น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานที่เกิดจากการที่ผึ้งไปนำน้ำหวานจากเกสรดอกไม้มาสะสมเอาไว้ภายในรังผึ้ง ชนิดของน้ำผึ้งจะเรียกชื่อที่ต่างกันไปตามชนิดของดอกไม้ที่เป็นแหล่งน้ำหวาน เช่น น้ำผึ้งดอกส้ม น้ำผึ้งจากต้นเบอร์รี่ น้ำผึ้งจากต้น sage เป็นต้น ด้วยการเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติ น้ำผึ้งจึงถูกยกให้เป็นอาหารที่ถือว่าดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉลี่ยแล้วน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เป็นสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต 17 กรัม และให้พลังงานราว ๆ 64 แคลอรี่ และยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ถ้าอยากรู้ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

1. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

น้ำผึ้งคุณภาพดีจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น phenolic acid และ flavonoid สารเหล่านี้จะช่วยร่างกายในการต่อสู้กับโรคภัย และช่วยลดปฏิกิริยาการทำลายเซลล์ของร่างกาย จึงทำให้ช่วยลดกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้น ยามที่ร่างกายมีการเจ็บป่วย หรือติดเชื้อ อีกทั้งยังช่วยให้คุณไม่แก่ลงอีกด้วย โดยมีงานวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้มีส่วนในการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวานได้อีกด้วย โดยน้ำผึ้งที่จะให้สารต้านอนุมูลอิสระสูงนั้นก็คือน้ำผึ้งที่ได้จากเกสรของต้น buckwheat

2. ช่วยให้แผลหายเร็ว

ตำราแพทย์แผนโบราณจากหลาย ๆ ชนิด มักจะมีการใช้น้ำผึ้งทาที่บาดแผลเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ซึ่งจากการวิจัยในปัจจุบันก็พบว่าช่วยได้จริง ๆ เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ จึงทำให้แผลไม่เกิดการติดเชื้อ แผลจึงหายได้เร็วขึ้น โดยมีการนำน้ำผึ้งไปประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลหลุม โดยพบว่าช่วยทำให้แผลดีขึ้นกว่าเดิมถึง 97% นอกจากนี้ยังพบว่าสามารถนำไปใช้ในการเสริมการรักษาโรคผิวหนังอย่าง สะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ และเริมได้ด้วย

3. บรรเทาอาการไอเจ็บคอ

เวลาที่เป็นหวัด มีอาการไอ เจ็บคอ แล้วไม่อยากกินยาล่ะก็ ลองใช้วิธีธรรมชาติอย่างน้ำผึ้งก็ได้ผลดีทีเดียว การจิบน้ำผึ้งเปล่า ๆ ผสมกับน้ำมะนาว หรือชงกับน้ำอุ่นนั้นจะช่วยให้ลำคอของคุณชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง จึงช่วยบรรเทาอาการไอหรือเจ็บคอลงได้แบบไม่ต้องพึ่งยา โดยสูตรยอดฮิตก็เห็นจะเป็น การใช้ น้ำผึ้ง 3-4 ส่วน ผสมกับน้ำมะนาว 1 ส่วน ใช้จิบตอนเช้า หรือจะระหว่างวันก็ได้

4. ช่วยเรื่องของการขับถ่าย

องค์ประกอบของน้ำผึ้งนั้น นอกจากน้ำตาลและแร่ธาตุต่าง ๆ แล้ว ยังส่วนผสมที่เป็นเอนไซม์อยู่ด้วย เอนไซม์เหล่านี้มีความสามารถในการย่อยสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตได้ จึงช่วยให้ระบบการย่อยอาหารพวกข้าว แป้ง ทำได้ดีขึ้น ลดปัญหาท้องผูกได้ดีทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ อีกทั้งยังช่วยเสริมการผลิตเมือกภายในลำไส้ อันเป็นเสมือนตัวหล่อลื่นทำให้ขับถ่ายได้ง่ายมากขึ้น ใครที่มีปัญหาท้องผูกอยู่ล่ะก็ลองดื่มน้ำผึ้งผสมกับน้ำอุ่นและมะนาวทุกวันดู รับรองว่าโล่งสบายแน่นอน

5. แก้อาการนอนไม่หลับ

การนอนไม่หลับจะส่งผลเสียให้ร่างกายมีการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ จนอาจจะทำให้เกิดโรคและความเหนื่อยล้าตามมาได้ ใครที่ไม่อยากต้องพึ่งยานอนหลับหรือยาคลายเครียด ก็สามารถใช้น้ำผึ้งช่วยได้ เพราะในน้ำผึ้งมีกรดที่เรียกว่า Decinoic acid อยู่ กรดนี้จะมีคุณสมบัติในการคลายความเครียด โดยจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จึงสามารถหลับได้อย่างสบายใจ โดยใครที่อยากกินเพื่อแก้ปัญหานี้ ก็ควรที่จะรับประทานน้ำผึ้งในช่วงก่อนเข้านอน ก็จะทำให้หลับสนิท ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

ประโยชน์เยอะขนาดนี้ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายคงต้องเลียนแบบเจ้าหมีพูห์ด้วยการซื้อน้ำผึ้งมาติดไว้ที่บ้านกันบ้างแล้ว จะเอาไว้เผื่อใส่แผล เอาไว้ผสมกินกับมะนาว หรือจะเอาไว้ใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลก็ได้ โดยในปัจจุบันก็มีน้ำผึ้งจากที่ได้จากเกสรของต้นไม้ดอกไม้หลายชนิดให้เลือกซื้อกัน แต่ไม่ว่าจะซื้อจากไหนก็อย่าลืมดูแหล่งขายที่ไว้วางใจได้ หรือมีฉลากที่ครบถ้วนถูกต้องไว้ก่อน ไม่งั้นได้น้ำผึ้งปลอมมาก็คงจะเสียท่าแย่เลย