ออกปากเองเลยว่า ถูกแซวหนักมาก สำหรับชุดแฟนซีที่นักแสดงหนุ่ม อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ ได้สวมใส่ในละครเรื่อง เพลิงนาคา โดยเจ้าตัวต้องรับบทเป็นพญานาค แต่งานนี้ดูเหมือนทุกคนต่างจะโฟกัสไปที่ท่อนบนซึ่งไร้เสื้อใส่ เพราะนอกจากกล้ามจะโตเป็นมัดๆ แล้ว หน้าอกหน้าใจยังดูใหญ่แย่งซีน เรียกทุกสายตาให้ดึงดูดได้อย่างดีทีเดียว

โดย อั้ม อธิชาติ ได้เผยให้ฟังว่า ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมีกระแสทางด้านนี้จึงโพสต์รูปโปรโมทละครปกติ แต่ผ่านไปสักพักแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์ ทำเอาตนเก็บอาการเขินไม่อยู่เลยทีเดียว ทั้งนี้เจ้าตัวยังได้เผยถึงเสียงปริศนาที่ปรากฏขึ้นในคลิปขณะไปบวงสรวงพญานาคให้ฟังอีกด้วย

ละครออนแอร์แล้ว กระแสดีพอสมควร ?

“ก็ดีครับ ปลื้มใจแทนทีมงาน เพราะซีจีมันยากมากๆ และทางผู้จัดเองก็ตั้งใจมากๆ ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าดีใจ เหมือนเราได้ดูหนังต่างชาติบนจอละคร”

เป็นการพลิกบทบาทมาเล่นร้ายครั้งแรกหรือเปล่า ?

“ก็ไม่เชิงครับ คือเคยเล่นประมาณที่ตัวละครจะมีความเป็นเทาๆ แต่ในส่วนเรื่องของเพลิงนาคา จริงๆ แล้วถ้าเปรียบเสมือนคนเรา เขาจะเป็นคนที่ถูกสอนให้เชื่อมากๆ ในเรื่องคำสอนของบรรพบุรุษ ความเชื่อในอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ที่เรามี แต่พอเชื่อมากไปมันก็กลายเป็นความศรัทธาที่ดูรุนแรง และทำให้เกิดเรื่องทั้งหมด ซึ่งเราก็อยากให้เห็นว่าการที่คนเราจะเปลี่ยนเป็นคนดีได้ บางทีมันไม่ต้องดีตั้งแต่ทีแรกก็ได้ ถ้าสมมติว่าเรามีความเข้าใจที่ผิด แต่วันหนึ่งเรามีจุดเข้าใจ เราก็สามารถเปลี่ยนไปอยู่ในจุดที่มีความเข้าใจที่ดีได้ครับ”

หลังจากนี้จะร้ายอีกแค่ไหน ?

“จริงๆ เป็นตัวละครที่น่าสงสารมาก เพราะเป็นคนที่อยู่คนเดียว ท่ามกลางความเชื่อต่างๆ ตอนท้ายต้องดูครับ มันจะร้ายก็ไม่เชิง บอกไม่ถูก ต้องรอดูครับ”

แต่คนก็โฟกัสที่หน้าอกเยอะมาก ?

“ครับ (ยิ้ม) ก็เกินความคาดหมาย คือตอนโพสต์ภาพไปก็ไม่ได้คิดอะไร และพอคอมเมนต์เข้ามามันเหมือนอารมณ์เราแต่งตัวโป๊และเดินออกมาหน้าปากซอย เดินผ่านมอเตอร์ไซค์วินกลุ่มใหญ่ ที่แซวผิวปากกัน”

ถูกแซวหนักเลย ?

“ใช่ครับ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรสชาติของคนดูละคร”

เขินไหม ?

“ครับ ก็นิดหนึ่งแหละ คือด้วยชุดมันจะเน้นมาก ก็มีเขินๆ นิดหนึ่ง (ยิ้ม)”

IG: atichart9อั้ม อธิชาติ อวดหุ่นแซ่บเกือบทั้งเรื่อง

ถามถึงคลิปที่ลงอินสตาแกรมเกี่ยวกับพญานาคไป ?

“จริงๆ แล้วเป็นงานที่ได้มีโอกาสไปบวงสรวง ไหว้ขอบคุณ สักการะองค์ปู่ศรีสัตตนาคราช ที่จังหวัดนครพนม ซึ่งตอนนั้นเพื่อนได้ไปขอเรื่องงาน แล้วก็ได้งานใหญ่มาก เราเลยตั้งใจว่าอยากจะไปตั้งโต๊ะบวงสรวง และในวันนั้นเป็นก่อนละครออนแอร์ 1 วัน เราก็เลยถือโอกาสบอกองค์ปู่ศรีสัตตท่านว่า ละครที่จะออนเรื่องเพลิงนาคา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับองค์ปู่ศรีสุวรรณนาคราช ซึ่งท่านคุมอยู่อีกเมืองหนึ่งแทบเมืองเหนือล้านนา เราก็ตั้งโต๊ะบวงสรวงกันตอนเช้า จากนั้นก็ถ่ายคลิปกัน โดยที่มีเฉพาะคนภายในของเราเท่านั้น”

