ปิดเมนู
หน้าแรก

ไขข้อสงสัย ใช้นิ้ว “แคะขี้มูก” อันตรายหรือไม่

เปิดอ่าน 22 views

ไขข้อสงสัย ใช้นิ้ว “แคะขี้มูก” อันตรายหรือไม่

Hello Khun Mor

สนับสนุนเนื้อหา

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทั้งอากาศร้อน ชื้น หนาว มีผลต่อสุขภาพของเราทั้งสิ้น บางคนอาจเป็นหวัด บางคนอาจมีไข้ และบางคนอาจมีขี้มูกมากเนื่องจากเป็นหวัด ซึ่งเมื่อ ขี้มูก ก่อตัวจนอัดแน่นเต็มจมูก จนทำให้เรามักจะรู้สึกรำคาญ คัดจมูก หรือหายใจไม่ออก และในท้ายที่สุดเราจึงตัดปัญหาด้วยเอาเอานิ้วแหย่เข้าไปข้างในรูจมูกเพื่อ แคะขี้มูก ออกมา ฟังดูก็เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน แต่…การใช้นิ้วแคะขี้มูกเป็นสิ่งที่เหมาะสมในการทำความสะอาดขี้มูกแล้วจริงๆ หรือ? Hello คุณหมอ มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการแคะขี้มูกมาฝากค่ะ มาดูกันว่าจริงๆ แล้ว เราควรแคะขี้มูกกันรึเปล่า

ขี้มูก คืออะไร

ร่างกายของเราสร้างขี้มูกขึ้นมาเพื่อปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกที่เราหายใจหรือสูดดมเข้าไปทุกวัน โดยแรกเริ่มขี้มูกจะมีลักษณะเป็นเมือกเพื่อดักจับเอาเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ไว้ ป้องกันไม่ให้หลุดลอดเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ เมื่อดักจับสิ่งต่างๆ ได้พักหนึ่งแล้วขนเล็กๆ ในจมูกก็จะเคลื่อนย้ายเอาเมือกที่ดักจับสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ไปยังด้านหน้าของจมูก ก่อนที่เมือกเหล่านั้นจะค่อยๆ แห้งและกลายเป็น ขี้มูก ในที่สุด

ทำไมเราถึง แคะขี้มูก

เราแคะขี้มูก ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ดังนี้

ขี้มูกตันจมูกจนปิดกั้นระบบทางเดินหายใจ ทำให้รู้สึกอัดอัดที่จมูก หายใจไม่สะดวก ส่งผลให้หายใจไม่ค่อยออก

เป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งเมื่อเกิดอาการแพ้ขึ้นจะทำให้เกิดเมือกในจมูกเพิ่มมากขึ้นและสุดท้ายก็จะแห้งกลายเป็นขี้มูกจำนวนมากจนอุดกั้นการหายใจ หรือทำให้หายใจไม่ออก

โครงสร้างกะบังของจมูกที่แตกต่างกัน บางคนอาจมีกะบังจมูกที่เบี่ยงเบน จากที่ปกติกระดูกอ่อนจะอยู่กึ่งกลางระหว่างโพรงจมูกทั้งสองข้าง แต่กลับมีกระดูกอ่อนเบี่ยงเบนออกมาที่ข้างใดข้างหนึ่งมากจนเกินไป จนอาจทำให้หายใจไม่สะดวก และถ้ามีขี้มูกมากก็จะยิ่งคัดจมูกและหายใจไม่ออกมากกว่าปกติด้วย เพราะเหลือช่องว่างของโพรงจมูกน้อย

เป็นพฤติกรรมที่ทำจนเป็นนิสัย หลายคนมีพฤติกรรมบางอย่างที่ทำบ่อยๆ จนกระทั่งติดเป็นนิสัย เช่น การดึงผม การกัดเล็บ การแคะขี้มูก

เพื่อดูแลรักษาภาพลักษณ์ ลองนึกภาพว่ากำลังพูดอยู่แล้ว ขี้มูก ก็ปรากฎออกมาที่จมูกจนเห็นได้ชัด คงจะทำให้บุคลิกภาพดูไม่ดีสักเท่าไหร่นัก ดังนั้น การแคะขี้มูกและจัดการทำความสะอาดจมูกให้เรียบร้อยก่อนออกทำกิจกรรมในที่สาธารณะสามารถเพิ่มความมั่นใจในตัวบุคคลได้

