ทุกครั้งที่ไปหาหมอ หมอมักถามอยู่เสมอว่า “แพ้ยาอะไรไหมครับ” เพราะหากแพ้ยาตัวไหน หมอจะได้ไม่สั่งให้ บางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่ากำลังแพ้ยาอะไรอยู่หรือเปล่า จึงเป็นเรื่องยากที่จะตอบคำถามของแพทย์ในระยะแรกๆ แต่หากเกิดอาการผิดปกติระหว่างทานยาตัวไหน เราคงจำได้ดีและตอบหมอได้โดยง่าย
ตัวเราเองไม่เคยมีประวัติแพ้ยาใดๆ แต่ก็ยังไม่แน่ใจตัวเองมากนักว่าจริงแล้วๆ เราแพ้ยาอะไรหรือเปล่า เพราะในชีวิตก็ไม่ค่อยได้ทานยาอะไรหลากหลายเท่าไร เราจะทราบได้อย่างไรว่าเราแพ้ยาอะไร มีอาการอย่างไรที่บ่งบอกว่ากำลังแพ้ยา แล้วเรามีโอกาสจะหายแพ้ยาตัวนั้นหรือไม่ มาดูรายละเอียดกันค่ะ
ทำไมเราถึงแพ้ยา?
อาการแพ้ยา เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในบุคคลนั้นๆ ที่มีความไวเกินต่อยา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบรับประทาน ฉีด ทาและสูดดม ความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่เกิดขึ้นกับบางคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไวต่อยามากกว่าปกติ คล้ายกับคนที่แพ้อาหารบางประเภทเช่นกัน อาจกล่าวได้ว่าอาการแพ้ยา เปรียบเหมือนความโชคร้ายส่วนบุคคลจริงๆ
แพ้ยา มีอาการอย่างไร?
แม้ว่าจะแพ้ยาชนิดเดียวกัน แต่ก็อาจจะมีอาการผิดปกติแตกต่างกันได้ ผู้ที่ได้รับยาที่แพ้เป็นครั้งแรก อาการอาจแสดงหลังจากทานยาตัวนั้นไปแล้วราว 1-3 สัปดาห์ แต่หากเคยรับยาตัวที่แพ้ไปแล้ว ครั้งต่อๆ มาอาการแพ้จะแสดงหลังทานยา 1-3 วัน
อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วอาการแพ้ยาจะมีอาการคร่าวๆ ดังนี้
– มีไข้ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ปวดข้อ คล้ายอาการหวัด หรือไม่สบาย
– มีผื่นแดงขึ้นตามตัว แขน ขา หรืออาจจะที่ปาก รอบๆ ปาก หน้า ลำคอ และอื่นๆ โดยลักษณะของผื่นเป็นได้ตั้งแต่เม็ดเล็กๆ เป็นปื้นๆ ตุ่มหนอง หรืออาจเป็นตุ่มน้ำพองใสๆ
– หน้าบวม แขนขาบวม ปากบวม ลิ้นบวม
– ใจสั่น แน่นหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน หรือหายใจติดขัด
– บางครั้งอาจส่งผลไปถึงการทำงานในอวัยวะภายใน เช่น ตับอักเสบ หรือไตวาย
– หากมีอาการรุนแรง อาจเป็นลม ตัวเย็น ชีพจรเต้นเบาและเร็ว ความดันโลหิตต่ำ จนถึงขั้นอาจหยุดหายใจ และเสียชีวิตได้ มักเกิดจากการแพ้ยาที่ฉีดเข้าเส้นเลือด เพราะจะออกฤทธิ์เร็ว
istockphoto
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : แพ้ยา ทำอย่างไร มีอาการอย่างไร หายแพ้ได้หรือไม่
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น