จันทร์ถึงศุกร์อาจเต็มไปด้วยความวุ่นวายเพราะงานและสารพัดเดดไลน์ ไหนจะนัดประชุมและอื่นๆที่ต้องทำ ทำให้ “คู่รัก” มีเวลาน้อยเต็มทีที่จะชาร์จแบตเตอร์รี่ให้กันและกัน

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์จึงเป็นวันที่คู่รักควรทำอะไรช้าลงแล้วหันมาสื่อสารกัน และเอนจอยกับเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถที่จะจัดการเรื่องความต้องการส่วนตัวและเตรียมพร้อมสำหรับอาทิตย์ใหม่ที่กำลังจะมาถึงด้วย

เราได้ถามผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ว่าคู่รักที่มีชีวิตที่แฮปปี้ทำอะไรกันส่วนใหญ่ในช่วงวันหยุด นี่คือสิ่งที่เขาบอกเรา

1. พวกเขาแบ่งระหว่างเวลา “ส่วนตัว” และเวลา “ส่วนรวม” ได้อย่างลงตัว

ด้วยความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน คู่รักหลายคู่ลงเอยด้วยการรู้สึกต่อกันในฐานะรูมเมทมากกว่าคู่รัก ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี่แหละที่จะเป็นช่วงเวลาที่คุณทั้งคู่จะรีคอนเนคกันในฐานะคู่รัก อาจจะด้วยการทำอาหารด้วยกัน นอนกอดกันหน้าทีวี หรือแม้แต่ออกไปดูหนัง แต่ถ้าต่างคนต่างมีเรื่องส่วนตัวที่ตัวเองอยากจะทำล่ะ? อย่างไปทานมื้อเช้ากับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน หรือไปจอยคลาสโยคะคลาสโปรด คู่รักที่มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นจะมีเวลาส่วนตัวให้กันและกันโดยที่ไม่รู้สึกยึดติด เพราะพวกเขารู้ความสำคัญระหว่าง เวลาส่วนตัว กับ เวลาส่วนรวมในฐานะคู่รักว่าเป็นอะไรที่สำคัญพอๆกัน

2. พวกเขาวางแผนสนุกๆที่จะทำด้วยกันในอนาคต

คู่รักหลายคู่รู้สึกเหนื่อยกับวันทำงานจนเกินกว่าที่จะวางแผนสำหรับทำกิจกรรมสนุกๆในช่วงวันหยุด วันทำงานจะน่าเบื่อน้อยลงถ้าคู่รักมีการวางแผนทำกิจกรรมสนุกๆให้ตั้งตารอสำหรับวันหยุด ไม่จำเป็นต้องเป็นการออกไปเที่ยวแบบหรูหรา อลังการ แค่จองคลาสทำอาหารหรือนัดทานดืนเนอร์ด้วยกันแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

3. พวกเขามีเซ็กซ์และนอนกอดกัน

ในช่วงวันทำงาน เป็นเรื่องยากสำหรับคู่รักในการหาเวลาเพื่อผูกสัมพันธ์กันเพราะพวกเขาต้องตื่นแต่เช้าและไปทำงาน พอกลับมา ก็รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไร ทำได้แค่นอนดูทีวีอยู่ในชุดนอน การมีความสัมพันธ์ทางกาย ซึ่งบ่อยครั้งมักจะถูกละเลย เป็นสิ่่งจำเป็นสำหรับความสัมพันธ์ที่แข็งแรง วันหยุดสุดสัปดาห์นี่แหละที่เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับสัมผัสอันลึกซึ้งบนเตียงนอน

4. พวกเขาทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมตัวสำหรับอาทิตย์ที่กำลังจะมาถึง

เป็นเรื่องยากที่จะหาใครซักคนที่ชอบการซักผ้า จ่ายบิล หรือออกไปซื้อของใช้ประจำวัน และภารกิจสุดน่าเบื่อนี้มักจะเป็นอะไรที่ต้องทำในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หากคุยกันดีๆและแบ่งหน้าที่กันแล้ว งานที่แสนน่าเบื่อเหล่านี้อาจจะไม่ได้แย่นักหรืออาจจะกลายเป็นเรื่องสนุกไปเลยก็ได้ คู่รักที่ความสัมพันธ์แข็งแรงดีต่างยอมรับเรื่องน่าเบื่อที่ต้องทำทุกอาทิตย์เรื่องนี้ และพยายามช่วยกันเพื่อทำให้มันน่าเบื่อน้อยลง ขณะเดียวกันก็พยายามที่จะเพิ่มความผ่อนคลายและพยายามเอนเตอร์เทนกันและกันเพื่อให้สามารถร่วมกันทำภารกิจอันจำเจนี้ด้วยกันได้

