ปิดเมนู
หน้าแรก

อันตรายจาก “หมึกช็อต” อาหารทะเลดิบ เสี่ยงท้องร่วง-พยาธิ

เปิดอ่าน 60 views

อันตรายจาก “หมึกช็อต” อาหารทะเลดิบ เสี่ยงท้องร่วง-พยาธิ

หลังจากมีกระแสในการกิน “หมึกช็อต” หรือ “หมึกชอต” โดยมีความหมายมาจากการนำหมึกสดๆ เอาหัวจุ่มลงไปในแก้วที่บรรจุน้ำจิ้มซีฟู้ด (ที่มาของคำว่า “ชอต” จากแก้วชอต) เพื่อให้หมึกโดน “ช็อต” ด้วยน้ำจิ้ม หมึกจะดูดเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้าตัว จากนั้นก็หยิบกินสดๆ โดยกัดทางส่วนหัวให้หมึกตาย แล้วค่อยกัดหรือหั่นส่วนลำตัวกินต่อ หรือหากหมึกตัวเล็กพอก็อาจจะเอาเข้าปากกินทั้งตัว โดยตอนที่กัดส่วนหัวอาจต้องลุ้นว่าตัวหมึกจะปล่อยน้ำหมึกสีดำออกมาด้วยหรือไม่

วิธีกินหมึกช็อตแบบนี้ เป็นที่ถกเถียงกันในสังคมถึงความเหมาะสมทั้งทางด้านจริยธรรมว่า การกินหมึกสดๆ เป็นๆ แบบนี้ หมึกจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดหรือไม่ เป็นการทรมานสัตว์มากเกินไปหรือเปล่า รวมไปถึงความเหมาะสมทางด้านของโภชนาการว่าปลอดภัยต่อคนกินหรือไม่อีกด้วย

สารอาหารที่ได้จากปลาหมึก

หมึก หรือปลาหมึก เป็นหนึ่งสัตว์ทะเลที่เป็นอาหารที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับมนุษย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไอโอดีน ธาตุเหล็ก สังกะสี และแคลเซียม รวมถึงไขมัน ทั้งจากคอเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน แม้จะอุดมไปด้วยไขมัน แต่ปลาหมึกก็มีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างความแข็งแรงแก่ร่างกาย ช่วยในการทำงานของกระดูก กล้ามเนื้อ และผิวหนัง และไขมันบางชนิดที่พบในปลาหมึกก็เป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเช่นกัน

อันตรายจาก “หมึกช็อต”

การรับประทานหมึกสดๆ อาจมีความเสี่ยงต่ออันตรายต่อสุขภาพในด้านต่างๆ ดังนี้

  • อาจพบโลหะหนักหลายชนิดที่สามารถตรวจพบในอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว สังกะสี แคดเมียม และทองแดง โดยเฉพาะแคดเมียม มักพบในปลาหมึกสายและปลาหมึกกระดองมากกว่าปลาหมึกกล้วย หากร่างกายได้รับแคดเมียมในปริมาณต่ำๆ จะไปสะสมในไต เช่นเดียวกับโลหะหนักอีกหลายชนิด หากร่างกายสะสมแคดเมียมมากเกินไป ในระยะยาวอาจทำให้เกิดโรคกระดูกโปร่งบางหรือกระดูกพรุน โดยจะไปรบกวนการทำงานของวิตามินดี แคลเซียม และคอลลาเจน ส่วนพิษเฉียบพลันของแคดเมียม หากได้รับปริมาณมากๆ ในคราวเดียว อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เป็นตะคริว หรือท้องเสียอย่างแรงได้
  • อาจเสี่ยงต่อเชื้ออหิวาต์เทียม หรือวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) ที่สามารถตรวจพบได้ในอาหารทะเล และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง อาจมีอาการปวดศีรษะและหนาวสั่นร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วง 12-24 ชั่วโมงหลังจากกินอาหารทะเลเข้าไป
  • อาจเสี่ยงพยาธิตัวกลม อาทิ Anisakis, Pseudoterranova, Contracaeceum ที่สามารถก่อโรคในคนเราได้หากกินสดๆ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหลังกิน 1-2 ชั่วโมง อาทิ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ลักษณะคล้ายกับแผลในกระเพาะอาหาร อาหารเป็นพิษ ไส้ติ่งอักเสบ

วิธีกินหมึกให้ปลอดภัยต่อร่างกาย

  1. เลือกแหล่งซื้ออาหารทะเลที่มั่นใจในความสะอาดและคุณภาพ
  2. รับประทานแบบปรุงสุก 100% เท่านั้น ไม่กินกึ่งสุกกึ่งดิบ และไม่กินดิบ
  3. หากจะกินหมึกดิบ ควรเป็นหมึกชนิดที่สามารถรับประทานดิบได้ และได้รับการเก็บรักษาในความเย็นต่ำเพื่อฆ่าพยาธิเรียบร้อยแล้ว (กรณีเดียวกันกับปลาดิบจากญี่ปุ่น)
  4. ล้างทำความสะอาดก่อนทำมาปรุงอาหารทุกครั้ง
  5. ไม่รับประทานมากจนเกินไป

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : อันตรายจาก “หมึกช็อต” อาหารทะเลดิบ เสี่ยงท้องร่วง-พยาธิ