ปิดเมนู
หน้าแรก

8 หลุมพรางการเงินที่คนวัย 30 มักพลาดโดยไม่รู้ตัว!

เปิดอ่าน 294 views

8 หลุมพรางการเงินที่คนวัย 30 มักพลาดโดยไม่รู้ตัว!

8 หลุมพรางการเงินที่คนวัย 30 มักพลาดโดยไม่รู้ตัว!

GoBear

สนับสนุนเนื้อหา

สวัสดีครับเพื่อนๆ หลายๆคนคงรู้สึกกันนะครับว่าพอเข้าอายุ 30 แล้ว ก็รู้สึกโล่งใจที่ตัวเองสามารถสร้างฐานะเพิ่มขึ้นมาไม่ต้องทนกระเบียดกระเสียรเหมือนตอนอายุ 20 อีกต่อไป แต่ก็อีกนั่นแหละครับ เวลาเปลี่ยน ความท้าทายใหม่ๆ ก็เข้ามาแทนที่ ทั้งการลงทุนในสินทรัพย์ใหญ่ๆ การสร้างครอบครัว หรือแม้แต่การซื้อบ้านซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากและยิ่งใหญ่กว่าเพียงแค่หาเลี้ยงตัวเองให้รอดในช่วงอายุ 20 มากเลยละครับ หลายๆคนที่คิดว่า 30 แล้ว มีเงินเดือนพอแล้ว ก็มักจะประมาทในข้อนี้ ทำให้ท้ายที่สุด ก็ตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้ วันนี้เราจึงขอนำเอาหลุมพรางทางการเงินที่หลายๆคนมักผิดพลาดในช่วงอายุ 30 มาฝากกัน ไปดูกันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง

1. เก็บเงินผิดที่

แน่นอนว่า การลงทุนและเก็บเงินเผื่ออนาคตเป็นเรื่องสำคัญ แต่หลายๆครั้งคนในวัย 30 ก็มักจะไป focus กับการเก็บเงินเพื่อวัยเกษียณต่างๆจนมากเกินไป และละเลยการเก็บเงินเพื่อการจ่ายค่าใช้จ่ายใหญ่ๆต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า การเก็บเงินเตรียมเกษียณก็ถือเป็นเรื่องที่ดีในทางการเงิน แต่ว่าคนในวัยนี้มักจะต้องมีการใช้จ่ายครั้งใหญ่ต่างๆเพื่อสร้างฐานะและครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อเพื่อนๆกำลังจะมีลูกหรือต้องการซื้อบ้าน ถ้าเก็บเงินจนเกินตัว ชีวิตของครอบครัวก็อาจจะขัดสนหรือเป็นหนี้ได้ครับ เพราะฉะนั้น เพื่อนๆอย่าลืมเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆที่ครอบครัวจะต้องลงทุน ผ่านการเปิดบัญชีออมทรัพย์หลายๆบัญชี เพื่อจุดประสงค์การฝากเงินที่แตกต่างกันไปนั่นเองครับ

2. ทุ่มกับการศึกษาลูกจนลืมเงินเกษียณตัวเอง

ข้อนี้ก็จะตรงข้ามกับข้อ 1 นะครับ ที่มีคนวัย 30 แทบจะไม่วางแผนเกษียณอะไรให้ตัวเองเลย แต่ทุ่มเงินไปกับการลงทุนทางการศึกษาให้ลูกมากเกินไป อย่างไรก็ดี แม้ว่าเพื่อนๆจะมีครอบครัวแล้ว การเตรียมเก็บเงินก่อนเกษียณก็ยังถือเป็นเรื่องใหญ่อันดับ 1 ไม่ว่าเพื่อนๆจะลงทุนไปกับลูกมากเพียงใด หากไม่มีเงินเกษียณ ลูกๆก็อาจจะเข้ามาดูแลเพื่อนๆได้ในบางส่วน แต่ค่าใช้จ่ายก็อาจจะสูงสำหรับพวกเขามากเกินกว่าค่าลงทุนทางการศึกษาที่เพื่อนๆให้พวกเขาไปอีก เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างก็ต้องมีสมดุลครับ ให้เพื่อนๆ มีเป้าหมายทางการเงินในการเก็บเงินเกษียณเป็นอันดับ 1 แต่ก็ยังคงกันเงินบางส่วนเพื่อมาลงทุนทางการศึกษาของลูก แต่ก็อย่าทุ่มตัวมากเกินไปจนเราเดือดร้อนเองนะครับ