อันตรายจากการแคะจมูก

การแคะขี้มูก หรือการแคะจมูก แม้จะทำด้วยเหตุผลที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเพื่อการตัดความรำคาญ การทำจนติดเป็นนิสัย หรือทำเพราะหายใจไม่สะดวก ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การแคะ ขี้มูก ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะสามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพบางประการ ดังนี้

  • เล็บของคนเรามีความแข็งและคม หากแคะขี้มูกด้วยความรุนแรง เล็บอาจทิ่มเข้าที่ผิวหนังในรูจมูกซึ่งมีความบอบบางจนเป็นแผล ทำให้มีเลือดออก เป็นเลือดกำเดาไหล หรืออาจทำลายเนื้อเยื่อและโครงสร้างภายในโพรงจมูก
  • นิ้วมือและเล็บ เป็นแหล่งสะสมชั้นดีของเชื้อโรคและแบคทีเรีย การนำนิ้วมือแหย่เข้าไปในรูจมูก อาจนำเอาเชื้อโรคและแบคทีเรียติดเข้าไปด้วย อาจทำให้เชื้อโรคบางอย่างถูกส่งต่อผ่านเข้าไปยังระบบทางเดินหายใจ จนเกิดการติดเชื้อและส่งผลต่ออาการทางสุขภาพ เช่น เป็นหวัด
  • การแพร่กระจายของแบคทีเรียและเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อไวรัสที่อยู่ใน ขี้มูก อาจแพร่กระจายไปยังพื้นผิวและสภาพแวดล้อมอื่นๆ โดยเฉพาะถ้าแคะขี้มูกแล้วไม่ล้างมือให้สะอาด เชื้อโรคหรือแบคทีเรียจากขี้มูกก็จะติดอยู่ที่มือ และส่งผ่านไปยังสภาพแวดล้อมต่างๆ

จะเลิก แคะขี้มูก ได้อย่างไร

สาเหตุที่ทำให้เราต้องแคะขี้มูกนั้นต่างที่มาและไม่เหมือนกัน การจะหยุดแคะขี้มูกได้ก็จำเป็นต้องแก้ที่สาเหตุก่อน โดยอาจใช้วิธีดังต่อไปนี้เพื่อหยุดแคะขี้มูก

รักษาความชุ่มชื้นภายในจมูก

ยิ่งจมูกแห้งเท่าไหร่ ขี้มูก ก็จะยิ่งแห้งและอุดตันเต็มรูจมูกมากเท่านั้น จึงจำเป็นต้องเพิ่มความชุ่มชื้นภายในโพรงจมูกด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

  • ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย
  • ฉีดน้ำเกลือหรือสเปรย์น้ำเกลือใส่จมูก เพื่อเพิ่มความชื้นให้แก่โพรงจมูก
  • ทาน้ำมันมะพร้าวบางๆ ภายในรูจมูก แต่กลิ่นของน้ำมันมะพร้าวอาจรบกวนคุณตลอดทั้งวัน สามารถใช้น้ำมันที่มีคุณสมบัติเดียวกันกับน้ำมันมะพร้าวแต่ให้กลิ่นที่หอมกว่าได้
  • ล้างรูจมูกด้วยน้ำอุ่น โดยอาจใช้หลอดฉีดเข้าที่จมูก ใช้ที่ฉีดแบบสเปรย์ หรือใช้กาเนติ (Neti Pot)
  • พยายามอยู่ในสถานที่ที่มีความชื้นอย่างเหมาะสม หรืออาจใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศกรณีอยู่ในห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท

รักษาอาการทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับจมูก

หลายคนต้องแคะขี้มูกบ่อยๆ เพราะเป็นภูมิแพ้ ไซนัส หรือมีอาการทางสุขภาพอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิด ขี้มูก ในรูจมูกมากมาย การดูแลรักษาอาการทางสุขภาพของตนเองที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นด้วยการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง

