Cheat Day อาจเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนไม่สามารถลดน้ำหนักหรือลดไขมันลงได้

เหตุผลสำคัญสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักกีฬา เกี่ยวกับ Cheat Day

Cheat Day จะทำให้เรามีโอกาสสะสมพลังงานส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น เพราะในแต่ละมื้อหรือในทุก ๆ วันเราอาจมีพลังงานส่วนเกินที่ได้รับและสะสมในปริมาณมากอยู่แล้ว แตกต่างจากนักกีฬาหรือนักเพาะกายที่เข้มงวดกับการกินและการฝึกซ้อม ซึ่งคนทั่ว ๆ ไปไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดขนาดนั้น เพราะฉะนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมี Cheat Day

Cheat Day เป็นความเชื่อที่ได้รับอิทธิพลมาจากกลุ่มนักกีฬาหรือนักเพาะกายที่เรานำมาใช้แบบผิด ๆ นักเพาะกายไม่ได้มี Cheat Day ในทุกสัปดาห์ สำหรับนักเพาะกาย Cheat Day คือการเพิ่มไกลโคเจน (พลังงานสะสมที่อยู่ในกล้ามเนื้อซึ่งมาจากแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต) เมื่อมีการฝึกซ้อมที่เข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ร่างกายมีการนำไกลโคเจนออกมาใช้ ทำให้ไกลโคเจนในร่างกายลดน้อยลง จึงจำเป็นต้องมีการกินแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มไกลโคเจนในร่างกาย ส่งผลให้มีแรงในการฝึกซ้อมและรักษาไม่ให้มวลกล้ามเนื้อถูกนำมาใช้เป็นพลังงาน

การที่เราควบคุมอาหารพร้อมกับออกกำลังกายเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ และเลือกวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันอื่น ๆ ตามที่เรากำหนดเป็น Cheat Day อาจส่งผลให้ปริมาณพลังงานที่เราพยายามนำออกมาใช้ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นสูญเปล่า เพียงเพราะปริมาณพลังงานที่เรารับเข้ามาจากอาหารแค่ไม่กี่มื้อ

อาหารว่างหรือขนมหวานที่เราเลือกกินในวัน Cheat Day ส่วนมากพลังงานสูง เช่น ขนมเค้กชิ้นเล็ก 1 ชิ้น หรือเครื่องดื่มรสชาติหวาน 1 แก้ว ใช้เวลาในการกินหรือดื่มแค่ 5 – 10 นาที แต่อาจให้พลังงานสูงถึง 500 แคลอรี่ ซึ่งเราจะต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงในการออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนนั้นออกไป

สรุป ถ้าวันไหนเคลื่อนไหวร่างกายน้อย ออกกำลังกายน้อย ก็ควรกินให้น้อย แต่ถ้าวันไหนเคลื่อนไหวร่างกายเยอะ ออกกำลังกายเยอะ ก็ควรกินเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นวันเสาร์ อาทิตย์ ถ้าเราไม่ออกกำลังกายเลยแถมยังใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ก็ต้องพยายามกินให้เหมาะสมกับกิจกรรมในวันนั้น

โค้ชนิว วีระเดช ผเด็จพล
MSc. Sport & Exercise Nutrition, Leeds Beckett University, UK
Certified Strength & Conditioning Specialist (NSCA)
Certified Personal Trainer (NSCA)
Co-founder of Fit-D Fitness