3. ละเลยไม่ซื้อประกัน

การซื้อประกันถือเป็นเรื่องจำเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยนะครับ แม้หลายคนอาจจะมองว่า การเปรียบเทียบประกันถือเป็นเรื่องซีเรียสยุ่งยาก แทบจะไม่อยากพูดถึง แต่ว่าในระยะยาวแล้ว จะให้ผลที่ดีกับเพื่อนๆเองมากกว่าที่คิด หลายๆคนก็คิดว่า ถ้าซื้อประกันส่งส่งไปแบบไหนก็ได้ก็ถือว่าคุ้มครองแล้ว แต่อันที่จริง ถ้าเพื่อนๆเปรียบเทียบประกันไม่เป็น รวมถึงไม่ทราบเงื่อนไขต่างๆ ก็จะทำให้เมื่อเพื่อนๆเข้าสู่วัย 40 ถึง 50 ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นประกันที่เพื่อนๆซื้อไว้อาจจะไม่ครอบคลุมสิ่งที่เพื่อนๆต้องการจริงๆก็ได้ครับ เพราะฉะนั้น ให้วางแผนทางการเงินให้ดีๆ แล้วซื้อประกันที่ตรงกับความต้องการของคุณจะดีกว่าครับ

4. ไม่คุยกันเรื่องการเงินก่อนแต่งงาน

หลายๆคู่ก็คงคิดว่าเรื่องเงินไปคุยกันทีหลังก็ได้ ขอแค่รักกันตอนนี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวก็ฝ่าฟันอุปสรรคกันไปได้ แต่จริงๆแล้วยากนะครับ หลายๆคนรู้ดีว่า การคุยกันเรื่องการเงินก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่าย แถมตึงเครียด แต่ว่าการคุยกันเรื่องแผนการเงินส่วนบุคคล รูปแบบการใช้จ่าย และการวางแผนร่วมกันต่างๆนั้นจำเป็นอย่างยิ่งเลยละครับ เพราะถ้าหากคู่ของคุณไม่คุยกันตั้งแต่ตอนนี้ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้า หลายๆคู่ก็มักจะไม่เกรงใจกันแล้ว แถมใช้อารมณ์เข้ามาตัดสิน ยิ่งทำให้มองข้ามส่วนที่ควรจะต้องคุยกันจริงๆไปอย่างมาก ฉะนั้นแล้ว ยิ่งเพื่อนๆคุยกับแฟนของเพื่อนๆเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี โดยจะต้องทำความเข้าใจถึง background ของแฟนคุณ และดูว่าเขาใช้จ่ายเงินอย่างไร แถมต้องตกลงกันว่า จะแยกกระเป๋ากันจ่ายหรือจะใช้เงินร่วมกัน และถ้าหากใช้เงินร่วมกันจะใช้จ่ายอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดูเป็นเรื่องยากนะครับ แต่ถ้าเพื่อนๆรักกันจริงก็ต้องผ่านไปให้ได้ ครอบครัวจะได้มีหลักฐานที่มั่นคงยังไงล่ะครับ