5. พวกเขาแบ่งระหว่างชีวิตทำงานกับชีวิตในบ้าน

ด้วยจำนวนชั่วโมงการทำงานที่อัดแน่นในทุกวัน การแบ่งแยกระหว่างเรื่องงานและเรื่องชีวิตเป็นอะไรที่ทำได้ยาก เรามักจะต้องตอบอีเมลตอนดึกๆ ต้องใช้เวลาในตอนเย็นและช่วงวันหยุดทำงานเพื่อสะสางงานที่คั่งค้าง ถึงแม้จะฟังดูยาก แต่การแบ่งเส้นระหว่างเวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนในฐานะคู่รักเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง

6. พวกเขาออกไปข้างนอกและค้นหาสิ่งใหม่ๆ

การที่คู่รักที่เลือกที่จะออกจากบ้านและไปหาประสบการณ์ใหม่ๆด้วยกันมากกว่าแค่การไปนั่งทานข้าวในที่เดิมๆช่วยเพิ่มความตื่นเต้นและช่วยทำลายความน่าเบื่อของการทำอะไรที่เป็นรูทีน ไม่ว่าจะเป็นการไปเดินเล่นในสวนสาธารณะหรือในย่านที่อยู่อาศัยที่ไม่เคยไป ทริปไปยังต่างจังหวัดใกล้ๆหรือไปว่ายน้ำในทะเลสาป การสร้างความทรงจำใหม่ๆไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่การต้องไปเที่ยวต่างประเทศเท่านั้น การร่วมกันสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆกับคนรักในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยช่วยเพิ่มพลังงานและทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่แข็งแรงขึ้น

7. พวกเขายอมเสียสละเพื่อทำให้คนรักมีความสุข

คู่รักที่ความสัมพันธ์แข็งแรงดีจะเข้าใจความต้องการของกันและกันและไม่เข้าไปก้าวก่ายตรงนั้น บางคนอาจจะชอบนอนตื่นสายโดยไม่มีใครกวน ไปออกกำลังกายที่ยิม ทำเล็บหรืออ่านหนังสือเงียบๆในช่วงวันหยุด ในฐานะคนรัก สำคัญมากที่จะต้องเข้าใจเรื่องเหล่านี้และทำอะไรก็ตามที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเขาหรือเธอ อาจจะต้องมีใครซักคนดูแลลูกหรือเฝ้าบ้านเพื่อให้อีกฝ่ายได้มีีเวลาไปทำในสิ่งที่ชอบ คู่รักที่ความสัมพันธ์อยู่ในเกณฑ์ดีจะรู้ว่อะไรที่ทำแล้วจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมีความสุขและจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะช่วยอำนวยความสะดวก อาจจะต้องถึงกับเสียสละในบางครั้ง

8. พวกเขาใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอาทิตย์นั้นๆ

แนะนำให้คู่รักทุกคู่ใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในการสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในอาทิตย์ที่ผ่านมาและเตรียมการสำหรับอาทิต์ที่กำลังจะมาถึงสมมติอาจเป็นวันอาทิตย์ที่คุณทั้งคู่มานั่งคุยกัน อาจใช้เวลาราว 20 – 30 นาทีในการถามตอบคำถาม 4 คำถามดังนี้: อะไรที่พวกเราทำดีแล้วในอาทิตย์ที่ผ่านมา? เรื่องดีๆอะไรที่ฉันสามารถขอบคุณ/ชื่นชม/รับรู้เกี่ยวกับคุณในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา? มีอะไรที่เราต้องซ่อมหรือแก้ไขในอาทิตย์ที่ผ่านมาไหม? คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอาทิตย์ที่กำลังจะถึง และฉันจะช่วยซัพพอร์ตคุณได้อย่างไรบ้าง? คู่รักที่ถามและตอบคำถามเหล่านี้เป็นประจำจะสามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

9. พวกเขาฝันถึงอนาคตที่จะมีร่วมกัน

ความสัมพันธ์ที่ดีนั้นจำเป็นต้องอาศัยการสร้างความหมายที่ลึกซึ้งร่วมกันมากกว่าแค่การทำกิจวัตรประจำวันธรรมดา การใช้จินตนาการเพื่อดึงตัวเองออกจากเรื่องงานและเรื่องครอบครัว ก่อนจะออกสำรวจแฟนตาซีของอนาคตที่อาจเป็นไปได้ของคุณและคนรักคู่ช่วยทำลายความน่าเบื่อหน่ายของชีวิตคู่ที่อาจเกิดขึ้นในทุกความสัมพันธ์ การฝันว่าจะไปนั่งแต่งกลอนในป่าสนในญี่ปุ่นตอนที่เกษียณหรือแม้แต่การไปปลูกฟาร์มในพื้นที่อันห่างไกลช่วยสร้างจุดหมายและความหมายให้กับความสัมพันธ์ในแบบที่ลึกซึ้ง