โดย สุรศักดิ์ จรินทร์ทอง
 

บางครั้งแรงบันดาลใจในการออกแบบอะไรสักอย่างอาจจะมาจากสิ่งที่คุณไม่ได้คิดถึงหรือดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เชื่อเถอะว่า ในมุมมองของนักออกแบบหรือคนออกแบบ พวกเขามักจะมีไอเดียแปลกๆ ในการนำมาเติมเต็มความคิดเพื่อสร้างสรรค์จินตนาการของตัวเองออกมาให้เป็นของจริง ซึ่งในโลกของนาฬิกาก็เช่นเดียวกัน งานออกแบบอาจจะมีต้นทางมาจากไอเดียหรือสิ่งที่อยู่รอบตัวของนักออกแบบ แต่เชื่อว่ายังมีอะไรบางอย่างที่คุณอาจจะดูแล้วมันไม่น่าเป็นไปได้ในการอยู่เบื้องหลังของการสร้างสรรค์เรือนเวลาเหล่านี้ขึ้นมา

SEVENFRIDAY W-Series รุ่น W1/01
     

เครื่องมือช่าง: เฮ้ย…จริงดิ ถ้าถามมาอย่างนี้เราก็คงต้องว่า ‘จริงดิ ก็เค้าบอกมาอย่างนั้น…’ และถ้าใครเป็นแฟนตัวยงของนาฬิกาแบรนด์ SEVENFRIDAY คุณจะรู้ว่าไอเดียของพวกเขานั้นเฉิดฉายและแหวกแนวอยู่เสมอ นับตั้งแต่เรื่องของรถยนต์ไปจนถึงยานอวกาศ และล่าสุดกลับมาลงดินและพุ่งตรงไปที่โรงรถเพื่อเอาบรรดาเครื่องมือช่างของคุณพ่อบ้านมาเป็นแบบ

SEVENFRIDAY บอกว่านาฬิการุ่นใหม่ของพวกเขาอย่าง W-Series รุ่น W1/01 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องมือช่างที่มีพาวเวอร์แรงสุดๆ นั่นก็คือเลี่อยกล ซึ่งทางทีมออกแบบของแบรนด์นี้ได้นำเอาสิ่งที่เป็นไฮไลท์ของเลื่อยยนต์ทั้งในแง่ของรูปทรงและรูปแบบของใบเลื่อยมาใช้ในการสร้างสรรค์เส้นสายที่อยู่บนนาฬิกาทรงเหลี่ยมที่มีขนาด 44.3X49.7 มิลลิเมตร

SF-W1/01 ประกอบไปด้วยหน้าปัดที่เชื่อมต่อกันถึง 5 ชั้น โดดเด่นด้วยการตัดรายละเอียดสีเหลืองลงบนพื้นหน้าปัดสีดำด้าน สีเทากันเมทัล และสีโรเดียมเงิน เข้าคู่กับสายหนังวัวสีดำประกบด้านในด้วยสีเหลืองพิมพ์ลายสัญลักษณ์ 7F พร้อมติดตั้งระบบ Fast Changing System หรือ FSC สำหรับให้สามารถเปลี่ยนสายเองได้อย่างรวดเร็วง่ายดาย ฝาหลังฝังชิปNFC ใช้เชื่อมต่อกับ SEVENFRIDAY แอปพลิเคชันบนมือถือ ในการเช็คและลงทะเบียนแสดงความเป็นเจ้าของ สำหรับกลไกเป็นแบบออโตเมติกที่ได้รับการออกแบบพิเศษโดยเฉพาะโดยซึ่งอยู่บนพื้นฐานของกลไก Miyota 82S7 เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และมีความคลาดเคลื่อน 10-20 วินาทีต่อวัน

Mido Guggenheim
     

อาคาร: แรงบันดาลใจมีอยู่รอบตัวจริงๆ และถ้าคุณเป็นแฟนของ Mido หรือได้อ่านเรื่องราวของพวกเขาแล้ว คุณจะพบว่านาฬิกาในแต่ละคอลเล็กชั่นของเขามีที่มาในการออกแบบโดยอ้างอิงจากสถาปัตยกรรมต่างๆ ของโลก เช่น ประภาคารที่ช่องแคบยิบรอลต้า, สะพานโค้งที่ทอดตัวข้ามอ่าวซิดนีย์ หรือโรงอุปรากรที่เมือง Rennes ประเทศฝรั่งเศส ส่วนอีกเรือนหนึ่งที่ถือว่าเด่นและน่าสนใจคือ รุ่น Guggenheim และก็คงไม่ต้องบอกว่าแรงบันดาลใจในการออกแบบของคอลเล็กชั่นนี้มีที่มาจากไหน