“จากนั้นพอตัดต่อเสร็จ น้องที่ทำตัดต่อก็ส่งกลับมาบอกว่า พี่ช่วยดูคลิปนี้หน่อยครับ ผมไม่ทราบว่าเสียงอะไร เพราะตอนถ่ายไม่มีเสียงเลย เราก็เลยเปิดดู คือในเสียงมันดังมาก พอเรามานั่งนึกและถามทุกคนว่ามีใครเห็นรถผ่านตรงนั้นไหม หรือมีคนเดินผ่านไหม หรือมีเสียงอะไรตอนเช้าไหม ซึ่งทุกคนบอกไม่มี เป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนั้นเช้ามาก และเสียงที่ฟังจากในคลิป ต้นเสียงดังมาจากริมแม่น้ำ”

“ซึ่งสังเกตจากสายตาในคลิปของเรา เราไม่ได้หันไปมองเสียงเลย คือถ้าในระหว่างถ่ายเราได้ยิน เราจะหันไปมองใช่ไหมครับ อีกอย่างหากได้ยินเสียงจริง เราต้องสั่งคัตแล้ว และในพิธีวันนั้นเหมือนมีน้ำตกใส่หน้าตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง เหมือนเป็นน้ำมนต์ เหมือนเป็นละออง จริงๆ แล้วพญานาคท่านจะพ่นน้ำลงแม่น้ำ แต่ด้วยลมที่พัดก็ได้ตีกลับมาที่หน้าเราตลอด ทุกคนคิดว่าฝนตก แต่มันไม่ใช่ วันนั้นจึงถือว่าเป็นวันที่ทุกคนมีความปีติและดีใจ ยิ่งพอได้มาเห็นคลิปยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกครับ”

หลังจากนั้นได้มีปาฏิหาริย์อะไรเกิดขึ้นอีกไหม ?

“ไม่ได้เรียกว่าปาฏิหาริย์ เพราะจริงๆ เรื่องราวแบบนี้เราค่อนข้างพบเห็นบ่อย ไม่ว่าจะอยู่ในภาพถ่าย หรือมีแสงประหลาดที่เกิดขึ้นในภาพ แต่ผมไม่อยากให้มองว่าเรื่องราวต่างๆ เป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์ อยากให้คิดซะว่ามนุษย์เราไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตอยู่อย่างเดียวบนโลกใบนี้ ยังมีสิ่งที่เรามองไม่เห็นอยู่หลายอย่าง มนุษย์เราไม่ได้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สิ่งที่ท่านทำให้เห็นหรือทำให้รับรู้ เพื่อให้มนุษย์ได้รู้ว่าทุกสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้ล้วนมีหน้าที่ที่แตกต่างกันครับ”

ส่วนใหญ่คอมเมนต์ในอินสตาแกรมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไปในทิศทางไหน ?

“ส่วนใหญ่ก็จะมาบอกว่าขอหวยนิดหนึ่ง (หัวเราะ) แต่ก็ร่วมอนุโมทนาและขอพรให้เรื่องราวของตัวเองที่กำลังพบเจออยู่ขอให้ได้พรจากองค์ปู่พญานาคครับ”

จริงๆ ส่วนตัวเราก็ศรัทธาเรื่องท่านอยู่แล้วใช่ไหม ?

“ศรัทธาที่เรามี เราก็ตั้งอยู่บนความมีสติทุกเรื่องนะครับ เพราะผมก็เชื่อว่าพระพุทธศาสนา คำสอนต่างๆ ก็ต้องมีผู้ดูแล มีผู้ปกป้อง อย่างเช่น คำว่า นาค เอง ก็มีมาอยู่ในพระไตรปิฎกนานอยู่แล้ว เป็นเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่มี ท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน สิ่งที่ท่านทำให้เราเห็นก็เพื่อให้รู้ว่ามนุษย์เราอย่ามัวแต่หลงระเริงอยู่กับเครื่องใช้ภายนอกต่างๆ”

มีได้ขอพรอะไรเพิ่มไหม ?

“วันนั้นก็ไม่ได้ขออะไร นอกจากขออนุญาตเรื่องละครที่เกี่ยวกับพญานาคซึ่งกำลังจะออนแอร์ ขอให้ทุกคนที่ได้ดูระลึกถึงคำสอนของพระองค์ และขอพรให้กับทีมงานทุกคนครับ”

ส่วนตัวแล้วเชื่อจริงๆ ไหมว่าเป็นเสียงของพญานาค ?

“จริงๆ เวลาได้ยินเสียง ผมจะต้องหาความจริงทางวิทยาศาสตร์ก่อน แต่พอเห็นว่าไม่มีคน ก็เลยลองหาข้อมูลว่ามีเรื่องเล่าไหม เสียงของพญานาคท่านเป็นยังไง และถามครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ ท่านก็บอกว่าเสียงเป็นแบบนี้เลย เป็นเสียงเหมือนกับช้าง เสียงร้องจะแปร้นขึ้นมาเลย อันนี้ก็คือแล้วแต่วิจารณญาณ แต่เราก็พยายามหาข้อมูลและหาความจริงที่ใกล้เคียงที่สุดครับ”

หรือเพราะในละครเราต้องรับบทเป็นพญานาคด้วย ?

“ผมว่าก็อาจจะมีส่วนในการที่เราทำหน้าที่ การที่ท่านทำให้เราได้รับรู้ หรือเป็นเสียงพญานาคจริงๆ ท่านก็อยากให้รู้ว่าสิ่งที่ทำมีอยู่จริงนะ เราทำทุกอย่างก็ต้องยิ่งตระหนักถึงความถูกต้อง ตระหนักถึงหัวใจความสำคัญของการมีอยู่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ”

“อั้ม อธิชาติ” เจอแบบนี้ก็เขินนะ “นมใหญ่แย่งซีน” คนดูลืมโฟกัสฝีมือการแสดง