ปิดเมนู
หน้าแรก

9 ความเชื่อผิดๆ ของการออกกำลังกาย ที่คุณควรมองข้ามไปได้แล้ว

เปิดอ่าน 59 views

9 ความเชื่อผิดๆ ของการออกกำลังกาย ที่คุณควรมองข้ามไปได้แล้ว

Pepperrr

สนับสนุนเนื้อหา

ในแต่ละวันชีวิตก็แสนจะยุ่ง มีสิ่งต่างๆ ต้องทำมากมาย ทั้งทำงาน เจอเพื่อนฝูง ให้เวลาพ่อกับแม่ เดทกับแฟน เยอะแยะไปหมดใช่ไหม แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือการออกกำลังกาย แต่เวลาออกกำลังกายก็มีน้อยอยู่แล้วขืนมัวแต่ออกกำลังกายแบบผิดๆ อยู่ละก็ ต้องไม่เห็นผลแน่ๆ เลย

เพื่อให้การออกกำลังกายของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและเห็นผล เราได้รวบรวม 9 ความเชื่อผิดๆมาไว้ให้แล้ว หากใครยังเข้าใจผิดอยู่ จะได้หันมาออกกำลังกายกันอย่างมีประสิทธิภาพมีหุ่น และสุขภาพแข็งแรงกัน ไปดูกันเลย

9. ต้องออกกำลังส่วนหน้าท้องมากๆถึงจะมีซิกแพค

ต้องซิทอัพสิ วันละ 200 ครั้ง มาแน่ๆ ซิกแพคในฝัน

ดูเป็นอะไรที่ชวนฝัน แต่ลองทำดูสิ ได้แน่ๆ ไม่ใช่กล้ามท้องนะครับ แต่เป็นกล้ามเนื้ออักเสบ การออกกำลังหน้าท้องเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างกล้ามท้องแต่ต้องรวมอยู่กับการทานอาหารและคาร์ดิโอที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน เหมือนคำกล่าวที่ว่า ‘Six packs are made in the kitchen’ ควรเน้นอาหารที่แป้งน้อยและมีโปรตีนสูง ออกกำลังกายเป็นตัวเร่งความเร็วให้กล้ามชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นซิทอัพไม่ช่วยอะไรถ้ายังตามใจปาก

8. การวิ่งทำให้เข่าเสีย

การวิ่งไม่ได้ทำให้เข่าเสีย การกินเยอะต่างหากทำให้เข่าเสีย

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพบว่าผู้ที่วิ่งออกกำลังกายเป็นประจำมีความเสี่ยงที่ข้อหัวเข่าจะเสียน้อยกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย และยิ่งไปกว่านั้นการออกกำลังกายเป็นประจำยังทำให้ข้อต่อต่างๆ ของร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย อย่างที่กล่าวข้างต้น การวิ่งไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้หัวเข่าเสีย แต่เป็นการที่น้ำหนักตัวมากเกินไปต่างหาก อย่างไรก็ตาม ออกกำลังกายอย่างหักโหมก็ไม่ดีเช่นกัน ดังนั้นอย่าหักโหม

7. ต้องยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย

ก่อนเริ่มเรียนวิชาพละตอนเด็กๆ ทุกคนคงเคยโดนสั่งให้ก้มลงเอามือแตะปลายเท้าและยืดกล้ามเนื้อกันแน่นอน แต่ถึงมันจะเป็นสิ่งที่เราทำเป็นประจำในวิชาพละ มันก็อาจจะไม่ใช่สิ่งดีอย่างที่เราคิด

มีรายงานโดยนักวิจัยชาวสแดนดิเนเวีย รายงานว่าการพยายามยืดกล้ามเนื้อขนาดที่กล้ามเนื้อยังเย็นอยู่นั้นมีผลเสียมากกว่าผลดี โดยจะมีผลกระทบกับพละกำลังและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อดังกล่าว ดังนั้นลองมาเปลี่ยนจากการยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายมาเป็นการวอร์มอัพเบาๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อตื่นตัวกันดีกว่า เช่นถ้าวันนี้แพลนว่าจะยกเวทหนักๆ ก็ลองวิดพื้นเบาๆเป็นการวอร์มอัพก่อน

6. ยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ยิ่งดี

ยกทุกวัน วิ่งทุกวัน ยิ่งมากยิ่งดี อยากหุ่นดีเร็วๆ ต้องออกเป็นสองเท่า

นอกจากไม่ช่วยแล้วจะทำให้เราเกิดปัญหาอีกด้วย การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนความเหมาะสม การพักผ่อนหนึ่งวันต่อการออกกำลังในหนึ่งอาทิตย์เป็นสิ่งที่จะทำให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอจากการออกกำลังกายได้มาก ร่างกายจะซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาทดแทน จะได้กล้ามเนื้อที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าเดิม ควรพักบ้าง ไม่งั้นอยู่ไม่ทันเห็นหุ่นดีๆ แน่ๆ

