ปิดเมนู
หน้าแรก

3 เหตุผล ทำไมถึง “ห้ามนอน” ทั้งที่ “ผมเปียก”

เปิดอ่าน 164 views

3 เหตุผล ทำไมถึง “ห้ามนอน” ทั้งที่ “ผมเปียก”

Hello Khun Mor

สนับสนุนเนื้อหา

คุณผู้อ่านเคยรู้สึกขี้เกียจรอผมแห้งหลังจากอาบน้ำก่อนเข้านอน แล้วก็เลยล้มตัวลงนอนเลยโดยที่หัวยังไม่แห้งบ้างไหมคะ? ถ้าเคยล่ะก็ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาคุณมาดูว่าการ นอนทั้งที่ผมเปียก นั้นสามารถสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพได้โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว แต่จะอันตรายมากน้อยแค่ไหนนั้น ไปติดตามกันได้ที่บทความนี้เลยค่ะ

3 เหตุผล ทำไมถึงห้ามนอนทั้งที่ผมเปียก

กิจกรรมก่อนนอนที่เราทุกคนต้องทำก็คือการอาบน้ำชำระล้างร่างกายจากสิ่งสกปรก เหงื่อไคล และคลายความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาทั้งวัน บางคนเลือกที่จะอาบน้ำเพียงอย่างเดียว ขณะที่อีกหลายคนขอสระผมด้วย ซึ่งการสระผมก่อนนอนนี่เองที่อาจกลายมาเป็นปัญหาได้ เพราะเมื่อสระผมแล้ว กว่าที่ผมจะแห้งสนิทนั้นก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งในการทำให้ผมแห้ง ซึ่งก็ดูไม่น่าเป็นปัญหาอะไรถ้าหากเราทำให้ผมแห้งก่อนที่จะเข้านอนได้

อย่างไรก็ดี ปัจจัยของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บางคนอาจง่วงเกินกว่าที่จะนั่งรอให้ผมแห้ง หรือการขาดแคลนอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ผมแห้ง ซึ่งบ่อยครั้งอาจทำให้ต้องนอนทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่ และนั่นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามตามมา ดังนี้

1. เป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย

ฟังดูเป็นอะไรที่น่ากลัวเกินคาดคิด แต่เดี๋ยวก่อน… การนอนทั้งผมเปียกๆ แล้วก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียที่ว่านั้น ไม่ได้หมายถึงว่าจะมีแบคทีเรียหรือเชื้อราเกิดขึ้นที่เส้นผมและหนังศีรษะ การนอนทั้งผมที่เปียกอยู่นั้น หยดน้ำและความชื้นจากเส้นผมกับหนังศีรษะจะไปกองอยู่ที่หมอน

ทั้งนี้ทั้งนั้น หมอนที่เราหนอนหนุนกันทุกคืนนั้น ไม่ควรที่จะเปียกหรือมีความชื้น เพราะอาจก่อให้เกิดการหมักหมมของเชื้อรา แบคทีเรีย และสิ่งสกปรก ซึ่งเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาสิว สิวอุดตัน หรือปัญหาของใบหน้ากับหนังศีรษะอื่นๆ

2. ผมแตกปลาย

เส้นผมของคนเรานั้นจะมีความอ่อนแอที่สุดก็คือในช่วงที่เส้นผมกำลังเปียก การนอนทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่เป็นประจำ จะไปทำให้แกนผมเกิดการแตกและหัก ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาเส้นผมแตกปลายได้

การนอนแบบหัวยังเปียกอยู่ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาผมแตกปลายขึ้นมาแบบทันที แต่ในระยะยาวหากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่นนี้ ก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีผมแตกปลาย และอาจนำไปสู่ปัญหาผมขาดและหลุดร่วงได้

3. มีปัญหากับทรงผม

การที่เลือกเข้านอนเลยโดยที่ผมยังไม่แห้งนั้น แม้เวลาจะผ่านไปจนถึงเช้า ก็ไม่ได้การันตีว่าผมจะแห้ง เนื่องจากปัจจัยของเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ผมอาจจะแห้งได้ภายในเวลาชั่วข้ามคืนสำหรับคนที่ผมบาง แต่กับคนที่ผมหนานั้น ผมอาจจะยังชื้นอยู่ หรือยังไม่แห้ง

การที่เรานอนไปแบบหัวยังเปียกอยู่นั้น เส้นผมก็จะเกิดการพันกัน หรือบางคนอาจเกิดปัญหาผมลีบแบนขึ้นมาได้ และเมื่อไม่สามารถคาดเดาสภาพผมหลังการตื่นนอนได้ ก็อาจจะทำให้ต้องมาเสียเวลาไดร์ผมใหม่อีกครั้ง หรือเสียเวลากับการหวีและสางผมที่พันกันอยู่ให้คลายตัว ทั้งๆ ที่ตั้งใจสระผมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนเพื่อจะย่นระยะเวลาในการแต่งตัวตอนเช้าแท้ๆ ยิ่งไปกว่านั้น การหวีผมที่พันกันก็ยังเสี่ยงที่จะทำให้ผมขาดและหลุดร่วงในระหว่างการหวีอีกด้วย