Mido ปวารณาตัวเองให้แตกต่างด้วยสโลแกน ‘Inspire by Architecture’ นั่นก็เลยทำให้เรื่องของอาคารและสถานที่เข้ามามีส่วนในการออกแบบนาฬิกาเกือบทุกรุ่นของพวกเขา ส่วน Guggenheim ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2017 เป็นการนำเส้นสายที่อยู่บนอาคารจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ Guggenheim มาเป็นแบบในการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือที่ใช้ชื่อเดียวกัน และมีตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ในการติดตั้งกลไดล Caliber 80Si ที่มีกำลังงานสำรอง 80 ชั่วโมง พร้อมใยสปริงที่ผลิตจากซิลิคอน ซึ่งช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสนามแม่เหล็กได้

     การผลิตมีเพียงคี่ 500 เรือนเท่านั้น และคาดว่าถึงตรงนี้โอกาสที่จะเหลือหากคิดที่จะตามเก็บ คงยากหน่อย

Bell & Ross Aviation Instrument
     

หน้าปัดเครื่องบิน: พูดแค่นี้เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะทราบแล้วว่าเรากำลังหมายถึงแบรนด์อย่าง B&R หรือ Bell & Ross ซึ่งนาฬิกาที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาคือรุ่น Instrumental และ Experimental ที่ยึดรูปแบบของมาตรวัดที่แสดงอยู่บนหน้าปัดของเครื่องบินมาใช้ในการออกแบบและถ่ายทอดไอเดียนี้ผ่านนาฬิกาหลากหลายรุ่นใน 2 คอลเล็กชั่นนี้

ใน 2 คอลเล็กชั่นหลักนี้ตัวเรือนนาฬิกาจะมากับทรงสี่เปลี่ยนจตุรัส พร้อมเข็มทรงดาบขนาดใหญ่ โดยตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางให้เลือกหลากหลายขนาดทั้ง 42 และ 46 มิลลิเมตร ขณะที่กลไกก็มีทั้งแบบใช้ 3 เข็มปกติ แบบ Chronograph และแบบที่สามารถแสดงผลเวลาที่ 3 หรือ GMT

TAC Automatic Vintage Len II
     

กล้องถ่ายรูป: TAC แบรนด์นาฬิกาของญี่ปุ่น เอาใจบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่น Automatic Vintage Len II ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์นาฬิกาขึ้นมาโดยอ้างอิงภาพหน้าตรงของกล้องถ่ายภาพรุ่นเก่าๆ และมีการใช้พื้นที่ของชุดเลนส์มาเป็นหน้าปัดของตัวนาฬิกา พร้อมกับออกแบบกระจกให้มีความนูนและโค้งเหมือนกับเลนส์ที่อยู่ในกล้อง พร้อมกับตกแต่งพื้นที่โดยรอบให้ดูเหมือนกับชุดเลนส์ที่ติดตั้งอยู่ในกล้องยังไงยังงั้นเลย

ตัวนาฬิกามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 47 มิลลิเมตร และใช้กลไกอัตโนมัติ Miyota 82OS มีความสามารถในการกันน้ำได้ 100 เมตร ใครที่สนใจก็ลองสั่งมาใช้งานกันได้

ยาน Tie Fighter: ถ้าไม่รู้จักชื่อ Devon ก็ไม่ใช่เรื่อแปลกอะไรหรอก เพราะว่าโปรเจ็กต์แรกของพวกเขาในการผลิตรถสปอร์ตนั้นถูกยุติลงก่อนที่จะถูกส่งลงตลาด นั่นก็เลยทำให้แบรนด์อเมริกันรายนี้หันมาจับตลาดนาฬิกาแทน และเมื่อสัก 3-4 ปีที่แล้วตอนที่ภาพยนตร์เรื่อง Star Wars คัมแบ็คด้วยการเปิดตัว Episode VII พวกเขาก็เผยภาพนาฬิกาสุดล้ำที่มียานอวกาศ Tie Fighter ของฝ่ายจักรวรรดิเป็นแรงบันดาลใจ

Devon Star Wars มากับรูปทรงเหลี่ยมที่มีตัวเรนือนกว้างถึง 60 มิลลิเมตรและมีปีกเล็กๆ วางอยู่ทางด้านข้างตัวเรือนเหมือนกับยานอวกาศที่พวกเขาเลือกมาเป็นแบบพร้อมกลไกอัตโนมัติแบบพิเศษทีใช้สายพายในการเชื่อมต่อการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ ส่วนการผลิตมีเพียง 500 เรือนเท่านั้นและมีป้ายราคาอยู่ที่ 28,500 เหรียญสหรัฐฯ