5. จัดงานแต่งงานหรูเริดเกินตัว

หลายๆคู่ก็มักมองว่างานแต่งงานในครั้งเดียว จัดให้อลังการไปเลยดีกว่า แต่การตัดสินใจทางการเงินทุกอย่างก็มีผลตามมานะครับ ถ้าหากลงเงินไปตรงนี้ตั้งแต่แรก ก็อาจมีปัญหาทางการเงินในชีวิตครอบครัวได้ในภายหลัง สู้จัดงานแต่งเล็กๆ แล้วเอาเงินส่วนที่เหลือไปซื้อบ้าน หรือลงทุนอื่นๆให้กับครอบครัวก็จะดีซะกว่า แต่ก็แล้วแต่คนด้วยนะครับ คิดว่าดีก็ทำไป

6. ทุ่มสุดตัวกับลูกคนแรก

พ่อแม่มือใหม่หลายๆคนก็มักจะเห่อลูกคนแรกสุดๆ จนทำให้ยอมใช้จ่ายเงิน ไปกับเรื่องต่างๆของลูก จนบางครั้งก็ใช้เงินเกินตัวจนเกินไป เช่น ซื้อเปลเด็กคุณภาพสูงที่สุด เสื้อผ้าที่แพงที่สุด หรือค่าใช้จ่ายพี่เลี้ยงเด็กที่ดีที่สุด จนทำให้สถานะทางการเงินของครอบครัวย่ำแย่ลงในภายหลังได้ เพื่อนๆไม่จำเป็นต้องเลี้ยงลูกให้เหมือนเจ้าหญิงหรือเจ้าชายมาเกิด เพื่อนๆเพียงแค่ต้องเลี้ยงลูกให้อยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่ดีเท่านั้นเองครับ แต่ก็ต้องเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งด้วยสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันในการเลี้ยงลูกนะครับ

7. เรียนต่อป.โท แบบงงๆ

หลายๆคนที่ไปเรียนต่อป.โทบางครั้งก็เป็นเพราะว่าไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่ ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวเรียนป.โทจบไปก็ดีเอง แต่การเรียนป.โทนั้น ในบางทีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเรียนป.ตรีอีกนะครับ ทำให้ก่อนที่เพื่อนๆ จะตัดสินใจเรียนป.โท ก็ขอให้คิดให้ดีๆว่าเราอยากเรียนไปเพื่อจุดประสงค์ใด โดยที่เพื่อนๆต้องรู้ว่าเราเรียนจบแล้วอยากทำอะไรจริงๆ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆก็ตัดสินใจเรียน MBA ซึ่งเป็นสาขาที่กว้างมาก แต่จบมากลับเคว้งเหมือนเดิม แถมจนลงกว่าเดิมอีก ก็จะยิ่งทำให้การเงินในวัย 30 ของเพื่อนๆ ร่อแร่พอๆกับวัย 20 ได้เลยละครับ

8. มองสั้นในเรื่องงาน

เมื่อเพื่อนๆก้าวเข้าสู่วัย 30 แล้ว การเพียงแค่หางานเพื่อให้ได้เงินพอใช้เดือนชนเดือน ก็ไม่ใช่สิ่งดีอีกต่อไป เพื่อนๆต้องมองให้ออกในระยะยาวว่า งานที่เพื่อนๆทำอยู่นั้นจะสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่ทำเงินให้เพื่อนๆอีกมากโขในอนาคตได้หรือไม่ ถ้างานที่ทำอยู่ไม่ใช่แบบนี้ ก็เตรียมลาออกแล้ววางแผนอนาคตตัวเองใหม่ดีกว่าครับ

เห็นไหมล่ะครับว่าวัย 30 แค่มีเงินก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นคงของเพื่อนๆดีขึ้นถ้าหากเพื่อนๆตัดสินใจแบบผิดๆโดยไม่มองการณ์ไกล และอาจส่งผลเสียต่อสถานะทางการเงินในวัยที่เพื่อนๆมีแรงทำงานน้อยลง ชีวิตจะแย่เอาได้ครับ ยังไงเราก็ขอคอยเป็นกำลังใจให้อยู่ตรงนี้ละกันครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก GoBear.com/th 

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 8 หลุมพรางการเงินที่คนวัย 30 มักพลาดโดยไม่รู้ตัว!