เคล็ดลับ!! หลักการใช้สัญญาณแตรรถยนต์ตามหลักสากล

ต้องบอกเลยจะครับ ว่าคนเราทุกวันนนี้ขับรถกันใจร้อนเหลือเกิน ได้ยินเสียงแตรนิดๆ หน่อยๆ ก็แทบจะวางมวยกันแล้ว เพลีย!! งั้นเราลองมาทำความเข้าใจ การใช้สัญญาณแตรรถยนต์ตามหลักสากล กันหน่อยดีกว่า เพื่อที่จะได้เข้าใจความหมายของการเตือนจากเพื่อนร่วมถนนของเรากันบ้าง บางครั้งการบีบแตรใส่ก็ไม่ได้หมายความถึงการต่อว่าด่าทอเพียงอย่างเดียวหรอกนะครับ

1 เสียงบีบแตรแบบเบาและสั้นต่อเนื่องหลายครั้ง ให้ความหมายเสมือนการทักทาย เช่น สวัสดี ฉันมาแล้วนะเว้ยเฮ้ย!! ทำได้ด้วยการบีบแตรแบบเบาและสั้นต่อเนื่องกันหลายๆครั้ง

2 เสียงแตรสั้นเบาๆ ให้ความหมายเหมือนการเตือนให้รู้ว่า เราอยู่ตรงนี้แล้วช่วยระวังด้วย หรือจะใช้เป็นการเตือนอย่างอื่นก็ได้นะครับ

3 เสียงบีบแตรค่อนข้างดังและยาว เป็นการเตือนรถคันข้างหน้าว่า มันไฟเขียวแล้วนะ รีบไปได้แล้ว มันต้องมีครับพวกที่ไม่ได้สนใจกับสัญญาณไฟที่อยู่ตรงหน้า อาจจะด้วยติดนานจัดจนลืม เราก็ทำการเตือนด้วยการบีบแตรให้ดังขึ้นซักนิด

4 เสียงบีบแตรแบบดังยาวและซ้ำกันหลายๆ ครั้ง นั้นเหมือนจะเป็นการบอกกลายๆ ว่า เฮ้ย!! ฉันรีบนะเร็วๆ หน่อย ซึ่งถ้าไม่รีบมากมาย ก็อย่าพยายามใช้นะครับ ส่วนใหญ่เสียงนี้แหละที่จะมีเรื่องกัน ฮ่าๆ

5 การบีบแตรแบบยาวต่าเนื่อง อันนี้ชัดเจนครับ คือ เราหมดความอดทนและโกรธมากกกก เหมือนเป็นการด่าไปในตัวด้วย จนอยากจะลดกระจกลงแล้วตะโกนด่ากันเลยทีเดียว แต่ถ้าคิดจะใช้สัญญาณนี้ต้องเตรียมใจที่จะมีเรื่องมาแล้วนะครับ แหม่… คนที่เค้าได้ยินก็คงไม่พอใจเหมือนกันเนอะ

ทั้งหมดก็ลองนำไปปรับใช้กันให้เหมาะสมกับสถานการณ์นะครับ อันไหนที่ไม่ควรใช้ก็อยากไปใช้เลยเนอะ บ้างครั้งเราเองก็ไม่ชอบที่ใครมาบีบแตรใส่เหมือนกัน ใจเขา ใจเราแหละครับ ใช้ถนนร่วมกันมีน้ำใจให้กันดีกว่าเนอะ

ขอบคุณที่มา ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และ สถาบัน ดิ เอมิลี่ โพสต์