สาวๆ ทั้งหลายที่เคยรู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณหน้าอก หรือปวดเต้านมแบบแปลกๆ ไม่ควรนิ่งเฉยเด็ดขาด เพราะอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนบ่งบอกว่ากำลังมีความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการสังเกตอาการเจ็บหน้าอก หรือปวดเต้านมมาฝากกัน เพื่อให้สาวๆ รู้เท่าทันอาการว่าเจ็บแบบไหนถึงต้องไปพบแพทย์

สาเหตุของการเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านม

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านมนั้น อาจเกิดขึ้นจากฮอร์โมนที่มีความผันผวนผิดปกติ อันเนื่องมาจากรอบประจำเดือนในเพศหญิง ซึ่งอาการที่พบส่วนใหญ่ก็คือ เต้านมมักมีอาการบวมเป็นก้อน โดยจะเริ่มรู้สึกเจ็บปวดในช่วงก่อนประจำเดือนมา และอาการเจ็บจะยังคงอยู่ตลอดการมีรอบประจำเดือน ก่อนจะค่อยๆ หายไปในช่วงหลังจากหมดรอบประจำเดือนแล้ว

ประเภทของอาการเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านม

อาการเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านมนั้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1.อาการปวดตามรอบ (Cyclical Pain)

ส่วนใหญ่แล้วเป็นอาการเกิดขึ้นมาจากการปวดประจำเดือน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ในช่วงที่ประจำเดือน โดยอาการจะหายเป็นปกติในช่วงหลังจากหมดรอบประจำเดือนไปแล้ว

2.อาการปวดที่ไม่เป็นไปตามรอบ (Noncyclical Pain)

เป็นอาการที่เกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน อาจเป็นเพราะเต้านมได้รับบาดเจ็บจากการกระแทก หรือปวดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณรอบเต้านม

อาการเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านมที่ควรไปพบแพทย์

หากสาวๆ มีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านมดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินและรักษาโดยด่วน

1.เจ็บเต้านมแบบทันทีทันใด ร่วมกับมีอาการเสียวซ่านบริเวณแขนและขา อาการเหล่านี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายได้

2.เจ็บหรือปวดบริเวณเต้านมติดต่อกันนานกว่า 2 สัปดาห์

3.รู้สึกเจ็บหรือปวดกระจุกอยู่บริเวณจุดใดจุดหนึ่งของเต้านมเป็นระยะเวลานานๆ

4.รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณก้อนภายในเต้านม ที่มีลักษณะใหญ่และหนามากขึ้น

5.รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านมมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถทนได้

อาการเจ็บหรือปวดเต้านมนั้น ปกติแล้วสามารถเกิดขึ้นได้ในเพศหญิง ทั้งที่มีประจำเดือนและไม่มีประจำเดือน ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นในช่วงมีประจำเดือนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีประจำเดือนแล้วรู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านม อาจมีสาเหตุของอาการมาจากปัจจัยที่แตกต่างกันไป จึงจำเป็นต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายอยู่เสมอ หากพบอาการเจ็บหรือปวดที่ผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วนเพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะถ้าหากปล่อยไว้และอาการรุนแรงมากขึ้น ก็อาจจะนำไปสู่โรคร้ายต่างๆ ได้