แม้จะมีการรณรงค์เรื่องการใช้ถุงผ้าหรือกระเป๋าชอปปิงแบบใช้ซ้ำ  เวลาไปซื้อของตามสถานที่ต่าง เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติกให้น้อยลง แต่สำหรับคุณแม่บ้าน และคุณพ่อบ้านที่นิยมใช้ถุงผ้าไปจ่ายตลาด หรือซื้อของกินของใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ต คงต้องระมัดระวังเรื่องการใช้ถุงเหล่านี้ให้มากขึ้น

ล่าสุด หน่วยงานด้านมาตรฐานอาหารของอังกฤษ (Food Standard Agency – FSA) ออกมาเตือนแล้วว่า การใช้ถุงใบเดียวใส่อาหารทุกอย่างรวมกัน ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษอันเนื่องมาจากเชื้อโรคแบคทีเรียได้

โดย FSA  แนะนำว่า ควรจะแยกถุงใส่อาหารสด จำพวกเนื้อสัตว์ ปลา ผัก และไข่ ออกต่างหากจากอาหารพร้อมรับประทาน หรือของใช้ในบ้าน และไม่ควรนำถุงที่เคยใส่อาหารสดแล้ว มาใส่อาหารพร้อมรับประทาน หรือของใช้ในบ้านเป็นอันขาด

ทั้งนี้ เป็นเพราะอาหารสดมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่  จึงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ แม้ว่าเนื้อสัตว์ที่ซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตจะห่อหุ่มด้วยพลาสติกก็ตาม เพราะเชื้อจุลินทรีย์อาจติดอยู่บนหีบห่อที่บรรจุได้ โดยเฉพาะแบคทีเรียที่มีชื่อว่า E.coli (อี.โคไล)

อี.โคไล เป็นแบคทีเรียที่พบได้ในลำไส้ของสัตว์และมนุษย์  ซึ่งจะถูกขับออกมาพร้อมอุจจาระ และมีหลายร้อยสายพันธุ์  ซึ่งบางสายพันธุ์มีอันตรายและเป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องเสีย  ท้องร่วง และถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ

ดังนั้น วิธีป้องกันเชื้อโรคเหล่านี้ นอกจากแยกถุงใส่ของสดแล้ว ถุงผ้าที่นำไปใส่ของสดก็ควรซักทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ติดอยู่ตามถุงด้วย