สวัสดีเพื่อนๆทุกคน กลับมาพบกันเป็นประจำทุกวันเช่นเคยกับเรื่องราวสาระดีๆ สำหรับบทความนี้เราขอจัดให้เอาใจหนุ่มๆทุกวัยไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน หรือวัยทำงาน เพราะวันนี้เราจะมาพูดกันเรื่องความผิดหวัง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนเสมอ สาเหตุของความผิดหวังนั้นมักจะเกิดขึ้นจากการการตัดสินใจที่ผิดพลาด ความประมาท ไม่เตรียมพร้อม เเละการถูกปฏิเสธ เเต่คงไม่มีความผิดหวังใดที่ทำให้เราชอกช้ำเท่ากับการถูกปฏิเสธเเล้วจริงไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการถูกปฏิเสธเรื่องความรัก ได้รับโอกาสไปสัมภาษณ์งานเเล้วสุดท้ายเขาก็ไม่รับเข้าทำงาน หรือถูกลูกค้าปฏิเสธไม่ยอมสั่งซื้อสินค้า ไม่ว่าจะทำทุกอย่างเต็มที่ เตรียมพร้อมเเละทุ่มเททุกอย่างเเล้ว เเต่สุดท้ายถูกปฏิเสธเช่นนี้เป็นใครก็ต้องรู้สึกท้อเเท้เเละเสียใจเป็นธรรมดา

เเล้วเราจะรู้สึกดีขึ้นจากความผิดหวังหลังจากการถูกปฏิเสธได้อย่างไร วันนี้เรามีเทคนิคดีๆจะมาเเนะนำให้เพื่อนๆได้ทราบกันครับ

1. อย่าตั้งความหวังไว้กับอะไรเต็มร้อย รู้จักเผื่อใจไว้กับทุกสิ่ง

เพราะในโลกเเห่งความเป็นจริงนั้น “ความไม่เเน่นอน คือ สิ่งที่เเน่นอนเสมอ” เราไม่สามารถคาดหวังเเละมั่นใจกับอะไรได้ 100% เพราะบางครั้งสิ่งที่เรามั่นใจเกินร้อย คนอื่นเค้าก็มั่นใจเหมือนกับเราเช่นกัน เช่น คนถูกหวย 30 ล้านจะต้องมีได้เพียงเเค่คนเดียวเท่านั้น เเม้ว่าเเต่ละคนจะมั่นใจล้านเปอร์เซนต์ก็ตาม คนที่รู้จักทำใจให้เป็นกลาง เผื่อใจไว้กับทุกอย่าง พร้อมหาทางรับมือไว้ล่วงหน้ากับสถานการณ์ที่อาจไม่สมหวังจะเป็นผู้ที่เสียใจน้อยที่สุดหากเหตุการณ์ความผิดหวังนั้นเกิดเป็นจริงขึ้นมา

2. หากใจห่อเหี่ยว พาร่างกายออกจากจุดนั้น

เรามักเคยได้ยินผู้รู้พร่ำสอนเสมอว่าให้รู้จักตั้งสติ ควบคุมจิตใจเพราะ “จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว” ซึ่งเราก็ไม่โต้เเย้งกับคำสอนดังกล่าวนั้น เพราะนั่นอาจจะใช้ได้ผลดีกับคนที่มีสภาพร่างกายเเละจิตใจที่สมบูรณ์ปกติทั่วไป เเต่สำหรับคนที่จิตใจเพิ่งโดนทำร้ายมานั้นจิตใจย่อมอ่อนเเอเกินจะรับไหวจนไม่อาจควบคุมร่างกายได้ ทำให้ร่างกายอ่อนเเอตาม เเต่เพื่อนๆเชื่อไม่ครับว่าร่างกายเเละจิตใจนั้นมีความสัมพันธ์กัน เกื้อกูลกันไม่มีใครเป็นนายเป็นบ่าวกันหรอก ในสภาวะที่จิดใจย่ำเเย่เเบบนี้หากคุณสามารถพาร่างกายของคุณออกจากจุดที่คุณอยู่ออกไปสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ รับอาหารหู อาหารตาใหม่ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายก็จะช่วยเยียวยาจิตใจของคุณให้ดีขึ้นมาได้จนพร้อมที่จะตั้งหลักสู้อีกครั้ง ดังนั้นใครที่พึ่งผิดหวังจากการถูกปฏิเสธมา ก็จงอย่านอนจมปลักอยู่เเต่บนเตียงนอนในห้อง เเต่ควรลองออกมาเดินเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงเช้า เเละช่วงเย็นเเบบที่คุณไม่เคยทำมาก่อน เชื่อได้ว่าซักพักจิตใจของคุณจะค่อยๆ เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

3. รู้จักปล่อยวางเเละให้อภัยตัวเอง

หลายคนเมื่อประสบความผิดหวังครั้งสำคัญเเต่ละครั้งมักจะลงเอยด้วยการทำโทษตัวเอง หรือทำร้ายตัวเองไม่ว่าจะเป็นไปด้วยการกักขังตัวเองอยู่เเต่ในห้อง ข้าวปลาไม่กิน ไม่ก็ดื่มเเต่สุราเเละของมึนเมา ซึ่งการทำเช่นนั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เเละไม่มีใครเห็นอกเห็นใจกับการประพฤติตัวเเบบนั้นของคุณด้วย เพราะจะมีเเต่คนเค้าสมเพชรู้สึกว่าคุณเป็นคนอ่อนเเอไร้ศักศรี สิ่งที่คุณควรทำคือรู้จักปล่อยวาง ให้อภัยตัวเอง เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้จากบทเรียนที่ได้รับ เเล้วรีบลุกขึ้นกลับมาสู้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งการลุกขึ้นสู้อีกครั้งจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณยังไม่รู้จักให้อภัยตัวเองเเละปรับทัศนคติเกี่ยวกับความผิดหวังซะใหม่

 
4. ถามตัวเองให้หนักว่าได้เรียนรู้อะไรจากความล้มเหลวในครั้งนี้

ทุกความผิดหวังล้วนเเล้วเเต่มีมูลค่าที่คุณต้องจ่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทอง เเรงกาย เเรงใจ อารมณ์ความรู้สึกเเละเวลา หลายคนทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อมาล้มเหลว เเต่ไม่เป็นไรครับหากคุณปรับทัศนคติใหม่ได้ว่านั่นคือการทุ่มเทเพื่อที่จะได้เรียนรู้บทเรียนบทหนึ่ง เมื่อเกิดความล้มเหลวขึ้นเเล้วจงรีบลิสต์ออกมาเป็นข้อๆว่าคุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง สาเหตุของความล้มเหลวเกิดจากอะไร เเละคุณจะมีเเนวทางในการเเก้ไขพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร หากคุณทำได้ดี คุณจะเป็นคนที่เก่งขึ้นต่อไปในอนาคต

นี่ก็คือ 4 เทคนิคดีๆ ที่เราอยากจะเเนะนำให้คุณเอาไว้ใช้รับมือกับความล้มเหลว ซึ่งไม่ว่าจะผิดหวังมาจากสาเหตุอะไรเทคนิคทั้ง 4 ข้อนี้สามารถช่วยคุณได้ทุกกรณีครับ ไม่เชื่อลองนำไปใช้ดู