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการนอนทั้งๆ ที่ผมยังเปียก

หนึ่งในความเข้าใจผิดอันใหญ่หลวงที่เหล่าคุณแม่ คุณย่า คุณยาย หรือคุณทวดมักจะพูดต่อๆ กันมาก็คือ การนอนโดยที่ผมยังไม่แห้ง ความชื้นจากเส้นผมและหนังศีรษะจะทำให้ไม่สบายและเป็นหวัดได้ ซึ่งในเรื่องนี้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญให้คำตอบว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการเป็นหวัดหรือโรคไข้หวัดนั้นต้องเกิดจากการที่ร่างกายไปรับเอาเชื้อไวรัสมา ทั้งจากการไอ การจาม หรือการสัมผัสกับเสมหะหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่เป็นหวัดหรือมีเชื้อหวัด

ดังนั้น การที่นอนโดยที่ผมยังเปียกอยู่จึงไม่ได้มีส่วนใดๆ ในการเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นหวัดเลย แต่ถ้าผมเปียกแล้วออกไปข้างนอกและได้รับเอาเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัสมาด้วย นั่นต่างหากที่จะมีโอกาสทำให้เป็นหวัดได้

ควรทำอย่างไรหากต้องนอนตอนผมเปียก

แต่ถ้าจำเป็นจะต้องนอนทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่ล่ะ? จะทำยังไงได้บ้าง? แน่นอนว่าจะต้องมีสักวันหรือสักครั้งที่เราจำเป็น หรือตกอยู่ในสถานการณ์จำเป็นจะต้องเข้านอนเลยโดยที่ผมยังเปียกอยู่ ซึ่งถ้าสถานการณ์บีบบังคับให้เป็นแบบนั้น สามารถใช้วิธีดังต่อไปนี้ เพื่อป้องกันสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ

  • ทำให้ผมแห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้

วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่เรียกได้ว่า เกือบดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะจะช่วยลดความชื้นของเส้นผมและหนังศีรษะ ไม่ทำให้ผมเปียกมากเท่าตอนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำใหม่ๆ ดังนั้น ต่อให้สถานการณ์จะบีบบังคับให้ต้องเข้านอนเร็วมากแค่ไหน จะเพราะไฟดับ ขาดอุปกรณ์ ง่วงนอนมากๆ หรือความขี้เกียจก็ตาม พยายามทำให้ผมแห้งให้ได้มากที่สุด

การทำให้ผมแห้งโดยไวอาจเป็นการใช้ผ้าขนหนูค่อยๆ ซับเอาน้ำออกจากเส้นผม การเป่าผมด้วยพัดลม หรือใช้ไดร์เป่าผม จำไว้ว่าถ้าไม่สามารถทำให้ผมแห้งได้ทั้งหมด ก็พยายามทำให้ผมแห้งมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อที่เส้นผมจะได้ไม่ต้องเปียกไปตลอดทั้งคืนหรือจนถึงเช้า 

  • ชโลมน้ำมันมะพร้าว

สารในน้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ การชโลมน้ำมันมะพร้าวไปที่ผมยังเปียกหรือยังชื้นอยู่ แล้วเข้านอนเลย น้ำมันมะพร้าวจะช่วยป้องกันไม่ให้แกนผมแตกหรือหักจนก่อให้เกิดปัญหาผมแตกปลาย โดยน้ำมันมะพร้าวจะไปช่วยลดปริมาณการดูดซึมน้ำที่เส้นผม จึงช่วยลดปัญหาผมแตกปลายได้

  • ครีมนวดผม

บางคนอาจติดปัญหาเรื่องกลิ่นของน้ำมันมะพร้าว แต่ไม่ต้องกังวลไป การใช้ครีมนวดผมหรือครีมบำรุงผมก็ช่วยดูแลสุขภาพของเส้นผมให้ดีได้เช่นกัน โดยครีมนวดผมจะช่วยลดการเสียดสีของเส้นผมที่จะทำให้เกิดปัญหาผมพันกันขณะที่กำลังนอนหลับ ไม่ทำให้ตื่นมาแล้วผมพันกันรุงรัง ซึ่งอาจจะทำให้เสียเวลามานั่งหวีให้ผมคลายตัวในตอนเช้า

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : 3 เหตุผล ทำไมถึง “ห้ามนอน” ทั้งที่ “ผมเปียก”