การผ่าตัด หรือการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เกิดขี้มูกเยอะ ก็จะลดความเสี่ยงที่จะแคะขี้มูกให้น้อยลงได้ หรือควรไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการรักษาให้หายขาด

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

บางคนแม้ไม่มีขี้มูกแต่ก็ขอให้ได้เอามือเข้าไปแคะในรูจมูก ซึ่งทำบ่อยจนกระทั่งกลายเป็นพฤติกรรมที่แก้ได้ยาก อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจเป็นผลมาจากความเครียด ซึ่งอาจจำเป็นจะต้องหาตัวช่วยในการคลายความเครียด เช่น การนั่งสมาธิ การไปทำกิจกรรมที่สนุกๆ หรือไปพบกับคุณหมอเพื่อทำการบำบัด

นอกจากนี้การเตือนสติตัวเองไม่ให้เอานิ้วแหย่เข้ารูจมูกก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเริ่มปรับตัวไม่ให้คล้อยตามพฤติกรรมเดิมที่ทำมา

วิธีกำจัดขี้มูกอย่างเหมาะสม

ขี้มูก ทั้งที่แห้งแล้ว หรือที่ยังเป็นเมือกอยู่ จำเป็นที่จะต้องกำจัดหรือทำความสะอาดออกจากรูจมูก เพราะถ้าปล่อยให้สะสมเอาไว้จนเต็ม ขี้มูกเหล่านี้อาจไหลย้อนกลับลงสู่ลำคอและเข้าสู่กระเพาะอาหารได้ แต่…การแคะขี้มูกเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสม จึงอาจใช้วิธีดังต่อไปนี้แทนการใช้นิ้วมือแคะขี้มูกโดยตรง

ล้างมือก่อนเสมอ เพื่อความสะอาดและความปลอดภัย ควรล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังแคะขี้มูก เพราะทั้งนิ้วมือ เล็บมือ และขี้มูก มีการสะสมและสัมผัสกับเชื้อโรคและแบคทีเรียอยู่ไม่น้อย

ใช้กระดาษทิชชู่ แทนการใช้นิ้วมือเปล่าๆ เนื่องจากนิ้วมือและเล็บของเราก็สัมผัสกับเชื้อโรคและแบคทีเรียตลอดทั้งวัน ขี้มูกเองก็ดักจับเอาเชื้อโรคและแบคทีเรียไว้ไม่น้อย ดังนั้นเพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคจากเข้านอกเข้าสู่ข้างในร่างกาย และเพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียในขี้มูก ควรใช้กระดาษทิชชู่พันนิ้วให้รอบก่อนแคะขี้มูก ป้องกันไม่ให้นิ้วมือและเล็บสัมผัสกับ ขี้มูก โดยตรง

ไม่ควรใช้นิ้วดันเข้าไปในจมูกลึกเกิน เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อโครงสร้างและเนื้อเยื่อภายในจมูก

สั่งขี้มูกออกมา หากขี้มูกมีลักษณะเหลวหรือเป็นเมือก อาจจะสามารถสั่งออกมากได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าขี้มูกแห้งแล้วอาจยากต่อการสั่งขี้มูก ให้เพิ่มความชุ่มชื้นภายในโพรงจมูกก่อน อาจเป็นการฉีดน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นเข้าจมูก เมื่อรู้สึกว่าจมูกมีความชื้นพอสมควรแล้วค่อยสั่งขี้มูกออกมา หรืออาจใช้กระดาษทิชชู่เช็ดทำความสะอาดแทน

ไม่ควรใช้สำลีก้านหรือสำลีก้อน ถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างขนาดเล็ก สามารถแหย่เข้าไปในรูจมูกได้ง่าย แต่เราไม่สามารถกะเกณฑ์ได้ว่าก้านสำลีเข้าไปลึกแค่ไหนแล้ว จึงถือว่าอันตรายหากแหย่เข้าไปลึกเกินจนกระทั่งโดนจุดสำคัญในจมูก

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ไขข้อสงสัย ใช้นิ้ว “แคะขี้มูก” อันตรายหรือไม่