่ข้าว(ข้าวหอมปิ่นโต)มากินเป็นมื้อเที่ยง โดยหลักๆ เราก็จะบอกเขาว่าเราเลือกกินอะไร ไม่กินอะไร เอาไข่ขาว ไม่เอาไข่แดง พี่เขาก็จะแยกมาให้มื้อกลางวัน 3 ฟอง ผมสั่งเฉพาะเที่ยง มื้ออื่นก็กินที่บ้าน กินข้างนอกปกติ ผมว่ามันสะดวกมาก ราคาก็ไม่แพงไป ประมาณ 140 ต่อมื้อ อันนี้ของผมนะ คือมันครบ เราไม่ต้องไปกินอย่างอื่นเพิ่มแล้ว มีสารอาหารครบถ้วน และจากที่ผมกินมาหลายเดือน กางเกงที่ใส่ไม่ได้ก็มาใส่ได้เฉยเลย ไขมันที่ออกยากๆ อย่างด้านข้าง มันก็ค่อยๆ หายไป เมื่อเราเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน รูปร่างเราเฟิร์มขึ้น เพราะโดยแฟคเตอร์คืออาหาร 60 ออกกำลังกาย 40 มันก็เลยทำให้เราสุขภาพดี” เอก สรุป

“You are what you eat” เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ เพราะฉะนั้นใครบริโภคอะไรเข้าไปก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ร่างกายสะท้อนออกมาด้วย

credited by: กรุงเทพธุรกิจ (BangkokBizNews)

как восстановить паркет

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : EAT CLEAN! อาหารคลีนคืออะไร และทำไมจึงกลายเป็น Blooming Business