5. สามารถลดไขมันเป็นส่วนๆได้

ถ้าอยากลดไขมันหน้าท้องก็ ซิทอัพเยอะๆ สิ ถ้าอยากลดต้นขาก็ Squat เยอะๆ สิ

เดี๋ยวก่อน! การลดไขมันไม่สามารถทำเป็นส่วนๆ ได้ เนื่องจากกระบวนการเผาผลาญไขมันเป็นกระบวนการที่ต้องเกิดขึ้นทั้งร่างกายไม่สามารถเกิดแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งได้ โดยได้มีการทดลองให้คนออกกำลังกายโดยใช้ร่างกายแค่ครึ่งเดียว แต่ผลปรากฏว่าไขมันในร่างกายทุกส่วนลดลงเท่าๆกัน ดังนั้นหากอยากลดน้ำหนักให้พยายามออกกำลังกายส่วนกล้ามเนื้อที่ใหญ่ๆ ทั้งหลาย เช่นกล้ามเนื้อขา เนื่องจากจะเกิดการเผาผลาญแคลอรี่มากกว่ากล้ามเนื้อเล็กๆ

4. ยิ่งกล้ามใหญ่เท่าไหร่ ยิ่งแข็งแรง

การมีกล้ามใหญ่ไม่ได้แปลว่าจะแข็งแรงเสมอไป ลองจินตนาการนักเพาะกายมาวิ่งแข่งระยะทางไกลๆดูสิคะ เราอาจจะเห็นเค้าวิ่งไม่ออกก็ได้ ในการออกกำลังกาย มี 2 แบบคือ Size Training กับ Strength Training การออกกำลังกายควบคู่กันไปเป็นระบบจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงได้เป็นอย่างดี มีสมดุลในรูปร่างและความแข็งแรงโดยธรรมชาติ

3. คาร์ดิโอทำลายกล้ามเนื้อ

วิ่งเยอะๆแล้วกล้ามเนื้อที่พยายามสร้างมาจะหายไป

ถ้าคุณเห็นนักวิ่งทั้งหลายในการแข่งขันกีฬาต่างๆ มีรูปร่างผอมบาง แล้วก็ไปคิดเอาเองว่าเราจะผอมไปแบบนั้น ถ้าเราวิ่งหรือทำคาร์ดิโอเยอะๆ ใช่ การวิ่งมันมีผลจากการออกกำลังกายที่มากเกินไปในลักษณะใดลักษณะหนึ่งนานๆ เกินความจำเป็นเช่นวิ่งรอบสนามหลวงสัก 100 รอบต่อวัน อันนั้นมีผลแน่ๆ สิ่งที่ควรทำคือผสมผสานการทำคาร์ดิโอ กับเวทเทรนนิ่งจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อได้อย่างมาก เช่นออกไปวิ่งบนสัก 2วันต่ออาทิตย์ ที่เหลือก็เล่นเวท ได้กล้ามได้หุ่นแน่นๆ แน่ๆ ครับ

2. การออกกำลังกายช่วยเปลี่ยนไขมันไปเป็นกล้ามเนื้อ

เราสามารถลดไขมันได้ แต่ไขมันจะเปลี่ยนมาเป็นกล้ามเนื้อไม่ได้

การออกกำลังกายไม่ได้เปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ แต่เพราะไขมันหายไปเราถึงเห็นกล้ามเนื้อชัดขึ้นต่างหาก ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนมาเป็นกล้ามเนื้อของเราได้ นอกจากกรดอะมิโนที่จะช่วยซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อให้เรา เพราะถ้าไขมันเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อจริงๆ คนที่เคยมีไขมันมากๆ แล้วมาออกกำลังกายคงกล้ามโตเป็น The Hulk กันแล้ว

1. ออกกำลังกายตอนเช้าดีกว่า

เรามักได้ยินว่าออกกำลังกายตอนเช้าตรู่นั้นดีที่สุด และมีบทความบอกอีกว่าออกกำลังกายตอนเช้าจะช่วยเผาผลาญไขมันมากขึ้น 20% แต่ บางทีก็บอกว่าการออกกำลังกายตอนเย็นนั้น ร่างกายจะใช้ประโยชน์จากออกซิเจนได้มากขึ้นถึง 7% ดังนั้นไม่ว่าจะเช้าหรือเย็นก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกันไป อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าการออกกำลังกายย่อมมีผลที่ดีมากกว่าผลเสีย

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 9 ความเชื่อผิดๆ ของการออกกำลังกาย ที่คุณควรมองข้ามไปได้แล้ว